กลายเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ใครก็ไม่ควรพลาด สำหรับ “หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา” จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่เลขที่ 999 ต.วังเย็น อ.แปลงยาว สมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2561
บนพื้นที่ 36 ไร่ ที่ใช้ในการก่อสร้าง “วัดวังเย็น” มอบพื้นที่ให้ “สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)” กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยหวังจะเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับประชาชนและสถานศึกษา ทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง ด้วยเพราะ จ.ฉะเชิงเทรา มีพื้นที่ติดต่อกับ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี และจันทบุรี
ด้วยชัยภูมิเป็นพื้นที่ราบ กว้าง จึงทำให้การสร้าง “หอดูดาว” ดูงดงามอลังการ รายล้อมด้วยบ้าน วัด โรงเรียน และชุมชน ที่เป็นส่วนผสมที่ลงตัว
ภายในหอดูดาวฯ ประกอบไปด้วย อาคารฉายดาว มีโดมฉายดาว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เมตร ติดตั้งเครื่องฉายดาวระบบฟูลโดมดิจิทัล ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล รองรับการฉายดาวด้วยโปรแกรมดูดาว Stellarium สามารถแสดงภาพดวงดาวบนท้องฟ้าตามวัน และเวลาที่ต้องการ สามารถฉายภาพกลุ่มดาวต่าง ๆ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ กาแล็กซี่ เนบิวลา กระจุกดาว และดาวเคราะห์ต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ยังสามารถอธิบายและให้ความรู้เกี่ยวกับทรงกลมท้องฟ้า ระบบพิกัดท้องฟ้า รวมถึงฉายภาพยนตร์จำลองระบบสุริยะ วัตถุในห้วงอวกาศลึก และภาพยนตร์ทางดาราศาสตร์ต่าง ๆ
ขณะเดียวกันในอาคารฉายดาว ยังมีส่วนของนิทรรศการดาราศาสตร์ จัดแสดงในรูปแบบชุดการเรียนรู้ดาราศาสตร์แบบมีปฏิสัมพันธ์เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้เสมือนจริง ประกอบด้วยนิทรรศการทั้งหมด 14 โซนได้แก่ 1.สเปกตัมกับการค้นพบทางดาราศาสตร์ 2.การรวมแสงของกล้องโทรทรรศน์ 3.การหักเหของแสง 4.การรวมสีของแสง 5.การเกิดเฟสของดวงจันทร์
6.การหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์แก๊ส 7.หลุมดวงจันทร์ 8.การสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์ 8.การสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์ 9.น้ำหนักบนดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ 10.แสงกับภาพถ่ายดาราศาสตร์ 11.อุกกาบาต 12.รูรับแสงของกล้องโทรทรรศน์ 13.การสำรวจดวงจันทร์ 14.ฤดูกาลและการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์
สิ่งที่หน้าตื่นตาตื่นใจภายในหอดูดาวฯ อีกที่คือ อาคารหอดูดาว ที่ตั้งโดดเด่นรูปทรงคล้าย “เปลือกหอย” ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 18 ฟุต ภายในตั้งกล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.7 เมตร เป็นกล้องโทรทรรศน์หลักสำหรับการวิจัยทางดาราศาสตร์ ควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ มีอุปกรณ์ถ่ายภาพแบบซีซีดีสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลทางดาราศาสตร์เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัย และมีช่องมองภาพเพื่อให้ผู้เข้าชมได้ส่องดูวัตถุท้องฟ้าต่าง ๆ ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สำหรับงานวิจัยทางดาราศาสตร์ อาทิ สเปกโทรกราฟ และเครื่องมือทางดาราศาสตร์อื่น ๆ เป็นต้น
อาคารหอดูดาวยังได้ออกแบบให้เชื่อมต่อกับระเบียงดาว มีการติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบด้วย 1.กล้องโทรทรรศน์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9.5 และ 14 นิ้ว มีระบบค้นหาและติดตามการเคลื่อนที่ของดาวแบบอัตโนมัติ พร้อมกล้องติดตามวัตถุท้องฟ้าที่ช่วยให้การถ่ายภาพมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น 2.กล้องโทรทรรศน์แบบหักเหแสดงคุณภาพสูง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 150 มิลลิเมตร สามารถเห็นขอบหลุมบนดวงจันทร์ รายละเอียดบนแถบเมฆ และพายุสีแดงบนดาวพฤหัส รวมถึงหุบเหว และปากปล่องภูเขาไฟบนดาวดังคารได้อย่างชัดเจน
3.กล้องสองตาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 125 มิลลิเมตร เป็นกล้องสองตาขนาดใหญ่เหมาะกับการสังเกตดาวเคราะห์ กระจุกดาวเปิด และดวงจันทร์ สามารถเห็นมิติลึกตื้นของหลุมบนดวงจันทร์ แตกต่างจากการสังเกตการณ์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ ด้วยตาข้างเดียว
4. กล้องโทรทรรศน์แบบหักเหแสง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 106 และ 130 มิลลิเมตร ติดตั้งเลนส์รวมแสงคุณภาพสูงสามารถติดตามการเคลื่อนที่ของดาวแบบอัตโนมัติได้ตลอดคืน เหมาะสำหรับการสังเกตการณ์วัตถุท้องฟ้าที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เช่น ดวงจันทร์ เนบิวลาในกลุ่มดาวนายพราน กระจุกดาวลูกแก่ หรือกระจุกดาวเปิดอื่น ๆ
5. กล้องดูดวงอาทิตย์ เป็นกล้องโทรทรรศน์ที่ออกแบบสำหรับการศึกษาดวงอาทิตย์โดยเฉพาะ มีความปลอดภัยต่อผู้สังเกต สามารถมองเห็นเปลวสุริยะได้อย่างชัดเจน กล้องโทรทรรศน์ทั่วไปที่ใช้แผ่นกรองแสดงดวงอาทิตย์แบบธรรมดาจะเป็นเปลวสุริยะเป็นเพียงจุดสีดำเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่การเรียนรู้ อาทิ แบบจำลองวงโคจรของระบบสุริยะ สโตนเฮนจ์ นาฬิกาแดด สวนพฤกษศาสตร์ และลานดูดาวกลางแจ้งสำหรับกิจกรรมทางดาราศาสตร์ ในช่วงที่มีปรากฎการณ์สำคัญทางดาราศาสตร์ ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ ตั้งแต่วันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ หยุดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
หอดูดาวฯ จ.ฉะเชิงเทรา นับเป็นหอดูดาวสำหรับประชาชนเต็มรูปแบบแห่งที่ 2 ของประเทศไทย หลังจากที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2552 มีมติเห็นชอบให้ สถาบันวิจยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ดำเนินการก่อสร้างหอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชนจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา สงขลา ขอนแก่น และพิษณุโลก ทั้งหอดูดาวฯ ทั้ง 5 แห่งนั้น เป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยใช้ นามพระราชทานว่า “หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา” ตามด้วยชื่อจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของหอดูดาวนั้นๆ
มีเป้าหมายหลักเพื่อให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ดาราศาสตร์สำหรับประชาชนและสถานศึกษาในท้องถิ่นนั้น ๆ รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวิชาการที่สำคัญของภูมิภาค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี