รวม 17 วัน 18 คืนเต็มๆ กับภารกิจค้นหาช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชน อายุ 11-16 ปี กับโค้ช "ทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย" ทั้งหมด 13 คน ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังจากทั้งหมดหายเข้าไปในถ้ำตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิถุนายน 2561 จนมาพบตัวทั้งหมดภายในบริเวณเนินนมสาว ของถ้ำหลวง ในเวลาประมาณ 22.30 น. คืนวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือพาหมูป่าทั้งหมดออกมาสู่โลกภายนอกได้จนครบทั้ง 13 คนสิ้นสุดในเวลา 18.47 น. วันนี้ (10 ก.ค.) รวม 9 วันในการค้นหา และอีก 8 วันในการวางแผนกู้ภัยช่วยเหลือทั้งหมดออกมาจากถ้ำ
*ระดมทุกหน่วย - นานาชาติช่วยค้นหา
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2561 ทีมฟุตบอลเยาวชน พร้อมโค้ชทีม "หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย" ได้เดินทางมาฝึกซ้อมฟุตบอลและโพสต์การฝึกซ้อมผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ที่สนามบ้านจ้อง ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก่อนที่เวลาประมาณ 15.00 น. นายเอกพล จันทรวงค์ หรือ "โค้ชเอก" วัย 25 ปี พร้อมนักเตะเยาวชนทั้งหมด 13 ชีวิตได้พากันขี่จักรยานเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน แต่ปรากฏว่าเกิดฝนตกหนัก ระดับน้ำในถ้ำเพิ่มขึ้นสูง ทั้งหมดจึงติดอยู่ภายในถ้ำ
จนเจ้าหน้าที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน มาพบจักรยาน 11 คันจอดอยู่ที่บริเวณหน้าปากทางเข้าถ้ำหลวง จึงเข้าไปตรวจสอบและได้ข้อมูลเบื้องต้นว่า มีกลุ่มเด็กหายเข้าไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จึงได้ประสานกับตำรวจ สภ.แม่สายเข้าไปตรวจสอบแต่ไม่พบ จนกระทั่งมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าค้นหาจากหน่วยงานต่างๆ โดยมีการแต่งตั้งนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายในขณะนั้นเป็น "ผู้บัญชาการเหตุการณ์ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน" พร้อมด้วยสรรพกำลังจากหน่วยงานต่างๆ และความช่วยเหลือจากนานาชาติ
โดยการค้นหามีทั้งลาดตระเวนทางบก ทางอากาศรอบๆ ถ้ำหลวง ดอยนางนอน เพื่อหาปล่องโพร่งที่จะเข้าไปช่วยเหลือทีมหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำ ขณะที่หน่วยซีล จากทหารเรือและนักประดาน้ำจากนานาชาติต่างเดินหน้ามุดถ้ำเพื่อเข้าไปให้ถึงจุดที่คาดว่าเยาวชนทีมหมูป่าทั้ง 13 คนจะรออยู่ที่นั้นท่ามกลางอุปสรรคมากมาย เนื่องจากน้ำในถ้ำที่มีระดับสูงขึ้น ฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง ขณะที่ทุกฝ่ายต้องเร่งทำงานแข่งกับเวลา เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศไว้ว่าจะเกิดมีฝนตกหนักเหนือดอยขุนน้ำนางนอน ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้น้ำในถ้ำสุงขึ้นอีก ซึ่งจะยากต่อการค้นหา
*พ่อแม่เครียดหันพึ่งปาฎิหาริย์ทุกทาง
ในระหว่างการค้าหาพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และผู้ปกครองของทีมเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ทั้ง 13 คนได้มาปักหลักรออยู่ที่บริเวณหน้าถ้ำตั้งแต่วันแรก บางคนข้าวไม่ยอมทาน จนเกิดอาการเครียด แพทย์ต้องเข้าปฐมพยาบาลและดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมกับทำพิธีขอขมาและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บริเวณถ้ำหลวงขอให้เยาวชนทีมหมูป่าทั้ง 13 คนรอดปลอดภัยกลับมา
การค้นหายังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งคืนวันที่ 29 มิถุนายน 2561 เวลา 20.20 น.ที่พึ่งทางใจของพ่อแม่ก็มีขึ้นอีกครั้งเมื่อพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุ แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน เดินทางมาที่ถ้ำหลวง-ชุนน้ำนางนอนเพื่อทำพิธีถอนขึด ช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ชุนน้ำนางนอนกลับบ้าน พร้อมกับบอกว่า "เด็กๆ ยังมีชีวิตอยู่อีก 2-3 วันจะได้เจอ" จากนั้นบ่ายวันที่ 30 มิถุนายน 2561 พระครูบาบุญชุ่ม ก็ได้เดินทางมาอีกครั้งเพื่อทำพิธีเปิดตาและแผ่เมตตาก่อนทำพิธีสำคัญเป็นการภายในโดยได้พาพ่อแม่ของเยาวชนทีมหมูป่าทั้ง 13 คนเข้าไปทำพิธีด้วย
กระทั่งเวลา 22.30 น.คืนวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาคนไทยทั้งประเทศและทั่วโลกต่างส่งเสียงเฮลั่นเมื่อได้รับทราบข่าวดีจากเจ้าหน้าที่หน่วยซีลและนักดำน้ำชาวอังกฤษจากในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนว่า "ได้พบเด็กๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คนภายในถ้ำแล้ว ทุกคนปลอดภัย และร่างกายแข็งแรงดี" และเมื่อนับย้อนหลังกลับไปจากคืนวันที่ 29 มิ.ย.ถึงคืนวันที่ 2 ก.ค.ก็จะครบ 2 วันตามที่ครูบาบุญชุ่ม ได้ทำนายไว้พอดี
*เจอหมูป่าอยู่สบายดีที่ "เนินนมสาว"
กระทั่งกลางดึกวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 เวลาประมาณ 22.30 น. คนไทยทั้งประเทศและทั่วโลกโดยเฉพาะพ่อแม่ของเยาวชนทีมหมูป่าทั้ง 13 คนต่างส่งเสียงเฮลั่นเมื่อได้รับทราบข่าวดี ภายหลังนักสำรวจชาวอังกฤษ ดำน้ำไปพบ 13 หมูป่าอยู่บริเวณเนินนมสาว ภายในถ้ำหลวง ขณะที่ทุกคนต่างมีกำลังใจดีเยี่ยม ก่อนที่จะมีการส่งหน่วยซีลและแพทย์เข้าฟื้นฟูร่างกายทั้ง 13 คนพร้อมวางแผนกู้ภัยที่จะนำตัวทั้งหมูป่า 13 คนออกมาจากถ้ำ ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งว่าจะพาทั้งหมดออกมาได้อิย่างไรและทุกคนต้องทำงานแข่งกับเวลา เนื่องจากหากเกิดมีระดับน้ำสูงขึ้นอีกก็จะทำให้การพาหมูป่าทั้ง 13 คนออกมาจากถ้ำได้ยากมากขึ้น ขณะที่จากการวิเคราะห์ของหลายฝ่ายมองว่า มีอยู่ทางเดียวเท่านั้นที่จะพาหมูป่าทั้ง 13 คนออกมาได้คือต้องดำน้ำออกมา แต่ปัญหาที่พบเฉพาะหน้าก็คือหมูป่าทั้ง 13 คนไหว้น้ำไม่เป็น
แต่ความพยายามก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทีมเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่นอกถ้ำหลวง ก็ยังคงระดมกำลังสูบน้ำออกจากถ้ำ และลาดตระเวนหาปล่องโพร่งบนดอยนางนอน อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะเจาะถ้ำหรือโรยตัวลงไปช่วยหมูป่าทั้ง 13 คน ขณะที่หน่วยซัล และแพทย์ที่อยู่บริเวณเนินนมสาวภายในถ้ำหลวงได้มีการฝึกดำน้ำให้กับทีมเยาวชนหมูป่าทั้ง 13 คน เพื่อเตรียมความพร้อมลุยกับอุปสรรคในการออกจากถ้ำให้ได้
แต่แล้วในระหว่างนี้ก็เกิดความสูญเสียที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อ "จ่าเอกสมาน กุนัน" หรือ "จ่าแซม" นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ วัย 38 ปีได้เสียชีวิตจากอาการหมดสติในขณะปฏิบัติหน้าที่เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ระหว่างดำน้ำลำเลียงขวดอากาศจากโถง 3 ไปจุดต่างๆ สร้างความเสียใจให้แก่คนไทยทั้งประเทศเป็นอย่างมาก
*เฮลั่น! หมูป่าล็อดแรก 4 คนโผล่จากถ้ำ
วันที่ 8 กรกฎาคม 2561 การปฏิบัติการพาเยาวชนทีมหมู่ป่าอะคาเดมีแม่สาย ออกจากถ้ำชุดแรกก็เริ่มขึ้นท่ามกลางการลุ้นระทึกเอาใจช่วยของญาติพี่น้อง รวมทั้งชาวไทยและผู้ติดตามข่าวทั่วโลก จนเวลา 17.40 และ 17.50 น.เสียงเฮลั่นก็ดังขึ้นเมื่อทีมช่วยเหลือ (เรสคิวทีม) สามารถนำหมูป่า 2 คนออกมาจากถ้ำได้เป็นผลสำเร็จ ภายหลังออกจากถ้ำทางแพทย์และพยาบาลได้ตรวจสอบอาการเบื้องต้นที่บริเวณจุดคัดกรองและโรงพยาบาลสนาม เมื่อเช็กความเรียบร้อยเสร็จสิ้นจึงเร่งนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์สู่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทันที
ต่อมาเวลา 19.40 และ 19.50 น.ทีมช่วยเหลือก็สามารถนำหมูป่าคนที่ 3 และ 4 ออกมาจากถ้ำหลวงได้เป็นผลสำเร็จ พร้อมนำตัวส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีหน่วยแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดรวมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายล็อตแรกที่ถูกพาออกมาจากถ้ำหลวงทั้งหมด 4 คน ยังเหลืออีก 9 คนที่ยังอยู่ในถ้ำ
เวลา 20.37 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผบ.ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ผบ.ศอร.) ได้แถลงยืนยันว่า ตอนนี้ช่วยทีมหมูป่าอะคาเดมีได้แล้ว 4 คนใช้วิธีให้เด็กใส่หน้ากากดำน้ำเพื่อกันน้ำเข้าก่อนที่เจ้าหน้าที่หน่วยซีลจะประกบและอุ้มเด็กทั้ง 4 คนดำน้ำออกจากถ้ำหลวง โดยใช้วิธีให้เด็กเกาะอยู่ข้างใต้ตัวและกอดน้องไว้ พร้อมใส่เครื่องป้องกันร่างกาย ส่วนการปฏิบัติงานขั้นตอนต่อไปก็ต้องรอวางแผนเตรียมให้พร้อมอีกครั้ง เพราะเหมือนทุกอย่างต้องเริ่มกันใหม่ อีกทั้งออกซิเจนก็ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว ต้องประชุมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาจุดบกพร่องในการแก้ไขต่อไป
*พาหมูป่าล็อดที่สองออกจากถ้ำได้สำเร็จ
วันที่ 9 กรกฎาคม 2561 การปฏิบัติการพาเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายกลับบ้านล็อตสองก็เริ่มขึ้นอีกครั้งในเวลา 11.00 น. จนกระทั่งเวลา 16.22 น.ทีมช่วยเหลือได้พาหมูป่าคนที่ 5 ออกจากถ้ำเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสนามหน้าถ้ำหลวง ก่อนถูกเคลื่อนย้ายขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ระหว่างการลำเลียงเจ้าหน้าที่ต้องใช้ผ้าคลุมเพื่อปกป้องจากแสงแดด
จากนั้นเวลา 18.20 น. ทีมช่วยเหลือได้นำหมูป่าคนที่ 6 ออกจากถ้ำหลวงก่อนพักฟื้นภายในโรงพยาบาลสนามหน้าถ้ำ จากนั้นลำเลียงขึ้นรถพยาบาลและส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลฯ
ถัดมาเวลา 18.30 น.ทีมช่วยเหลือได้นำหมูป่าคนที่ 7 ออกจากถ้ำหลวงก่อนพักฟื้นภายในโรงพยาบาลสนามหน้าถ้ำ จากนั้นลำเลียงขึ้นรถพยาบาลและส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลฯเช่นกัน
เวลา 18.59 น.ทีมช่วยเหลือได้นำหมูป่าคนที่ 8 ออกจากถ้ำหลวง ก่อนพักฟื้นภายในโรงพยาบาลสนามหน้าถ้ำ จากนั้นลำเลียงขึ้นรถพยาบาลและส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลฯ
ถือเป็นการจบปฏิบัติการนำทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวงครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 กรกฎาคมรวม 4 คนจากปฎิบัติการ 2 วันในวันที่ 8-9 กรกฎาคมหน่วยปฏิบัติการนานาชาตินำทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง นำส่งไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทั้งหมด 8 คน เหลือทีมหมูป่าที่ยังอยู่ในถ้ำหลวงบริเวณเนินนมสาวอีก 5 คน
*ชาวโลกเฮลั่นหมูป่าออกมาครบทุกคน
จนกระทั่งวันนี้ (10 ก.ค.) การปฏิบัติการเริ่มขึ้นแต่แต่ช่วงเช้าเวลาประมาณ 10.08 น.ท่ามกลางฟ้าฝนดูแล้วไม่ค่อยจะเป็นใจนัก แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมและมั่นใจ ส่วนบรรยากาศที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งเป็นที่รักษาตัวของนักฟุตบอลทีมหมูป่านั้น เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.เจ้าหน้าที่เริ่มปิดเส้นทางบริเวณหน้าอาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน เพื่อเตรียมเส้นทางสำหรับรองรับรองรับรถพยาบาลที่จะนำตัวน้องน้องๆทีมหมูป่าอีก 5 คนที่จะถูกนำออกมาจากถ้ำหลวง
จนกระทั่งเวลา 16.06 น.ข่าวดีก็เกิดขึ้นเมื่อทีมช่วยเหลือได้พาหมูป่าคนที่ 9 จากที่เหลือทั้งหมด 5 คน ออกจากถ้ำหลวงถึงโรงพยาบาลสนาม ก่อนเดินทางไปโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยเฮลิคอปเตอร์ จากนั้นเวลา 16.33 น.หมูป่าคนที่ 10 ถูกพามาถึงปากถ้ำหลวงก่อนทำการคัดกรอง ส่งตัวไปโรงพยาบาลสนาม
ต่อมาหมู่ป่าคนที่ 11-12 และ 13 ได้ถูกนำตัวออกมาจากถ้ำหลวงในเวลาที่ไล่เลี่ยกันก่อนที่ทั้งหมดจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลประชานุเคราะห์ ท่ามกลางเสียงปรบมือให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่สามารถปฎิบัติภารกิจประสบผลสำเร็จ รวมภารกิจการค้นหาและกู้ภัยทั้งหมด 17 วันเต็มๆ ต่อไปก็เป็นการฟื้นฟูต่อไป
*เปิดชื่อ "13 หมูป่าอะคาเดมี แม่สาย"
สำหรับทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่พร้อมโค้ช 13 ชีวิต ประกอบด้วย
1.ด.ช.ชนินทร์ วิบูลย์รุ่งเรือง (ไตตั้น) อายุ 11 ปี โรงเรียนอนุบาลแม่สาย
2.ด.ช.ภานุมาศ แสงดี (มิกซ์) อายุ 13 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
3.ด.ช.ดวงเพชร พรมเทพ (ดอม) อายุ 13 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
4.ด.ช.ณัฐวุฒิ ทาคำทราย (เติ้ล) อายุ 14 ปี ม.2 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
5.ด.ช.ประจักษ์ สุธรรม (โน๊ต) อายุ 14 ปี ชั้น ม.2 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
6.ด.ช.อดุลย์ สามออน (อดุลย์) อายุ 14 ปี ชั้น ม.2 โรงเรียนบ้านเวียงพาน อ.แม่สาย
7.ด.ช.เอกรัตน์ วงค์สุขจันทร์ (บิว) อายุ 14 ปี โรงเรียนดรุณราษฎร์วิทยา
8 ด.ช.พิพัฒน์ โพธิ (นิค) อายุ 15 ปี โรงเรียนบ้านสันทราย
9.นายพีรพัฒน์ สมเพียงใจ (ไนท์) อายุ 16 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
10.นายพรชัย คำหลวง (ตี๋) อายุ 16 ปี โรงเรียนบ้านป่ายาง
11.ด.ช.สมพงศ์ ใจวงค์ (พงศ์) อายุ 13 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์
12.ด.ช.มงคล บุญเปี่ยม (มงคล) อายุ 13 ปี ชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านป่าเหมือด
13.นายเอกพล จันทะวงษ์ (เอก) อายุ 25 ปี โค้ชทีมฟุตบอล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี