นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์-รศ.นราพร จันทร์โอชา เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
รมว.กระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นสักขีพยานเปิดโครงการ, ฐาปน สิริวัฒนภักดี กก.ผอ.ใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ
ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ, อภิชาติ โตดิลกเวชช์ ,
อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน, ต้องใจ ธนะชานันท์ กก.ผจก.บจ.ประชารัฐรักสามัคคี (ประเทศไทย) และ ณเดชน์ คูกิมิยะ

บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดบูธ “โครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่น หัตถศิลป์ไทย” ภายในงานศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกล ด้วยพระบารมี ประจำปี 2559ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ในการสร้างความสามัคคีและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในชุมชนผ่านการร่วมกันสร้างชิ้นงานผ้าขาวม้าเข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ยังเป็นการเฟ้นหาและเสริมสร้างอัตลักษณ์ให้กับผ้าขาวม้าไทยจากแต่ละท้องถิ่น รวมถึงส่งเสริมการแปรรูปผ้าขาวม้าเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเสริมรายได้ให้กับชุมชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ฐาปน สิริวัฒนภักดี เยี่ยมชมภายในงาน

งานนี้ได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานพร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นสักขีพยานเปิดโครงการ โดยมี ฐาปน สิริวัฒนภักดีกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ พร้อมด้วย อภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน, ต้องใจ ธนะชานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี(ประเทศไทย) จำกัด และ ณเดชน์ คูกิมิยะนักแสดงชื่อดังที่มาร่วมสร้างสีสันในพิธีเปิดตัวโครงการด้วยการสวมชุดผ้าขาวม้าที่มีอัตลักษณ์จากกลุ่มทอผ้าบ้านกุดจิกจังหวัดสกลนคร, กลุ่มแม่บ้านตำบลบ้านไร่จังหวัดอุทัยธานี, ผ้าทอบ้านเขาเต่าหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และวิสาหกิจชุมชนคอตตอนดีไซน์ จังหวัดปทุมธานี ออกแบบโดย ลินดา เจริญลาภ เจ้าของแบรนด์ Lalalove and lalalove London

ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประกบพระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ

ทั้งนี้ ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ เปิดเผยว่า “ผ้าขาวม้าของแต่ละท้องถิ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความเป็นมาเบื้องลึกที่หลากหลาย แต่สังคมโดยทั่วไปยังอาจไม่ได้รับรู้ในอนาคต เราอยากเห็นผ้าขาวม้าจากแต่ละชุมชน แต่ละหมู่บ้าน เป็นที่รู้จักแพร่หลาย มีการจดลิขสิทธิ์เพื่อสร้างความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา มีการนำไปแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นสินค้าได้หลากหลายประเภท และที่สำคัญที่สุดคือ อยากให้ชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าทุกแห่งเกิดความรักสามัคคีและภาคภูมิใจภูมิปัญญาของตนเอง”

ฐาปน สิริวัฒนภักดี ชื่นชมผ้าขาวม้าของแต่ละท้องถิ่นภายในบริเวณงาน

การสาธิตการทอผ้า รวมถึงส่งเสริมการแปรรูปผ้าขาวม้าเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ