ศ.นพ.รุ่งโรจน์ พิทยศิริ
แพทย์เผยร้อยละ 8 ของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันในไทยมีอายุน้อยกว่า 40 ปี พบแนวโน้มอุบัติการณ์โรคในกลุ่มคนวัยทำงานและวัยกลางคน เตือนอย่าชะล่าใจคิดว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเท่านั้น สาเหตุใหญ่มาจากความเครียด หากมีอาการบ่งชี้ควรรีบพบแพทย์ พร้อมเปิดตัว“ไม้เท้าเลเซอร์ช่วยเดินในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน”ผลงานวิจัยของแพทย์ไทย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยพาร์กินสันมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ศ.นพ.รุ่งโรจน์ พิทยศิริ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เผยว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพบว่า ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันในประเทศไทยมีอัตรา 1 ใน 100 ของประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป แต่ในปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยโรคพาร์กินสันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอันเนื่องมาจากจำนวนของผู้สูงอายุในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 14.9 ของประชากรทั้งประเทศ ที่สำคัญยังพบอีกว่าผู้ป่วยร้อยละ 8ถูกตรวจพบว่าเป็นโรคพาร์กินสันก่อนอายุ 40 ปีดังนั้น โรคพาร์กินสันจึงไม่ใช่โรคของผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ในกลุ่มวัยทำงานและวัยกลางคนก็ต้องเฝ้าระวังด้วยเช่นกัน เพราะถือเป็นอีกกลุ่มที่มีความเสี่ยงด้วย
“โรคพาร์กินสันเป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทในส่วนของสับสแตนเชีย ไนกรา ซึ่งเซลล์ระบบประสาทส่วนนี้มีหน้าที่ในการผลิตสารโดปามีนซึ่งมีส่วนสำคัญในการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ดังนั้น เมื่อเซลล์สมองส่วนนี้เสื่อมและผลิตสารโดปามีนน้อยลง จึงส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดอาการติดขัดทางการเคลื่อนไหว และการทรงตัว”
ศ.นพ.รุ่งโรจน์ ได้แนะนำวิธีสังเกตอาการเตือนของโรคพาร์กินสันที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ อาการนอนละเมอ ดมกลิ่นได้น้อยลง ท้องผูกเรื้อรัง และซึมเศร้า ในช่วงที่เป็นโรคใหม่ๆ อาการเด่นชัดที่สุดจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว ซึ่งรวมถึงการสั่น สภาพแข็งเกร็ง เคลื่อนไหวช้าเดินลำบากและติดขัด เวลาเดินแล้วแขนไม่แกว่งไป-มา ต่อมาอาจเกิดปัญหาด้านการคิดและพฤติกรรมได้ โดยภาวะสมองเสื่อมเกิดได้ทั่วไปในระยะท้ายของโรค ขณะที่ภาวะซึมเศร้าเป็นอาการจิตเวชที่พบบ่อยที่สุด นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยได้แก่การมีปัญหารับความรู้สึก การหลับและอารมณ์
จากอาการติดขัดด้านการเคลื่อนไหวและการเดินของผู้ป่วยพาร์กินสันข้างต้น ไม้เท้าเลเซอร์ จึงได้ถูกคิดค้นขึ้นจากงานวิจัยเรื่อง “การศึกษาผลของยาลีโวโดปา และไม้เท้าเลเซอร์ช่วยเดินในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ที่มีปัญหาการเดินติดขัด” (The Efficacy of Levodopa and Laser-suided Walking Devices in Parkinson’s Disease Patients with Perdominant Gait Freezing) ซึ่งงานวิจัย ไม้เท้าเลเซอร์ช่วยเดินเป็นหนึ่งในงานวิจัยที่ได้รับทุนวิจัยเซเรบอส อวอร์ด
ไม้เท้าเลเซอร์ช่วยเดินในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
“ไม้เท้าเลเซอร์สามารถช่วยผู้ป่วยพาร์กินสันที่มีปัญหาการเดินติดขัด โดยอาศัยหลักการกระตุ้นทางสายตาและสิ่งกระตุ้นทางการได้ยิน โดยใช้แสงเลเซอร์และเสียงที่เปล่งออกมาจากไม้เท้า พบว่าผู้ป่วยมีจำนวนครั้งที่เดินติดขัดลดลง สามารถเพิ่มระยะก้าวและเพิ่มความเร็วในการเดิน อีกทั้งยังพบด้วยว่าผู้ป่วยที่มีระดับความรุนแรงของโรคมาก เดินได้ดีกว่ากลุ่มที่มีระดับความรุนแรงของโรคน้อย ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยในโครงการที่ได้รับไม้เท้าเลเซอร์ช่วยเดินไปแล้วจำนวน 200 คน
ผมขอขอบคุณแบรนด์ สภากาชาดไทยและผู้บริจาคทุกท่านที่ช่วยให้ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากโครงการวิจัยไม้เท้าเลเซอร์เพื่อผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน เป็นโครงการต่อเนื่องที่ยังต้องใช้ทุนทรัพย์อีกมาก ทั้งนี้ ผู้สนใจที่ต้องการสนับสนุนงานวิจัยชิ้นนี้ สามารถร่วมบริจาคโดยตรงได้ที่บัญชี กองทุนศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย เลขที่045-582-9596 หรือ www.chulapd.org” ศ.นพ.รุ่งโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี