"ธรรมกาย" ปรับแผนธุดงค์ "เส้นทางพระผู้ปราบมาร" ปีที่ 6 จากเดิมที่เคยนำพระสงฆ์ในเครือข่ายทั่วประเทศเดินธุดงค์บนกลีบดอกเบญจมาศไปเป็นธุดงค์นั่งรถทัวร์ตามรอย "หลวงพ่อสด" บรรลุวิชาธรรมกายแทน เพื่อบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์พระมงคลเทพมุนี เริ่มระหว่าง 2-31 มี.ค.นี้ ด้าน "บิ๊กดีเอสไอ" เผย จนท.ยังติดตาม"ธัมมชโย"ต่อเนื่อง 

วันนี้ (22 ก.พ.) นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเทศกาลมาฆบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ได้เวียนมาบรรจบอีกรอบ คณะสงฆ์ 6 จังหวัดในเส้นทางธรรมยาตรา องค์กรพุทธโลก (พล) สหพันธ์รวมใจไทยทั้งชาติ ชมรมพุทธศาสตร์สากลฯ ชมรมรักษ์บวร รักษ์ศีล 5 ปทุมธานีฯ เครือข่ายคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก วัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมสนับสนุนกว่า 20 องค์กร จึงได้ประสานความร่วมมือกันสานต่อการดำเนินงานโครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 6 รักษ์บวร รักษ์ศีล 5 เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา และบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา พุทธศักราช 2561 ระหว่างวันที่ 2-31 มีนาคม 2561 ณ อนุสรณ์สถานพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ และเส้นทางธรรมยาตราในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร 

นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ในฐานะผู้ประสานงานโครงการฯ กล่าวว่า โครงการธรรมยาตราฯนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมกิจกรรมตามหลักสูตรของโครงการอุปสมบทหมู่ธรรมทายาทฯ ซึ่งคณะพระภิกษุธรรมยาตราจากทั่วประเทศในโครงการฯ กำลังเข้ารับการฝึกอบรม เป็นหลักสูตรที่สนองตามแนวทางมติของมหาเถรสมาคมที่ต้องการมุ่งฝึกฝนพระภิกษุให้เป็นที่พึ่งทางใจและทางสติปัญญาของประชาชน ทั้งบำเพ็ญกิจเพื่อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ก่อนที่จะได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับตลอดโครงการฯนี้ กลับไปปรับใช้ในวัดภูมิลำเนาที่อุปสมบททั่วประเทศเพื่อพัฒนางานพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป

นอกจากนี้ ยังเป็นการจัดกิจกรรมเพื่อสืบสานพุทธประเพณี ส่งเสริมศีลธรรมและความปรองดองสมานฉันท์ในหมู่ประชาชนสอดคล้องตามโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เชิงคุณภาพ ซึ่งพุทธบริษัทได้ดำเนินงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กิจกรรมตลอดเส้นทางธรรมยาตราจึงมุ่งเน้นสานสัมพันธ์ชุมชนชาวพุทธด้วยการสร้างบุญทำความดีในแนวทางรักษ์บวร รักษ์ศีล 5 

อาทิ การสร้างความสุขและปลื้มใจแก่สาธุชนด้วยบุญสามัคคีตักบาตรพระภิกษุนับพันรูป, การจัดปฏิบัติธรรมในมหกรรมเจริญพระพุทธมนต์ฯ บำเพ็ญจิตตภาวนา ถวายสังฆทาน เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา, การรวมศรัทธา ผู้รักการให้สร้างสาธารณกุศลมอบทุนการศึกษาให้สถานศึกษาในเส้นทางฯ, กิจกรรมสานสามัคคีเครือข่ายบวร ร่วมทำความสะอาดวัดดูแลรักษาศาสนสถานให้เป็นรมณียสถานศูนย์รวมใจของชุมชน, งานบุญแห่งความกตัญญูรู้คุณปุพพเปตพลีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ, การร่วมโปรยกลีบดอกเบญจทรัพย์ต้อนรับพระภิกษุธรรมยาตราฯ ภายในพื้นที่อนุสรณ์สถานที่ศึกษาชีวประวัติและปฏิปทาในการสร้างบารมีของหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญทั้ง 6 แห่ง, การจุดประทีปและปฏิบัติธรรมเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ เป็นต้น

นายองอาจ เปิดเผยด้วยว่า สำหรับโครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 6 นี้่จะแตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมาจากเดิมที่จะนำพระสงฆ์เดินธุดงค์เป็นระยะทางยาวต่อเนื่องตลอดโครงการ แต่ปีนี้จะมีการปรับเปลี่ยนใหม่มาเป็นการธุดงค์ในระยะสั้น คือ จะนำพระสงฆ์ขึ้นรถทัวร์ไปยังอนุสรณ์สถานพระมงคลเทพมุนีแต่ละแห่งจากนั้นก็จะให้พระสงฆ์ลงจากรถบริเวณใกล้กับอนุสรณ์สถาน แล้วเดินธงค์เข้าไปยังอนุสรณ์สถานพระมงคลเทพมุนี เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ โดยจะมีญาติโยมนำกลีบดอกเบญจทรัพย์ หรือดอกเบญจมาศ มาโปรยให้พระสงฆ์ธุดงค์เข้าไป โดยกิจกรรมตามโครงการฯจะเริ่มต้นขึ้นเป็นวันแรกในวันศุกร์ที่ 2 มีนาคม 2561 เวลา 09.30 น. ณ วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี

ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงคดีวัดธรรมกายว่า นับตั้งแต่ดีเอสไอเสร็จสิ้นปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่วัดและเข้าตรวจค้นวัดโดยอาศัยอำนาจ ม.44 เพื่อจับตัวพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนั้น ทางดีเอสไอ ก็เหลือเพียงภารกิจติดตามตัวพระธัมมชโย และสืบหาข่าวภาพรวมโดยทั่วไปเท่านั้น

สำหรับการดูแลความสงบเรียบร้อยเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของวัดพระธรรมกายเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยนั้น อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในอำนาจหน้าที่คณะกรรมการ 4 ฝ่าย ที่ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ตัวแทนฝ่ายปกครอง, สำนักพระพุทธศาสนา จังหวัดปทุมธานี ตัวแทน พศ. และ สภ.คลองหลวงจังหวัดปทุมธานี ดัวแทนฝ่ายตำรวจและตัวแทนวัดพระธรรมกาย ทั้งนี้ จะมีการทำหน้าที่โดยเข้าตรวจตราพื้นที่ในวัดทุก 7 วัน