วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงจัดให้มีการประชุมวิทยาศาสตร์นานาชาติ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ครั้งที่ 8 ภายใต้หัวข้อ “อนามัยสิ่งแวดล้อม : ความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งแวดล้อม สารเคมี และเชื้อที่ก่อโรค” (Environmental Health: Inter-linkages among the Environment, Chemicals and Infectious Agents) ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2559 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ครบ 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ด้วยทรงเล็งเห็นว่าผลงานวิจัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมนั้นสามารถเชื่อมโยงศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม สารเคมี และเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เข้าด้วยกันได้
ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงเป็นต้นแบบสำคัญของผู้นำที่เข้มแข็งในการขับเคลื่อนงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการมาเป็นเวลาเกือบ 3 ทศวรรษ ด้วยพระปณิธานที่ทรงมุ่งหวังให้ประชาชนได้มีโอกาสในการดำรงชีวิตที่ดี รวมถึงมีสุขภาพอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยพระวิสัยทัศน์และพระนโยบายการทรงงานที่ชัดเจนและโปรดให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนทรงมุ่งมั่นในงานวิจัยและพัฒนางานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยทรงทุ่มเทพระสติปัญญาในงานวิจัยด้านต่างๆ อาทิ การวิจัยมลพิษสิ่งแวดล้อม กลไกการเกิดพิษของสารพิษต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์หากสัมผัสนานๆ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากมาย อาทิ โรคมะเร็ง เป็นต้น และจากการที่ทรงตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน เนื่องจากสถานการณ์การเกิดโรคในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปมาก จากโรคติดเชื้อซึ่งแต่เดิมที่เคยเป็นกันมากในประเทศกำลังพัฒนาได้เปลี่ยนมาเป็นโรคที่เกิดจากการได้รับสารพิษในสิ่งแวดล้อมแทนเป็นส่วนใหญ่
.jpg)
ทั้งนี้ เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมที่ประชาชนต้องอาศัยและใช้ชีวิตอยู่นั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านมลภาวะในอากาศ คุณภาพน้ำ ความปลอดภัยด้านอาหาร และความปลอดภัยจากการทำงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีที่อาจปนเปื้อนอยู่ในเครื่องอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน รวมทั้งผลกระทบต่อสุขภาพจากสารเคมีที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อม ดังนั้นสุขอนามัยของประชาชนจึงเป็นเรื่องที่ทรงให้ความสำคัญเหนือสิ่งใด ด้วยทรงมีพระดำริว่าสุขอนามัยที่ดีของประชาชนจะเป็นพลังขับเคลื่อนหลักในการพัฒนาประเทศชาติได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนั้น ยังทรงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยทรงแสวงหาความร่วมมือและการสนับสนุนจากนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ ผู้บริหารระดับสูง จากองค์การระหว่างประเทศ และสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงต่างๆ ทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือ ทรงสนับสนุนให้นักวิทยาศาสตร์ไทยมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก ตลอดจนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซึ่งกันและกัน จึงทรงกำหนดให้มีการประชุมวิทยาศาสตร์นานาชาติเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ขึ้นในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นอีกส่วนหนึ่งของการประสานความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศไทยกับนานาประเทศ โดยเป็นการจัดประชุมวิชาการทางวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ เป็นประจำทุก 3-5 ปี ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2530 เพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสสำคัญต่างๆ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อีกทั้ง ยังเป็นเวทีให้นักวิทยาศาสตร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลกได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการและเผยแพร่ผลงานวิจัยในระดับสากลอันเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์ของประเทศต่อไปในอนาคต
สำหรับปีพ.ศ.2559 ทรงจัดให้มีการประชุมวิทยาศาสตร์นานาชาติ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ครั้งที่ 8 ภายใต้หัวข้อ “อนามัยสิ่งแวดล้อม : ความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งแวดล้อม สารเคมี และเชื้อที่ก่อโรค” (Environmental Health: Inter-linkages among the Environment, Chemicals and Infectious Agents) ระหว่างวันที่13-17 พฤศจิกายน 2559 ณ โรงแรมแชงกรี-ลากรุงเทพฯ เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ครบ 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ด้วยทรงเล็งเห็นว่าผลงานวิจัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมนั้นสามารถเชื่อมโยงศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม สารเคมี และเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เข้าด้วยกันได้ นอกจากนี้ ยังเป็นประโยชน์ในการเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรด้านการสาธารณสุข การแพทย์ และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องรวมถึงเป็นการเปิดโอกาสให้นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยขององค์การระหว่างประเทศและสถาบันวิชาการที่สำคัญๆ ทั่วโลกได้พบปะ อันจะเป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ถึงความก้าวหน้าและเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ความรู้ของนักวิทยาศาสตร์ไทยสู่สากล ตลอดจนเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ สังคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และการพัฒนาด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมของประชาชนชาวไทย และมวลมนุษยชาติโดยรวมต่อไปในอนาคต
รูปแบบการประชุมประกอบด้วยปาฐกถาพิเศษ (Keynote lecture) การบรรยายพิเศษ (Plenary sessions) การสัมมนากลุ่ม (Symposium) การประชุมเชิงปฏิบัติการ(Workshop) และการประชุมแบบอภิปรายโต๊ะกลม (Round table discussion) โดยการแสดงปาฐกถาพิเศษนั้น ได้รับเกียรติจากนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล สาขาเคมี ผู้มีผลงานวิจัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกคือ ศาสตราจารย์แอรอน ชิแชนโนเวอร์ (Professor AaronCiechanover) จากศูนย์วิจัยมะเร็งและชีววิทยาหลอดเลือดคณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีเทคเนียน-อิสราเอล เมืองไฮฟา ประเทศอิสราเอล แสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “เหตุใดโปรตีนของเราจึงต้องถูกทำลายเพื่อให้คนเรามีชีวิตอยู่? ระบบการสลายโปรตีนยูบิควิตินจากกลไกพื้นฐานสู่การเกิดโรคและแนวทางการพัฒนายา(Why our proteins have to die, so we shall live? The Ubiquitin proteolytic system - from basic mechanisms thruhuman diseases and on to drug development)”
นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษของนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำจากนานาประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศระดับนานาชาติ จาก 16 ประเทศทั่วโลก อาทิ ดร.พูนาม เคตราปาล ซิงห์ (Dr.PoonamKhetrapal Singh) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Regional Director of WHO South-East Asia) ดร.เคอร์ติส แฮร์รีส (Dr. Curtis C Harris)จากสถาบันมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา(National Cancer Institute, U.S.A.) ดร.นอร์เบิร์ท แฟรงค์ (Dr. Norbert Frank) จากศูนย์วิจัยมะเร็งแห่งเยอรมนี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี(German Cancer Research Center) เป็นต้น
การประชุมวิทยาศาสตร์นานาชาติ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ครั้งที่ 8 นี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมตอบรับเข้าร่วมกว่า 600 คน จาก 30 ประเทศ นับเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับข้อมูลการศึกษาวิจัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมโยงงานวิจัยสิ่งแวดล้อมเข้ากับสารเคมีที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน และเชื้อก่อโรค อีกทั้งยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ การแพทย์และการสาธารณสุขในการวิจัย การป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังเป็นโอกาสให้นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักศึกษาระดับปริญญาโท-เอก ได้ร่วมนำเสนอผลงานวิจัยทั้งในรูปของการบรรยาย และโปสเตอร์ เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยออกสู่สาธารณะอีกด้วย
ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมการประชุม สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2559 โทร.02-5538535 หรือที่เว็บไซต์ https://pc8.cri.or.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี