วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปแนวหน้า : ‘บางคนที’  ฟื้นคลอง-ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

สกู๊ปแนวหน้า : ‘บางคนที’ ฟื้นคลอง-ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

วันอาทิตย์ ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.
Tag : สกู๊ปแนวหน้า การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อ.บางคนที อ.บางนกแขวก
  •  

การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecotourism) เป็นกระแสที่กำลังมาแรงทั้งในไทยและต่างประเทศ โดย กรมป่าไม้ ได้ให้นิยามของการท่องเที่ยวลักษณะนี้ไว้ว่า หมายถึง “การท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปยังแหล่งธรรมชาติและแหล่งวัฒนธรรมอย่างมีความรับผิดชอบ โดยไม่ก่อให้เกิด การรบกวนหรือความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” แต่มีวัตถุประสงค์อย่างมุ่งมั่น เพื่อชื่นชม ศึกษาเรียนรู้ และเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพ พืชพรรณ และสัตว์ป่า ตลอดจนลักษณะทางวัฒนธรรมที่ปรากฏในแหล่งธรรมชาตินั้น

เช่นเดียวกับ องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) สรุปองค์ประกอบของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศไว้ 6 ประการ คือ 1.เป็นการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงธรรมชาติ 2.มีการให้ความรู้และการสื่อความหมาย 3.เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวของกลุ่มเล็กๆ 4.ลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธรรมชาติ 5.ก่อประโยชน์แก่ท้องถิ่น และ 6.กระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์


อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวรูปแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากชุมชนไม่ตระหนักและเป็นผู้ริเริ่มอย่างเข้าใจ ดังตัวอย่างของ 2 ชุมชนคือ “บางคนที-บางนกแขวก” ซึ่งเป็น 2 ตำบลในพื้นที่ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ที่ชาวบ้านลุกขึ้นมาจัดทำ “โครงการวิจัยชุมชนกับการจัดระบบนิเวศเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์คลองดำเนินสะดวก พื้นที่โซน 6” เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รู้ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาติ การเตรียมชุมชนให้พร้อม และพัฒนาระบบการจัดการท่องเที่ยวที่สามารถรักษาสิ่งแวดล้อมและสร้างการมีส่วนร่วมให้กับชุมชน

บางคนทีและบางนกแขวก เป็นพื้นที่ราบลุ่มติดแม่น้ำแม่กลองจึงมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ และยังเป็นเส้นทางน้ำเชื่อมระหว่างแม่น้ำแม่กลองกับคลองดำเนินสะดวก ซึ่งไหลผ่านกลางชุมชนใน 2 ตำบล ด้วยเป็นพื้นที่ดินชุ่มน้ำดี วิถีชีวิตของชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีการปลูกพืชสวนผสม เช่น มะพร้าว ลิ้นจี่ กล้วยน้ำว้า ส้มโอฯลฯ แต่ปัจจุบันชุมชนเริ่มประสบปัญหาขยะและลำคลองตื้นเขิน เพราะขาดการใส่ใจดูแลรักษา หลังจากความเจริญเข้ามาสู่พื้นที่ ผู้คนหันไปใช้ถนนในการเดินทางแทนการสัญจรทางน้ำเหมือนในอดีต

พนม นาคคีรี สารวัตรกำนัน หมู่ 2 ต.บางคนที เล่าว่า เมื่อความเจริญเข้ามาในพื้นที่ทำให้วิถีชุมชนหายไป จากที่เคยทำสวนทำไร่ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าสืบทอดกันมาถึงรุ่นลูกหลาน ก็เริ่มขายที่ให้กับนายทุนจากภายนอกเข้ามาทำธุรกิจปลูกสิ่งก่อสร้างโรงแรม บ้านพัก รีสอร์ท และโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้สภาพพื้นที่ในชุมชนเปลี่ยนแปลง มีการถมคลองเพื่อทำถนน ส่งผลให้การสัญจรและการไหลของน้ำเกิดการเบี่ยงเบน

“คลองซอยที่กระจายอยู่ในชุมชนไว้รองรับน้ำเพื่อใช้เป็นพื้นที่แก้มลิงของชุมชนลดน้อยลง เหตุเพราะขาดจิตสำนึก ไม่ใส่ใจดูแลแม่น้ำลำคลอง ทิ้งขยะไม่เป็นที่ เกิดการสะสมขยะมูลฝอย รวมทั้งผักตบชวาและวัชพืชก็ไม่มีการเก็บ ปล่อยให้ขึ้นรกปกคลุมไปทั่วจนเรือไม่สามารถผ่านได้ จึงเห็นว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อกระตุ้นและสร้างจิตสำนึก ให้คนที่นี่หันกลับมาใส่ใจดูแลรักษาความสะอาดของแม่น้ำลำคลอง” เขากล่าว

สารวัตรกำนันผู้นี้ เล่าต่อไปว่า เมื่อทาง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เข้ามาฝึกอบรมให้ชาวบ้านมีทักษะด้านการวิจัย ก็ตัดสินใจเข้าร่วมด้วยเห็นว่าการทำวิจัยอย่างเป็นระบบ มีข้อมูลเป็นเหตุเป็นผลย่อมหมายถึง “ความน่าเชื่อถือ” สามารถนำไปเสนอกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อขอให้ช่วยสนับสนุนปัจจัยต่างๆ ได้ และสำหรับที่บางคนที-บางนกแขวก ผลที่ได้อีกประการหนึ่ง คือเป็นการ “ปลูกฝังจิตสำนึกให้กับคนรุ่นใหม่” ให้ช่วยกันอนุรักษ์และรักษาความสะอาดคูคลอง ปัจจุบันพบว่าปัญหาขยะที่ทิ้งกันเกลื่อนกลาดไม่เป็นที่ลดลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด

ไม่เพียงแต่ทำให้ชุมชนได้ลำคลองและสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่สะอาดกลับคืนมาเท่านั้น แต่การทำวิจัยโดยชุมชนเพื่อแก้ปัญหาของชุมชนครั้งนี้ ยังได้เกิดเป็น “ฐานข้อมูลและแผนพัฒนาชุมชน” ของทั้ง 2 ตำบล ที่ได้จากการประชุมหารือระหว่างคนในชุมชน นำไปสู่รูปแบบการท่องเที่ยวที่สอดคล้องต่อระบบนิเวศและประวัติศาสตร์ โดยมีการจัดตั้ง “ศูนย์เรียนรู้คลอง” ขึ้นที่โรงเรียนเมธีชุนหะวัณวิทยาลัย เพื่อเป็นที่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของที่นี่

“ถ้าวันใดที่ไม่มีน้ำเราก็อยู่ไม่ได้ เพราะน้ำเปรียบเสมือนเส้นเลือดในร่างกาย การทิ้งขยะลงในแม่น้ำก็เหมือนกับทิ้งใส่ตัวเอง และการถมคลองทำถนนก็เหมือนเส้นเลือดที่อุดตัน ย่อมก่อให้เกิดโรคภัยตามมา เช่นเดียวกันหากปล่อยให้แม่น้ำลำคลองสกปรก เน่าเสีย เราก็จะไม่มีน้ำสะอาดไว้ดื่มไว้ใช้ แต่ถ้าแม่น้ำใสสะอาดก็เหมือนร่างกายที่สมบูรณ์ไม่มีโรคภัย ดังนั้นถ้าคิดว่าเรารักชีวิตของเราแค่ไหน ก็สมควรที่จะรักแม่น้ำลำคลองมากเท่านั้น” พนม กล่าวทิ้งท้าย

นอกจากจะเป็นการฟื้นฟูลำคลองและเกิดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ งานวิจัยของชาวชุมชนบางคนทีและบางนกแขวก ยังมีความหมายในแง่ “การตามหารากเหง้าของตน” คนในชุมชนโดยเฉพาะเด็กๆ ได้รับรู้ว่าบรรพชนของพวกเขาเป็นใคร? ชุมชนของพวกเขาเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? โดยมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ได้แก่ โรงเรียนดรุณานุเคราะห์, โรงเรียนวัดเจริญสุขาราม (วัฒนานุวรรตน์) และโรงเรียนเมธีชุณหะวัณวิทยาลัย รวมถึงชุมชนมีความสามัคคีจากการที่สมาชิกได้ “ร่วมคิด-ร่วมทำ” ร่วมพัฒนาถิ่นฐานบ้านเกิดของตน

และหากทุกชุมชนมีทักษะการทำวิจัย จะทำให้เกิดการ “เชื่อมต่อ” ร้อยเรียงข้อมูลกันตั้งแต่ระดับตำบลไปจนถึงอำเภอ หรือแม้แต่ระดับจังหวัด โครงการพัฒนาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ย่อมเปิดโอกาสที่จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของคนในชุมชนเองในท้ายที่สุด!!!

 

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’ สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย
  • สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’ สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง
  • สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
  •  

Breaking News

รวบสาวใหญ่ หนีหมายจับ คดีลูกโซ่ยูฟัน นาน 10 ปี ก่อนบวชเป็นแม่ชี พบเงินสะพัด 19 ล้าน

ชนชาตินิสัยไม่ดี? 'นักเขียนซีไรต์'รับไม่ได้...คนไทยเหยียดเขมร

กลั้นน้ำตาไม่อยู่! 'แมท ภีรนีย์'ประกาศข่าวดีตั้งท้องลูกคนแรกแล้ว เพื่อนในวงการแห่ยินดี

อย่าเพิ่งชะล่าใจ! นักวิชาการ มธ. เร่งฝึกซ้อมแผนอพยพ เตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved