11 ม.ค. 2561 ที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการจัดเสวนาเรื่อง “วันเด็ก...ขอนโยบายดีกว่าคำขวัญ” โดยภายในงานมีการเปิดเผยผลสำรวจประชาชนกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,503 คน ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค. 2560-8 ม.ค. 2561 พบว่า 1.สิ่งที่นึกถึงเมื่อกล่าวถึงวันเด็ก 5 อันดับแรก อันดับ 1 นึกถึงของขวัญ เช่น ของเล่น 398 คน รองลงมาคืออาหารการกิน 210 คน อันดับ 3 กิจกรรมวันเด็ก 165 คน อันดับ 4 ความสุข 121 คน และอันดับ 5 คำขวัญวันเด็ก 55 คน
2.นโยบายเกี่ยวกับเด็กที่ผ่านมา 4 อันดับแรก อันดับ 1 ด้านการศึกษา 239 คน อันดับ 2 ไม่ทราบ 146 คน อันดับ 3 การสร้างเสริมคุณธรรม 66 คน และอันดับ 4 การส่งเสริมสิทธิเด็ก 59 คน 3.นโยบายเกี่ยวกับเด็กที่ควรมีในอนาคต 4 อันดับแรก อันดับ 1 ด้านการศึกษา 347 คน อันดับ 2 การสร้างเสริมคุณธรรม 107 คน อันดับ 3 ไม่ทราบ 79 คน และอันดับ 4 ทักษะด้านเทคโนโลยี 69 คน
4.สิ่งที่เด็กต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ 5 อันดับแรก อันดับ 1 พัฒนาด้านการศึกษา 496 คน อันดับ 2 ทุนการศึกษา 245 คน อันดับ 3 อุปกรณ์การเรียน 75 คน อันดับ 4 ไม่ทราบ 66 คน และอันดับ 5 ทุนสนับสนุนด้านอื่นๆ เช่น การทำกิจกรรม 62 คน 5.กิจกรรมวันเด็กของไทยส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 75 ตอบว่าเห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 21 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 8 ไม่เห็นด้วย
6.สื่อสาธารณะให้ความสำคัญกับประเด็นเกี่ยวกับเด็ก กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 70 ตอบว่าไม่เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 25 เห็นด้วย และร้อยละ 5 ไม่แน่ใจ 7.สังคมไทยเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 57 ตอบว่าเห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 27 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 16 ไม่เห็นด้วย 8.ระบบสาธารณสุขของไทยดูแลเด็กได้อย่างครอบคลุม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 48 ตอบว่าเห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 38 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 14 ไม่เห็นด้วย
9.ระบบการศึกษาและวัฒนธรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนของไทย ณ ปัจจุบัน ตอบโจทย์การเรียนรู้ตามศักยภาพของเด็ก กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 45 ตอบว่าเห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 28 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 27 เห็นด้วย 10.กฎหมายไทยสามารถดูแลคุ้มครองเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 48 ตอบว่าเห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 34 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 18 ไม่เห็นด้วย
11.เด็กไทยทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ (เช่น อินเตอร์เน็ต) ได้อย่างเท่าเทียมกัน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 53 ตอบว่าเห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 29 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 18 ไม่เห็นด้วย และ 12.วันเด็กของไทยนั้นเกิดจากความรักเด็กหรือหลอกเด็ก กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ร้อยละ 71 ตอบว่ารักเด็ก รองลงมา ร้อยละ 28 หลอกเด็ก และร้อยละ 1 ไม่แน่ใจ
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการและเครือข่ายวิชาการด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว และอาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยมีจุดแข็งทั้งกฎหมายคุ้มครองเด็กที่ก้าวหน้าดูแลเด็กทุกช่วงวัย มีกองทุนสำหรับเด็กด้อยโอกาส อย่างไรก็ตามหากดูจากสิทธิเด็กทั้ง 4 ด้าน จะพบว่า 1.สิทธิการมีชีวิตรอด เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีของไทยร้อยละ 10.5 หรือ 3.9 แสนคนมีปัญหาภาวะทุพโภชนาการ
2.สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา โดยพบว่า เด็ก 2 ใน 10 ไม่ได้เข้าเรียนในหลักสูตรปฐมวัย ทั้งที่เป็นวัยรากฐานของการพัฒนาสมองและพัฒนาการที่สำคัญ 3.สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครอง ซึ่งพบว่าเด็ก 8 ใน 10 คน เคยถูกใช้ความรุนแรงด้านร่างกายและจิตใจจากคนในครอบครัว และเกินครึ่งเคยได้รับการอบรมโดยการทำร้ายร่างกาย และ 4.สิทธิการมีส่วนร่วม โดยพบว่า วัฒนธรรมห้ามเถียง หรือไม่เชื่อว่าเด็กทำได้ ยังเป็นความเชื่อกระแสหลักในสังคมไทย
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ
“ไม่อยากให้วันเด็กเป็นเพียงกิจกรรม ทิศทางวันเด็กในปีต่อไปควรปฏิรูปงานวันเด็กให้มีนโยบายและทิศทางสำหรับเด็ก ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กอย่างแท้จริง” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี