การดีไซน์ที่เกิดจากการผสมผสานของความขัดแย้งที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ทั้งกลิ่นอายแบบ Vintage (วินเทจ) ที่ผสมผสานเข้ากับความโมเดิร์น ฟินิชชิ่งสุดเนี้ยบผสมกับความไม่ต้องเรียบร้อยไปทุกกระเบียดความมันวาวคละเคล้าไปกับความด้านของหนังเป็นขั้วตรงข้ามที่ได้รับการหาส่วนผสมใหม่ และปรุงแต่งจนเกิดเป็นความลงตัว ในแบบ DAPPER นี่คือความโดดเด่นของคอลเลคชั่น “The Smooth Contradiction”

ภมรทิพย์ ศรีไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดพเพอร์ เจ็นเนอรัลอะแพเร็ล จำกัด กล่าวว่า “ด้วยเอกลักษณ์ของ DAPPER ที่มีจินตนาการและความเป็น Art ใน Autumn/Winter 2016 Collection จึงสร้างสรรค์ ผลงาน โดยใช้แรงบันดาลใจหลักจากแนวคิด การตีความและบาลานซ์ความแตกต่างให้อยู่กันได้อย่างกลมกลืน จนกลายมาเป็น Dapper Autumn/Winter 2016 “The Smooth Contradiction” นำเสนอเนื้อผ้าที่เป็น cotton 100% ทอผสมซาตินพิเศษ ทำให้เนื้อผ้ามีลักษณะมันวาว เรียบลื่น ดูหรูหรามากขึ้นพร้อม print ใส่ลูกเล่นลาย graphic ในแนว street และ vintage ทำให้เสื้อผ้าเกิดอารมณ์แตกต่างที่ลงตัวและกลมกลืนใส่ง่ายในหลายโอกาสมากขึ้น

หนุ่มแดปเปอร์ เน้นการสร้างสรรค์ลวดลาย camouflage (ลายพราง) ในมุมมองใหม่ ด้วยการนำสีที่สดใส จัดจ้านและลายเส้นรูปผีเสื้อแบบที่คาดไม่ถึงว่าจะใช้ในลายพราง มาจัดวางองค์ประกอบใหม่ เป็นลวดลาย ที่ดูแปลกตา รวมทั้งลาย paisley (ลูกน้ำ) แบบวินเทจ ปรับให้โมเดิร์นขึ้นด้วยการลดทอนเส้นสายที่โค้งมน แทนที่ด้วยการใช้เส้นสายรูปทรงเรขาคณิต ประกอบกันเข้าได้เป็นลาย paisley ที่ให้อารมณ์วินเทจแต่ดูโมเดิร์น โครงเสื้อทั้งหมดจะจัดวางสี ลวดลาย เพิ่มมิติและ Silhouette (ซิลลูเอต) ให้เป็นเสื้อผ้าแนวสตรีท สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ตั้งแต่เช้าถึงกลางคืนด้วยโทนสีเข้มขรึม คือ น้ำเงินเข้ม แดงเบอร์กันดี ผสมกับกลุ่มสีสด น้ำเงินโคบอลต์เหลืองมัสตาร์ด และสีส้ม

สาวแดปเปอร์ เป็นการนำเอาความรู้สึกกลิ่นอายของสัญลักษณ์ สีสันลวดลายของลายพราง มาลดทอนรูปทรง ให้ดูเรียบง่ายเช่น ดอกไม้เล็กๆ ในลายผ้า มาใช้ในรูปทรงของเสื้อที่ดูมีความเป็น feminine เช่น เดรสหางปลาหน้าสั้นหลังยาว หรือการนำลายพรางมาตีความใหม่เป็นเทคนิค laser cut เป็นการผสมผสานความขัดแย้งที่ดูลงตัว โทนสีจะเป็น ครีมเบจ น้ำเงิน ขาว