ความภาคภูมิใจของชีวิตอันสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของบรรพชนคือคุณงามความดีที่คนรุ่นก่อนสั่งสมเอาไว้ให้กับคนรุ่นปัจจุบัน ซึ่งผมมีความเห็นว่า คนรุ่นปัจจุบันมักจะไม่ค่อยคำนึงกันถึงเรื่องดังกล่าวนี้

พิสูจน์เห็นได้จากพฤติกรรมที่คนรุ่นปัจจุบันมักจะไม่ได้สร้างคุณงามความดีสั่งสมไว้ให้กับวงศ์ตระกูลของตนเองเลย

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะหันไปในสังคมของคนระดับไหน มีแต่เรื่องราวอันเป็นความเลวร้ายที่คนรุ่นปัจจุบันสั่งสมเอาไว้ให้กับวงศ์ตระกูล โดยไม่คำนึงเลยว่า อีกห้าสิบปี ร้อยปี คนรุ่นนั้นจะกล้ามองหน้า หรือมีเรื่องราวที่น่าภาคภูมิใจของบรรพชนเล่าขานให้คนรุ่นเขาเกิดความภาคภูมิใจได้บ้างไหม

หงส์ป่า เป็นเรื่องราวของคนจีนตระกูลหนึ่ง ที่ถูกถ่ายทอดเรื่องราวอันน่าภาคภูมิใจที่บรรพชนได้สร้างเอาไว้ให้กับคนรุ่นหลังได้อ่าน ได้รับรู้ถึงชีวิตการต่อสู้ของพวกเขา ทำให้เราเกิดความประทับใจและภาคภูมิใจไปกับคนในตระกูลของเขาที่มีบรรพชนมั่นคงต่อคุณค่าของความดี ความถูกต้อง และความเป็นมนุษย์

เริ่มต้นของเรื่องราวถูกบันทึกเอาไว้ตั้งแต่ช่วงปีค.ศ. 1924 เมื่อ 92 ปีที่ผ่าน ซึ่งเป็นช่วงที่การปกครองของจีนเข้าสู่วิกฤติอันยิ่งใหญ่ ระบบการปกครองแบบฮ่องเต้ล่มสลายบ้านเมืองแตกเป็นก๊กเป็นเหล่า เกิดกลุ่มคนระหว่างลัทธิคอมมิวนิสต์ จากการนำของ ประธานเหมา และผู้นำในระบบขุนศึกศักดินาที่ต้องการนำให้ระบบเก่ายืนยงต่อไป จากการนำของ เจียงไคเช็ค ท่ามกลางสงครามแย่งแผ่นดินของญี่ปุ่นที่ต้องการเข้าครอบครองประเทศจีน

คนจีนในยุคนั้นเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ขาดแคลนอาหาร ถูกข่มเหงรังแก ถูกขูดรีดทำทารุณกรรมทุกอย่างจากผู้มีอำนาจเหนือกว่า

เรื่องที่ถูกถ่ายทอดออกมาในหนังสือเล่มนี้ เป็นเรื่องของหญิงจีน ในสามชั่วคนคือ ตั้งแต่ทวดมาถึงย่าและมาถึงแม่ จบลงด้วยตัวของลูกสาว ซึ่งเป็นผู้บันทึกเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้ภายใต้ชื่อเรื่องว่า หงส์ป่า

เป็นหนังสือที่อ่านสนุก เข้าถึงคุณค่าของคุณธรรม ความงดงาม เข้าใจถึงชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ ที่ต้องมีจิตใจมั่นคงเด็ดเดี่ยว เข้าใจถึงความดีงามของชีวิต ซึ่งน่าจะเป็นตัวอย่างให้คนรุ่นที่กำลังมีชีวิตในวันนี้ได้ตระหนักถึงการสร้างค่าของชีวิตเพื่อเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังจดจำไว้เป็นประวัติศาสตร์เพื่อการยกย่องสรรเสริญ ไม่ใช่มัวเอาแต่กอบโกยผลประโยชน์เข้าวงศ์ตระกูล ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อกาลเวลาผ่านเลยไปถึงวันนี้สิ่งที่สั่งสมมาจะมีแต่คนถ่มน้ำลายรดแทนที่จะเป็นเสียงสรรเสริญอันน่าภาคภูมิใจของวงศ์ตระกูล

คู่มือสำหรับการเลี้ยงเด็กออทิสติก

ดึงศักยภาพพิเศษออกมาให้เกิดประโยชน์

“Born on a Blue Day จากออทิสติก...สู่อัจฉริยะ” เขียนโดย “เดเนียล แทมเม็ต” แปลเป็นไทยโดย “หยาดฝน ธัญโชติกานต์” ที่ผู้เขียนต้องการให้หนังสือเล่มนี้เป็นคู่มือให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครองของเด็กออทิสติก หรือผู้ที่สนใจเรื่องราวของการสร้างเด็กอัจฉริยะได้เป็นอย่างดี เพราะจะทำให้ทราบถึงกระบวนการทางปัญญา รูปแบบการคิด วิธีการเรียนรู้ ที่มีความแตกต่างจากการสอนเด็กปกติทั่วไป ก่อให้เกิดการสร้างแรงบันดาลใจในการเลี้ยงดูบุตรหลาน ที่มีความแตกต่างจากคนปกติทั่วไป โดยใช้ความรัก ความเข้าใจ การยอมรับ และเอาใจใส่ เพื่อให้เขาสามารถค้นพบขีดความสามารถ และดึงเอาศักยภาพที่แสนจะพิเศษที่แฝงอยู่ออกมาให้เปล่งประกาย สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ตัวเด็กเองและครอบครัว จำหน่ายเล่มละ 200 บาท

ฟื้นจากความตายสู่ภพใหม่

จากชีวิตอิสระสู่การถูกจองจำ

“ข้ามภพมาหารัก” เขียนโดย “Twisted-World” เป็นเรื่องราวของ นิสิตสาวแพทย์ปีที่ห้าที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่กลับได้พบกับชีวิตใหม่ ที่ข้ามมาอีกภพหนึ่ง โดยชีวิตใหม่นี้ เธอต้องอยู่กับกรอบประเพณี ที่ขาดอิสรภาพ เมื่อเพศหญิงกลายเป็นผู้ที่ต้องคอยปรนเปรอและเอาใจบุรุษอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ทำให้ชีวิตที่เคยอยู่ในกรอบแห่งเสรีภาพที่เท่าเทียมกันสิ้นสุดลง เธอต้องอดทนต่อสู้เพื่อหาทางเอาชีวิตให้หลุดพ้นจากกรอบประเพณีที่ไม่เป็นธรรม เรื่องราวทั้งหมดของเธอจะหาทางออกได้สำเร็จหรือไม่ จำหน่ายเล่มละ 430 บาท

เรื่องของมาเฟียที่ยุ่งตุงนัง

ต้องหาทางออกที่ทางตัน

“เพชรไร้กะรัต” ประพันธ์โดย “นวตา” เป็นเรื่องราวของ คุณหนูกำพร้า ที่ต้องมาแต่งงานกับ เจ้าพ่อมาเฟีย เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงให้บิดาที่ถูกฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหด ผู้ประพันธ์ ดำเนินเรื่องราวอย่างซับซ้อนแบบคาดไม่ถึง เริ่มจากการเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าว โดยอ้างความจำเป็นในการค้นหาความลับในการฆาตกรรม แต่ผลสุดท้าย เรื่องกลับหน้ามือเป็นหลังมือ กลายเป็นว่า เจ้าบ่าวตัวแทนกลับกลายเป็นฆาตกรเสียเอง ผลการค้นหาข้อเท็จจริงแทนที่จะลุล่วงกลับยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับตัวหญิงสาว ที่สุดท้ายเธอกลับพบว่า ได้หลงรักฆาตกรหนุ่มอย่างถอนตัวไม่ขึ้นไปแล้ว เหตุการณ์จึงต้องดำเนินไปอย่างยุ่งเหยิงและยากที่จะพบทางออก จำหน่ายเล่มละ 420 บาท

‘ตะกั่วป่า’ความหลังที่ยังหายใจ

อสท.พาท่องเที่ยวสถานที่น่าสนใจ

“นิตยสาร อสท.” นิตยสารเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศไทย จำหน่ายเล่มละ 85 บาท
ฉบับประจำเดือนมีนาคม นำเสนอเรื่องราวของ อำเภอตะกั่วป่า ของจังหวัดภูเก็ต โดยย้อนอดีตนำภาพเก่าๆ ในยุคมที่ยังเป็นเหมืองแร่ ที่สร้างสีสันบรรยากาศตราตรึงอยู่ในหัวใจของผู้เกี่ยวข้องอย่างไม่มีวันลืมเลือนด้วย เรื่องราวของความหลังที่ยังมีลมหายใจ โดยผู้เขียน เล่าเรื่องจากอดีตเมื่อราวปี 2404 ที่ชาวจีน และชาวต่างชาติอื่นๆ แห่กันมายัง ตะกั่วป่า เพื่อบุกเบิกและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการทำเหมืองแร่ จนถึงเรื่องราวในปัจจุบันนี้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจตามรูปแบบของ อสท.เต็มพิกัด อาทิ ตำนานแห่งการเดินทาง สำรวจโลกธรรมชาติ เป็นต้น