หลังจาก "พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ" สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามกลไกการปกป้องคุ้มครองสัตว์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงปัญหาการพิพาทระหว่างคนกับลิงในปัจจุบันที่มีการแผ่ขยายไปหลายพื้นที่มากกว่า 50 จังหวัด แต่พื้นที่ที่อยู่ในขั้นวิกฤต และจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างคนกับลิงในทันที มี 12 จังหวัด ได้แก่ จ.ลพบุรี กระบี่ ชลบุรี ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ภูเก็ต มุกดาหาร สตูล สระบุรี อำนาจเจริญ และเขตบางขุนเทียน กทม. จึงมีแนวคิดที่จะนำลิงไปปล่อยเกาะ และมีการสำรวจพื้นที่ที่มีเกาะตามธรรมชาติจำนวน 191 เกาะ ต้องมีน้ำ ระบบนิเวศที่พร้อม โดยหนึ่งในนั้นมี จ.ชลบุรี รวมอยู่ด้วย
จากการลงพื้นที่สำรวจเกาะเป็ด อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีลิงอาศัยอยู่ประมาณ 1,000 ตัว โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งจะอาศัยอยู่ด้านบนศาลา ส่วนอีกกลุ่มอยู่บริเวณชายหาด คอยอาหารจากนักท่องเที่ยว ที่แวะเวียนนำอาหารมาให้ หากช่วงไหนไม่มีนักท่องเที่ยว ลิงเหล่านี้ก็จะหาอาหารที่เหลือ รวมถึงจับปลาตามชายฝั่งกินประทังชีวิต โดยสังเกตได้เมื่อมีเรือท่องเที่ยวเข้ามาเทียบท่าบริเวณเกาะเป็ด ลิงที่อยู่บนเกาะแห่งนี้ก็จะวิ่งลงมาจากศาลาแล้วว่ายน้ำมายังเรือ เพื่อขออาหาร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ลิงเหล่านี้อยู่ได้จากอาหารที่นักท่องเที่ยวเอามาให้
นายธนวัติ หมั่นหาดี ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว บอกว่า สำหรับชลบุรีมีเกาะเป็ด อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่จะมีฝูงลิงจำนวนมากอยู่ที่เกาะดังกล่าว และถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เดินทางมาให้อาหารลิง มีความสนิทมากกว่าที่อื่นๆ เพราะลิงที่เกาะจะต้องอาศัยอาหารของนักท่องเที่ยว โดยเกาะเป็ดนั้นมีฝูงลิงเยอะมาก แต่ว่าช่วงหลังนักท่องเที่ยวคนไทยเริ่มไปน้อย เพราะมีการจัดเก็บเงินกับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นเกาะ โดยเฉพาะชาวไทยจะเสียความรู้สึก ปัจจุบันส่วนมากเป็นชาวต่างชาติจะนิยมไปเที่ยวกัน อาหารน้ำที่ลิงได้รับประทานนั้นส่วนมากจะเป็นอาหารจากนักท่องเที่ยว
จากที่เห็นลิงในเกาะมีการปรับตัวลิงสามารถดำน้ำจับปลาได้ ของกินถ้าเราโยนให้ลิงถ้าตกลงน้ำลิงสามารถดำน้ำงมขึ้นมากินได้ ส่วนน้ำดื่มนั้นสามารถกินน้ำได้ทุกอย่าง ปัจจุบันลิงตามเกาะในชลบุรีมีอยู่ 3 เกาะ มีเกาะเป็ด เกาะล้าน เกาะลิ้น สำหรับเกาะเป็ด เกาะล้าน ไม่มีปัญหาเพราะนักท่องเที่ยวให้อาการกิน แต่เกาะลิ้นนั้นปัจจุบันไม่ทราบเพราะทหารไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปบริเวณรอบเกาะ สำหรับความเห็นส่วนตัวที่จับลิงปล่อยเกาะก็อยากให้ศึกษาเลือกสถานที่ เลือกเกาะที่ถูกต้อง มีอาหารให้ลิงสามารถอยู่ได้ควรศึกษาและเลือกเกาะที่ถูกต้องที่สุด
"หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรศึกษาและเลือกสถานที่ที่เหมาะสม มีอาหารที่เพียงพอให้สำหรับลิง"
น.ส.จงกล ขันทอง ชาวบ้าน จ.ชลบุรี เปิดเผยความรู้สึกหลังจากได้รับข่าวจะมีการย้ายลิงไปปล่อยบนเกาะต่างๆ ที่ จ.ชลบุรีว่า จริงๆ ตนก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว เพราะถ้าหากเอาลิงไปปล่อยเพิ่มเป็นจำนวนมาก พวกเขาจะหาอาหารจากที่ไหน หากินเองตามธรรมชาติก็คงลำบาก เพราะพื้นที่แต่ละเกาะไม่เหมือนกัน อาหารไม่พอแน่สำหรับลิงที่อยู่เดิมอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ตนก็เห็นใจสำหรับคนที่อยู่ในพื้นที่แล้วถูกลิงรบกวน แต่หากหาพื้นที่ที่เหมาะสมกับลิง เช่น พื้นที่ที่เป็นป่าชายแลน ก็เหมาะกับลิงแสม เราต้องดูด้วยว่าพื้นที่ที่เราจะนำลิงไปปล่อยนั้น เหมาะกับลิงสายพันธุ์ใด แต่ถ้าหากจะเอาลิงไปปล่อยตามเกาะล้าน เกาะเป็ด ตนเห็นว่าลิงอาจจะลำบาก เพราะไม่ใช่ที่ของมัน และเกาะที่มีนักท่องเที่ยวลิงอาจจะได้อาหารจากคนที่ไปเที่ยว แต่ถ้าเอาไปปล่อยในปริมาณมาก ผลที่ตามมาที่หลังก็คือลิงก็จะไปก่อความวุ่นวายให้กับนักท่องเที่ยวบนเกาะ และก็จะต้องกลับมาสู่สภาพเดิม ไม่ต่างกับที่กำลังจะแก้ปัญหากันอยู่ในปัจจุบัน ก็จะต้องย้ายลิงไปเรื่อยๆ
ส่วน จ.ภูเก็ต ก็เตรียมจัดประชาพิจารณ์นำร่อง 5 เกาะ พบว่าไม่มีคนอาศัยอยู่ และมีศักยภาพในการเป็นที่อยู่อาศัย หรือสร้างนิคมลิง รองรับลิงในอนาคต เนื่องจากมีแหล่งน้ำมีพืชอาหาร และไม่มีปัจจัยคุกคามทั้งสัตว์ผู้ล่าและคนที่จะเข้าไปล่าลิง โดยเหลือการออกแบบแหล่งน้ำฝนว่าจะเพียงพอให้ลิงได้อยู่อาศัย และการทำประชาพิจารณ์ความเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นคาดว่าพื้นที่นิคมลิง หรือเกาะลิง มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่ คือ จ.ภูเก็ต ขณะที่ลพบุรี เสนอแผนแม่บทย้ายลิงตึก
นายเอ็ดวิน วีค เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า เปิดเผยว่า การขนย้ายลิงไปอยู่บนเกาะ ถึงแม้จะเป็นเกาะไม่มีคนอยู่อาศัยก็ต้องถือเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะจัดการปัญหาลิงกับคน โดยอยากให้มองถึงการแก้ปัญหาในเชิงพื้นที่ เชื่อว่าลิงมีปัจจัยจากมนุษย์ เพราะการที่นักท่องเที่ยวให้อาหารลิงก็มีผลทำให้พฤติกรรมลิงเปลี่ยน และเข้าใกล้ชิดคนมากขึ้น ขณะที่พื้นที่ของลิงถูกชุมชนเข้าไปบุกรุกเช่นกัน
ทั้งนี้ ปัญหาลิงเกิดจากคนสร้างไว้ ไม่ถูกต้องถ้าจะไปสร้างปัญหากับระบบนิเวศ สัตว์ป่าหายากทั้งในพื้นที่เขตอุทยาน เขตห้ามล่า และเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะต้องมีทำการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือีไอเอ ก่อนที่จะไปปล่อยว่าจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน แต่ผมยืนยันว่าจะมีผลกระทบแน่นอน เพราะลิงจะหากินยาก และมันอาจจะไปกินไข่นก ที่วางไว้ และทำลายพืช ต้นไม้ต่างๆมันไม่แน่นอน สรุปว่ามีผลกระทบแน่นอน แต่จะเยอะหรือน้อยเท่านั้น
ขณะที่นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุว่า จากการสำรวจความเห็นของชุมชนทั่วประเทศกว่า 7,000 คน พบว่าสัตว์อันดับแรกที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญมากที่สุด คือ ลิง พบมากถึง 183 แห่งใน 53 จังหวัด และมีพื้นที่วิกฤตหนักถึงขั้นเดือดร้อนรำคาญ 12 จังหวัด คือ จ.ลพบุรี กระบี่ ชลบุรี ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ภูเก็ต มุกดาหาร สตูล สระบุรี อำนาจเจริญ และเขตบางขุนเทียน กทม. ระดับปานกลาง 11 จังหวัด เช่น ราชบุรี สระแก้ว ชัยนาท ร้อยเอ็ด อุดรธานี และระดับต่ำ 30 จังหวัด
โดยที่ผ่านมากรมอุทยานฯ มีมาตรการควบคุมการเกิดของประชากรลิงด้วยการทำหมัน แต่ไม่ได้ผลมากนัก เนื่องจากมีจำนวนลิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดนน่าจะเกิน 1 แสนตัว ส่วนใหญ่เป็นลิงแสมที่มีปัญหามากสุด 34,608 ตัว ส่วนสัตว์อันดับที่ 2 คือ ช้าง 166 แห่งที่มีปัญหาเชิงพื้นที่ อันดับ 3 หมูป่า 82 พื้นที่
"การจัดการย้ายลิงในแต่ละพื้นที่จะต้องดูถึงสาเหตุของปัญหา เพราะจากการสำรวจกรมอุทยานฯแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ลิงถูกรุกล้ำพื้นที่หรือถูกคุกคาม บางพื้นที่ที่อยู่อาศัยของลิงถูกล้อมด้วยชุมชน และพื้นที่อยู่อาศัยของลิงถูกเปลี่ยนเป็นชุมชน" นายปิ่นสักก์ กล่าว
ในส่วนของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า การฟื้นฟูระบบนิเวศอ่าวมาหยา เกาะพีพี ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไม่เห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์กับแนวคิดว่าจะย้ายลิงไปอยู่บนเกาะ โดยองค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญของระบบเกาะอย่างมาก หากจะนำเอาลิงไปปล่อยเกาะในเขตอุทยานแห่งชาติ ถือเป็นแนวทางที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะต้องคำนึงถึงสมดุลของระบบนิเวศพื้นที่ ทั้งนี้หากจะแก้ปัญหาก็ควรจะสร้างเกาะลิงขึ้นมาและจัดรูปแบบการจัดการใหม่
นายบัณฑิต รอดดารา ชาวบางโทรัด จ.สมุทรสาคร ได้ให้ความเห็นการวิพาทระหว่างคนกับลิงว่า ตนมีบ้านอยู่ใกล้ป่าชายเลน ซึ่งมีลิงแสมค่อนข้างมาก และเริ่มอยู่ปะปนกับพื้นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน บางครั้งลิงเหล่านี้เข้ามาสร้างความเดือนร้อนหาอาหารในพื้นที่ของชาวบ้าน ชาวบ้านก็จะแจ้งเจ้าหน้าที่มาไล่มาจับให้เข้าป่าไป แต่ต้องยอมรับว่าพื้นที่ป่าชายเลนดั้งเดิมเริ่มโดนบุกรุกมากขึ้นจากชาวบ้าน ป่าชายเลนเหลือน้อย ช่วงที่แล้งหรืออาหารไม่มีลิงพวกนี้ก็เข้ามาหาอาหารในบ้านของชาวบ้าน ช่วงหลังๆชาวบ้านเริ่มเอาเศษอาหาร เศษผัก กล้วย ผลไม้มาให้ลิง ปัญหานี้ก็เบาบาง ลิงกับคนอยู่เป็นพื้นที่
"ผมเห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ต้นเหตุ คือ การที่ป่าถูกบุกรุก ลิงหาอาหารไม่ได้เหมือนเก่า การที่รัฐจะจัดระเบียบลิงเป็นสิ่งที่ดี ประกาศเขตป่าให้ชัดเจน และควบคุมจำนวนลิงไม่ว่าจะทำหมันเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ป่า ป้องกันไม่ให้คนบุกรุกป่าเป็นสิ่งที่ควรทำ" นายบัณฑิต กล่าว
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมคณะได้เคยเดินทางโดยเรือเร็วข้ามจากโรงเรียนชุมพลทหารเรือ ไปยังเกาะเป็ด หรือเกาะเกล็ดแก้ว เพื่อตรวจสอบว่าลิงแสมที่อาศัยอยู่บนเกาะกว่า 1,000 ตัวได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อน เกรงว่าลิงจะมีอาการเครียด อาจกัด หรือทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้และพบว่าถ้านักท่องเที่ยวถือขวดน้ำทุกชนิดขึ้นมาบนเกาะก็จะถูกลิงแย่งแล้วหนีขึ้นไปบนที่สูงเพื่อดื่มอย่างกระหาย บางตัวก็ต้องผิดหวังเมื่อเจอขวดเปล่า
หลากหลายความคิดเห็นข้อวิพาทระหว่างคนกับลิง บางคนให้ความเห็นว่าควรจะย้ายลิงไปปล่อยที่เกาะ เพื่อลดความวุ่นวายและการรบกวนจากลิง บ้างก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากลิงไปอยู่บนเกาะแล้วจะทำให้ระบบนิเวศพังหมดและอีกอย่างหากปล่อยลิงไว้แบบธรรมชาติลิงอาจจะดุร้าย หรืออาจจะอดตายไปในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี