วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
พญ.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ, นพ.ชาตรี ดวงเนตร, ศ.นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ,
พ.อ.นพ.สามารถ ราชดารา และ สุจิรา อรุณพิพัฒน์
องค์การอนามัยโลกและสมาคมต่อต้านมะเร็งสากลกำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น “วันมะเร็งโลก (World Cancer Day)”เพื่อสร้างความตื่นตัวและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งให้ประชากรทั่วโลก โรงพยาบาลวัฒโนสถ ร่วมรณรงค์ป้องกันโรคมะเร็งเนื่องในวันมะเร็งโลก 2559 พร้อมทั้งเปิดตัวนวัตกรรมที่ช่วยในการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งด้วยเครื่อง “PET/CT Scan”
รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมระบบ flow motion เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ณ ชั้น B1 โรงพยาบาลวัฒโนสถ
(โรงพยาบาลกรุงเทพ ซอยศูนย์วิจัย)
ศ.พิเศษ นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัฒโนสถ กล่าวว่า โรงพยาบาลวัฒโนสถ เป็นโรงพยาบาลที่ให้การรักษาเฉพาะโรคมะเร็งโดยตรง ซึ่งเราให้บริการตั้งแต่ให้คำปรึกษาแนะนำ, วินิจฉัยโรค, ให้การรักษาทุกรูปแบบ, ฟื้นฟูสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งเน้นงานด้านการศึกษาต่อเนื่องและวิจัยทางการแพทย์ โดยเป็นศูนย์รวมของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านมะเร็ง มีการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ และมีความทันสมัยเข้ามาใช้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของการรักษาและการวินิจฉัยมะเร็งให้ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก
.jpg)
ศ.พิเศษ นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ และ พ.อ.นพ.สามารถ ราชดารา
“ปัจจุบันการตรวจหามะเร็งหรือการบอกระยะของมะเร็งเพื่อการรักษาที่ถูกต้องมีหลายวิธี อาทิ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ, การตรวจทางเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan), เครื่องกำทอนแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) และการตรวจชิ้นเนื้อ ซึ่งเป็นการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่มีข้อจำกัด คือไม่สามารถบอกตำแหน่งของโรคมะเร็งได้ ขณะที่การตรวจ CT และ MRI เป็นการตรวจที่บอกถึงโครงสร้างทางกายภาพ และมีข้อจำกัดในการวินิจฉัยความผิดปกติของมะเร็ง จะวินิจฉัยได้เมื่อมะเร็งมีการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งจะช้ากว่า “เครื่อง PET/CT” ที่เป็นการตรวจความผิดปกติของเซลล์ระดับเมตาบอลิซึ่ม ตลอดจนเป็นเครื่องมือที่สามารถตรวจวินิจฉัยมะเร็งได้ตั้งแต่มีขนาดเล็กและมีความแม่นยำ จึงช่วยอำนวยความสะดวกให้กับแพทย์ผู้รักษามากยิ่งขึ้น ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการรักษาโรคมะเร็งได้อย่างทันท่วงที นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ในขณะนี้ โรงพยาบาลวัฒโนสถของเราได้มีการนำเครื่อง PET/CT รุ่นใหม่ ถึง 2 เครื่องที่ได้รับการพัฒนาให้มีมาตรฐานสูงและความทันสมัยเพื่อรองรับอัตราที่เพิ่มมากขึ้นของผู้ป่วยมะเร็งได้ดียิ่งขึ้น”
.jpg)
เครื่อง PET/CT Scan พร้อมระบบ flow motion
พ.อ.นพ.สามารถ ราชดารา แพทย์เวชศาสตร์นิวเคลียร์ โรงพยาบาลวัฒโนสถ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เครื่อง PET/CT Scan เป็นเครื่องตรวจทางด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โดยนำเครื่องมือ ตรวจด้านรังสี 2 ชิ้น มารวมเป็นเครื่องมือชิ้นเดียวกัน ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องมือทั้งสองชิ้นคือ มีความไวสูงทำให้ข้อมูลจาก PET Scan นั้นแพทย์สามารถอ่านผลและพบความผิดปกติของโรคที่ไม่สามารถเห็นหรือวินิจฉัยได้จากการตรวจด้วยเครื่องมืออื่นผนวกกับการที่แพทย์สามารถกำหนดตำแหน่งของโรคนั้นได้อย่างแม่นยำด้วยภาพจาก CT Scan
“ขบวนการตรวจ PET/CT Scan จะเริ่มจากการฉีดกลูโคสชนิดพิเศษซึ่งมีรังสีอยู่ในตัวเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งน้ำตาลพิเศษนี้จะซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ชนิดของเนื้อเยื่อ แล้วเปล่งรังสีออกมาจากเนื้อเยื่อนั้นแพทย์จะใช้เครื่อง PET Scan ถ่ายภาพรังสีในร่างกายดังกล่าวทำให้ได้ภาพเป็นร่างกายที่เรืองแสง ประเด็นสำคัญอยู่ที่มะเร็งชนิดก้อนหลายชนิด อาทิ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งหลังโพรงจมูก มะเร็งเต้านม เป็นต้น สามารถจับน้ำตาลชนิดพิเศษนี้ได้มากกว่าเนื้อเยื่อปกติ ทำให้เราเห็นเป็นจุดสว่างเรืองแสงชัดเจนกว่าการเรืองแสงของเนื้อเยื่อปกติในร่างกาย ทำให้แพทย์สามารถตรวจพบมะเร็งนั้นได้ ในผู้ป่วยบางรายที่มีการกระจายของมะเร็งไปในอวัยวะต่างๆ จุดเรืองแสงเหล่านี้จะปรากฏให้เห็นอยู่ในอวัยวะนั้นๆ ขบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นในระดับของชีวเคมีภายในเซลล์ ซึ่งโดยหลักการความผิดปกติของเซลล์มะเร็งจะมีความผิดปกติของชีวเคมีภายในเซลล์ก่อนที่จะเห็นด้วยตาหรือการตรวจทางด้านรังสีอื่นๆ ทำให้ PET Scan เป็นการตรวจที่มีความไวสูงมาก”
.jpg)
ห้องควบคุมเครื่อง PET/CT Scan
จากที่กล่าวมาข้างต้น ในวงการแพทย์ด้านมะเร็งจึงนำ PET/CT มาใช้ประโยชน์ในการตรวจโรคมะเร็งในหลายขั้นตอน อาทิ การกำหนดระยะโรค การใช้เป็นมาตรวัดการรักษา หรือตรวจการกลับเป็นซ้ำ เป็นที่ทราบดีว่าการรักษาที่มีประสิทธิภาพนั้น ชนิดและวิธีการรักษาจะต้องสอดคล้องกับระยะโรคที่เป็นอยู่จริง การกำหนดระยะของโรคที่คลาดเคลื่อนย่อมไม่เป็นผลดีต่อผู้ป่วยอย่างแน่นอน มีรายงานการศึกษาจำนวนมากที่ระบุว่า PET/CT Scan ช่วยให้การกำหนดระยะของโรคถูกต้องขึ้น ในแง่ของการเป็นมาตรวัดการรักษา PET/CT Scan จะช่วยบอกแพทย์ให้ทราบว่า โรคมะเร็งนั้นตอบสนองต่อการรักษาที่ให้หรือไม่ ถ้าไม่ตอบสนอง แพทย์ก็สามารถเปลี่ยนชนิดของยาหรือการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้ลดผลข้างเคียงจากยาและลดค่าใช้จ่ายจากการรักษาที่ไม่เกิดประโยชน์นั้นๆ สำหรับเครื่อง PET/CT สแกนรุ่นใหม่ “Biograph mCT Flow” มาพร้อมด้วยระบบ flow motion
อันเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยสูง ช่วยให้การสแกนเป็นการไปอย่างต่อเนื่องและราบรื่นนอกจากการสแกนที่จะใช้ระยะเวลาสั้นลงเมื่อเปรียบเทียบกับแบบเดิม ยังสามารถให้รายละเอียดภาพที่มีความคมชัดสูงในทุกระบบอวัยวะ มีความแม่นยำและถูกต้องทุกมิติ สแกนได้อย่างรวดเร็ว ให้ความรู้สึกสบายและไม่อึดอัดสำหรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม โรคมะเร็งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านพันธุกรรมหรือการดำเนินชีวิตที่ไม่ถูกสุขลักษณะ สำหรับสัญญาณอันตราย 7 ประการ ที่ควรรีบมาพบแพทย์ ได้แก่ มีเลือดหรือสิ่งผิดปกติออกจากร่างกาย เช่น มีตกขาวมากเกินไป, มีก้อนหรือตุ่มเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่งของร่างกายและก้อนนั้นโตเร็วผิดปกติ, มีแผลเรื้อรัง, มีการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะผิดปกติหรือเปลี่ยนไปจากเดิม, เสียงแหบ ไอเรื้อรัง,กลืนอาหารลำบาก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด,มีการเปลี่ยนแปลงของหูด ไฝ ปาน เช่น โตผิดปกติทว่าเราสามารถใช้ชีวิตอย่างมีภูมิต้านทานแบบง่ายๆ เพื่อป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยเริ่มต้นจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เสริมสร้างความแข็งแรงด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้แจ่มใส และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การ “ลด” ความเสี่ยงในการเกิดโรคด้วยการค้นหาให้พบสิ่งผิดปกติโดยเร็วที่สุด โดยการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งตั้งแต่อายุ 30 ปี ซึ่งการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งนั้นมีหลายวิธี ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและได้ผลดี ในการป้องกันและรักษาได้ทันท่วงที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี