วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
พระธาตุแช่แห้ง
“น่าน”เป็นอีกหนึ่ง “แลนด์มาร์ค” ด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย เพราะนอกจากอากาศหนาวเย็นสดชื่น ทิวทัศน์สวยงามแล้ว ยังมีวัดวาอารามที่ควรค่าแก่การสักการะ โดยเฉพาะ...
“วัดพระธาตุแช่แห้ง”!!!
อีกหนึ่งสถานที่ “ห้ามพลาด” เพราะนอกจากจะเป็นพระธาตุคู่เมืองน่านแล้ว ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิด “ปีเถาะ” หรือปีกระต่าย ซึ่งตามความเชื่อของคนไทยพุทธถือเป็น “ปีชง” ในปี 2560 พระธาตุแช่แห้งจึงควรอย่างยิ่งที่จะต้องไปสักการะ เพราะเชื่อว่าหากกราบไหว้พระธาตุประจำปีเกิดจะช่วยให้พ้นเคราะห์ “แก้ชง เสริมดวง” เกิดความสิริมงคลแก่ชีวิต
“พระชยานันทมุนี” เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง เล่าว่า จากพงศาวดาร “เมืองน่าน” กล่าวว่าในปี 1896 สมัยพญาการเมือง เจ้าเมืองวรนคร ได้ส่งช่างไปร่วมสร้างวัดหลวงที่สุโขทัย พระยาลือไทยจึงมอบถวาย “พระธาตุ” 7 พระองค์ และพระพิมพ์คำ พระพิมพ์เงินอย่างละ 20 องค์ ให้แก่พญาการเมืองเป็นการตอบแทน พญาการเมืองจึงได้อัญเชิญ “พระบรมสารีริธาตุ” ของพระพุทธเจ้าไปบรรจุไว้ ณ ดอยภูเพียงแช่แห้ง ก่อเป็นพระเจดีย์ “พระบรมธาตุแช่แห้ง” ที่บ้านหนองเต่า อ.ภูเพียง และอยู่คู่เมืองน่านมาจนทุกวันนี้
ภายในวัดพระธาตุแช่แห้ง ประกอบด้วย จุดที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์และ “ความศักดิ์สิทธิ์” ที่ชาวเมืองน่านเลื่อมใสกันมาอย่างช้านานหลายจุด ซึ่งผู้คนที่มาเยือนส่วนใหญ่เข้าใจว่าต้องไหว้องค์พระธาตุเป็นอันดับแรก แต่ความจริงการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดพระธาตุแช่แห้ง มีลำดับในการไหว้ ดังนี้…

พญานาค
“จุดที่ 1...พญานาค” ทางขึ้นของพระบรมธาตุแช่แห้งนี้ จะมีพญานาค 2 ตนขนาบคู่ทางขึ้นอยู่ นามว่า “ท้าวศรสุนโธ” และ “แม่ศรีปทุมมา” เชื่อกันว่าพญานาคสองตนนี้เปรียบเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยปกปักรักษาพระธาตุแช่แห้งไว้ให้ลูกหลานชาวเมืองน่าน ดังนั้นก่อนเข้าชมวัด ควรกราบขอขมาองค์พญานาคทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อแสดงถึงการขออนุญาตเข้าไปรับบุญกุศลภายในสถานที่

“จุดที่ 2...องค์พระธาตุแช่แห้ง” ที่สูงถึง 55.5 เมตร มีสีเหลืองอร่ามเพราะบุด้วยแผ่นทองเหลือง ลักษณะของเจดีย์ทรงระฆัง ส่วนฐานทำเป็นฐานหน้ากระดานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ รองรับฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ ถัดขึ้นไปเป็นฐานหน้า กระดานสี่เหลี่ยมและแปดเหลี่ยมซ้อนลดหลั่นกัน 3 ชั้น องค์ระฆังมีขนาดเล็ก บัลลังก์ทำเป็นแท่นสี่เหลี่ยม ย่อเก็จ ฐานหน้ากระดานกลมเป็นกระดานสี่เหลี่ยมและแปดเหลี่ยม และชั้นบัวคว่ำเหนือฐานแปดเหลี่ยม ตกแต่งคล้ายกลีบบัว หรือลายใบไม้ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะพม่า
“จุดที่ 3...วิหารพระเจ้าทันใจ” เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ 3 องค์ ปางมารวิชัย 2 องค์ และปางสมาธิ 1 องค์ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับการสร้างองค์พระธาตุแช่แห้ง เมื่อครั้งที่พญาการเมืองย้ายเมืองจาก “เมืองปัว” มาตั้งอยู่เวียงภูเพียงแช่ เชื่อกันว่าเมื่อขอพรจากพระเจ้าทันใจแล้ว จะ “สมหวัง รวดเร็ว ทันใจ”
ด้านหลังพระเจ้าทันใจ มี “ฆ้องใหญ่” อยู่ 2 ฝั่ง เชื่อกันว่าเมื่อขอพรจากพระเจ้าทันใจและเคาะฆ้องใหญ่นี้แล้ว คำขอพรจะดังตามเสียงฆ้องไปถึงตัวยอดพระธาตุ ช่วยให้พรนั้นสมดั่งใจปรารถนาได้มากยิ่งขึ้น ภายในวิหารยังมี “แมงหมาเต๊า” คล้ายกบยักษ์ เชื่อกันว่าให้กราบไหว้จะช่วยดูแลทรัพย์สมบัติให้ปลอดภัย ถือเป็นอีกหนึ่ง Unseen ของวัดพระธาตุแช่แห้ง
“จุดที่ 4...พระวิหารพระเจ้าอุ่นเมือง” หรือเรียกว่าพระวิหารหลวง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่มีความน่าสนใจหลายองค์ อาทิ “พระเจ้าล้านทอง” องค์พระประธานปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา ที่สร้างขึ้นในปี 2065 เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองน่าน ร่วมด้วยพระพุทธรูปปางประทับยืน และ “พระอุ่นเมือง” เป็นศิลปะสกุลช่างน่าน ผู้ใดที่มากราบไหว้จะได้รับบุญกุศล ขัดเกลาจิตใจให้สงบผ่องใส

วิหารพระพุทธไสยาสน์
“จุดที่ 5...วิหารพระพุทธไสยาสน์” เมื่อเดินผ่านเส้นทางนาคขึ้นไป ด้านซ้ายมือก่อนถึงองค์พระธาตุจะมีวิหารพระพุทธไสยาสน์ที่ภายในประดิษฐานพระนอนองค์สีทองอร่าม ยาว 14 เมตร สูง 2 เมตร และยังมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยเก่าแก่ สร้างปี 2129 นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมกราบไหว้บูชา
“จุดที่ 6...พระมหาเจดีย์ชเวดากองจำลอง” เจดีย์สีขาวองค์ใหญ่ ตั้งสง่าอยู่นอกระเบียงที่ล้อมองค์พระธาตุแช่แห้ง ทางวัดจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่เกิดใน “ปีมะเมีย” ได้สักการะ เพราะ “เจดีย์ชเวดากอง” ในเมียนมา ถือเป็นพระธาตุประจำปีคนเกิดปีมะเมีย ทางวัดจึงจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่เกิดปีมะเมียได้มากราบบูชาเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
“จุดที่ 7...พระอุโบสถมหาอุตม์” อายุมากกว่า 400 กว่าปี ภายในประดิษฐานพระมหาอุตม์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เอกลักษณ์ศิลปะเมืองน่าน ซึ่งตามความเชื่อล้านนาจะ “ห้ามสตรีเข้า” พระอุโบสถเด็ดขาด เปิดให้เฉพาะผู้ชายเข้าไปกราบนมัสการได้ เชื่อกันว่าพระมหาอุตม์จะประทาน “ความอุดมสุข อุดมทรัพย์ อุดมโชค” ต่อผู้สักการะ

วิหารหลวง
“จุดที่ 8...ลานพระประจำวันเกิด” อยู่บริเวณพื้นที่สำหรับทำบุญ มีบริจาคกระเบื้องที่ดิน บูชาดอกไม้ธูปเทียน ฯลฯ มีต้นโพธิ์สูงใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่ว ด้านโคนต้นเป็นที่ประดิษฐานพระประจำวันเกิดให้ได้ทำบุญ “เสริมชะตา”
“จุดที่ 9...ลานลูกนิมิต” การปิดทองลูกนิมิตเป็นอีกหนึ่งสิ่งเชื่อกันว่าจะช่วยเสริมสิริมงคล สร้างบุญบารมีแก่ชีวิต ซึ่งภายในวัดพระธาตุแช่แห้งมีลูกนิมิตทั้ง 9 ลูก ตั้งอยู่บริเวณลานทำบุญ และลานพระประจำวันเกิด ให้พุทธศาสนิกชนได้ทำบุญปิดทองลูกนิมิตรับบุญกุศลให้ทั่วถึงกัน
“อาจารย์คฑา ชินบัญชร” นักพยากรณ์ชื่อดัง ให้ข้อมูลว่า “ปีชง” ตามความเชื่อทางโหราศาสตร์ของจีนเกี่ยวข้องกับ “องค์เทพไท้ส่วย” หรือ “เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา” ที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในแต่ละปี หากปีนักษัตรใดปะทะหรือได้รับผลร้ายจาก “เทพไท้ส่วย” ปีนั้นเป็นปีที่ได้รับผลไม่ดี หรือที่เรียกว่า “ปีชง”

สำหรับปีที่ได้รับผลไม่ดีในปี 2560 ตามความเชื่อจะมีอยู่ด้วยกัน 4 ปีได้แก่ “ปีชง” คือ ปีที่ได้รับผลเสียมากที่สุด หรือ “ชงโดยตรง” นั่นคือคนที่เกิด “ปีเถาะ”, “ปีคัก” เป็นปีนักษัตรเดียวกับปีนั้นๆ คือ คนที่เกิด “ปีระกา”, “ปีเฮ้ง” คือ ปีที่ได้รับผลกระทบเรื่อง “เคราะห์กรรม” และ “ปีผั่ว” คือ ปีที่ได้รับผลกระทบเรื่อง “สุขภาพ” ซึ่งก็คือคนที่เกิด “ปีมะเมีย” และ “ปีชวด” เรียกว่า “ปีชงร่วม” จะได้รับผลกระทบน้อยกว่า
แม้ “วัดพระธาตุแช่แห้ง” จะเป็นจุดสักการะขอพรของผู้ที่เกิดปีเถาะแล้ว คนที่เกิดปีอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็น “ปีชง” ก็สามารถมาเที่ยวพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน ได้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

บริเวณลานหน้าพระธาตุ


วิหารหลวง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี