แหวกฟ้าหาฝัน : เมืองขนมปังขิง

แหวกฟ้าหาฝัน : เมืองขนมปังขิง

วันอาทิตย์ ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

Interactive Media

นักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน Torun นอกจากจะเดินเที่ยวบริเวณเมืองเก่าซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และถ่ายรูปกับงานประติมากรรมที่มีชื่อเสียงแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้ไม่เช่นนั้นเหมือนมาไม่ถึง Torun ก็คือ มิวเซียมขนมปังขิง Torun บ้านเกิดของ Nicolaus Copernicus นักคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ผู้ปฏิวัติวงการดาราศาสตร์ด้วยทฤษฎีที่ให้ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางจักรวาลแทนโลกนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านขนมปังขิง ทั้งนี้เพราะเมืองนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีดินดี ทำให้สามารถปลูกข้าวสาลีได้ดี และยังอยู่ใกล้กับหมู่บ้านที่มีน้ำผึ้งมาก ยิ่งกว่านั้นการที่เมืองนี้อยู่ใกล้ทะเลทำให้การนำเข้าเครื่องเทศซึ่งมาจากอินเดียเพื่อใช้ทำขนมปังขิงทำได้ง่ายขึ้น ขนมปังขิงของเมืองนี้ถูกกล่าวถึงครั้งแรกตั้งแต่ปี 1380 และได้รับชื่อเสียงไปทั่วโปแลนด์และยุโรปอย่างรวดเร็ว ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 เมื่อขนมปังขิงของเมือง Torun เป็นที่ต้องการมากขึ้น รัฐบาลเมืองจึงให้การสนับสนุนด้วยการลดภาษีเครื่องเทศที่นำเข้าจากที่อื่นเพื่อเพิ่มการส่งออก


อย่างไรก็ดี ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 การค้าขนมปังเริ่มตกต่ำจนเหลือเพียงรายเล็กๆ 3 รายอันเป็นผลมาจากการที่บริษัทใหญ่ๆ กว้านซื้อร้านเล็กๆ ไปหมด และหันมาผลิตเป็นแบบโรงงานแทนโรงงานที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดเป็นของ Gustav Weese ซึ่งเป็นร้านขนมปังเก่าแก่
ตั้งแต่ปี 1763 ขนมปังขิงของโรงงานนี้เป็นที่ต้องการมากทั่วทั้งยุโรปและแอฟริกา สามารถส่งออกไปถึงญี่ปุ่น จีน ตุรกี และโฮโนลูลู นอกจากขนมปังขิงจะเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปแล้ว มันยังเป็นอาหารประจำชาติของชาวโปแลนด์ที่พวกเขามักมอบให้กับนักการเมือง กษัตริย์ และศิลปิน เช่น พระเจ้านโปเลียนแห่งฝรั่งเศส พระสันตะปาปาจอห์นปอลล์ที่สอง, Jan Matejko นักจิตรกรรม, Helena Modjeska นักแสดง และ Artur Rubinstein นักเปียโนขนมปังขิงยังเป็นสิ่งสำคัญของเมืองจนกระทั่ง Fryderyk Hoffman นักกวีแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 17 ยกย่องให้เป็น 1 ใน 4 ของสิ่งที่ดีที่สุดของโปแลนด์นั่นคือ วอดก้าของ Gdansk, ขนมปังขิงของ Torun, ผู้หญิงของ Krakow และ รองเท้าของวอร์ซอร์

เมื่อขนมปังขิงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของเมือง นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบมิวเซียมย่อมอยากเยือนมิวเซียมที่เกี่ยวข้องกับขนมปังขิงอย่างไม่ต้องสงสัย เมือง Torun มีมิวเซียมขนมปังขิง 2 แห่ง นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความแปลก และต้องการเรียนรู้การทำขนมปังขิงด้วย ควรไปเยือน The Living Museum of Gingerbread มิวเซียมinteractive แห่งแรกของยุโรปที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2006 นี้ตั้งอยู่ที่เลขที่ 9 ถนน Rabianska ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ Copernicus มากนัก นักท่องเที่ยวต้องซื้อตั๋วเข้ามิวเซียมก่อนโดยสนนราคามี 2 แบบขึ้นอยู่กับว่านักท่องเที่ยวจะเข้าworkshop ซึ่งจะจัดเป็นรอบๆ เพื่อหัดทำขนมด้วยหรือไม่ หากนักท่องเที่ยวไม่สนใจหัดทำขนมปังขิง ก็อาจเยือนแต่มิวเซียมได้โดยค่าใช้จ่ายจะถูกกว่า และสามารถชิมขนมปังขิงที่มีวางไว้ให้ลองชิมหลังเสร็จสิ้นการเยือนมิวเซียมเหมือนกัน ภายในมิวเซียมชั้นหนึ่ง ส่วนมิวเซียมจะเป็นห้องจัดแสดงวิธีการทำขนมปังขิง เครื่องมือ อุปกรณ์ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงเริ่มเข้าสู่ยุคโรงงาน ส่วนชั้นสองจะเป็นส่วนโรงงานสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19-20 ที่บริหารโดยพี่น้องตระกูล Rabianski ซึ่งจัดแสดงเครื่องจักรจากเยอรมนีที่ใช้ทำขนมปัง เตาเผาและแบบทำขนมปังต่างๆ ก่อนกลับนักท่องเที่ยวอาจนั่งพักและลองกินขนมปังขิงที่มีวางไว้ให้กินฟรีบนชั้นสองนี้ได้

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาให้ถึง Torun อาจเข้าส่วนเวิร์กช็อปที่อยู่ชั้นหนึ่งด้วย ส่วนเวิร์กช็อปนี้จะนำนักท่องเที่ยวกลับสู่ยุคกลางเพื่อเรียนรู้วิธีทำขนมปังขิงจากผู้ชำนาญการทำขนมปังขิงในสมัยนั้น นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสเรียนรู้วิธีการทำขนมปังขิงอย่างละเอียดและได้มีโอกาสที่จะตระเตรียมและทำขนมปังขิงด้วยตัวเองจนเสร็จสิ้นกระบวนการและได้รับขนมปังขิงที่ทำกลับบ้านไปด้วย

Work Shop
Work Shop
ห้องผู้จัดการโรงงาน
ห้องผู้จัดการโรงงาน
มิวเซียมขนมปังขิง
มิวเซียมขนมปังขิง
พิมพ์ขนมปัง
พิมพ์ขนมปัง
เตาอบสมัยเก่า
เตาอบสมัยเก่า
ตัวอย่างขนมปังขิง
ตัวอย่างขนมปังขิง
ขนมปังขิงแจก
ขนมปังขิงแจก
การจัดแสดงภายใน
การจัดแสดงภายใน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top