เรื่องจริงที่สุดอึ้ง! ช้างพลาย 'เตะงากระเด็น' คืนแผ่นดิน จนท.อุทยานเขาใหญ่เก็บเป็นสมบัติของชาติ

เรื่องจริงที่สุดอึ้ง! ช้างพลาย 'เตะงากระเด็น' คืนแผ่นดิน จนท.อุทยานเขาใหญ่เก็บเป็นสมบัติของชาติ

วันอังคาร ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561, 13.20 น.

วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กแฟนเพจ "บิ๊กเกรียน" ได้โพสต์ภาพและข้อความ "ช้างพลายเตะงากระเด็นคืนแผ่นดิน เรื่องจริงที่สุดอึ้ง !!?? ต่อหน้าสายตานักท่องเที่ยวและ จนท.อุทยานเขาใหญ่....." ส่วนรายละเอียดระบุว่า "เรื่องมหัศจรรย์ กลางป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา สร้างความฮือฮาให้แก่ผู้พบเห็นครั้งนี้เกิดขึ่นช่วงเวลา 14.00 น.วันที่ 30 ก.ค.61 ระหว่างรถนักท่องเที่ยวผ่านขึ้นลงทางด้านจังหวัดปราจีนบุรี และ อ.ปากช่อง จ.นครราชสี เพื่อเลี่ยงปัญหาการจราจรที่ติดขัดบนถนนมิตรภาพซึ่งเป็นช่วงที่มีมีฝนตกต่อเนื่องบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ปรากฏว่าศูนย์วิทยุเขาใหญ่ แจ้งมีช้างพลายขนาดใหญ่เดินบนถนน กิโลเมตรที่ 26 ขาลงจังหวัดปราจีนบุรี ทำให้รถยนต์ทั้งสองฝั่งเกิดการติดขัดทำให้รถยนต์เริ่มชะลอตัว หยุดนิ่งไม่กล้าขับรถผ่านเนื่องจากเกรงว่าช้างอาจะเข้ามาชน

ต่อมา นายโอภาส ศรีสมบูรณ์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (อาจารย์หน่อง) ผู้เชี่ยวชาญดูลักษณะและอารมณ์ช้างป่า พร้อมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าชุดควบคุมช้างป่า ประกอบด้วยนายสุทธิพร สินค้า, นายสมพร ไชยกาล, นายวิจัย สอนวิชา, นายอนงค์ เวียนนอก และเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยประกอบด้วยนายวีระพล เภกะนันท์, นายธีระวัฒน์ เทียมพันธุ์ และนางสาวเยาวลักษณ์ เกษมจิต เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยลงมาดูแลการจราจรให้กับนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีช้างพลายออกมาหากินใกล้ๆ กับเส้นทางสัญจรจ จนสามารถจัดการปัญหาได้เรียบร้อยโดยพลายเชือกนั้นยอมเดินเข้าป่าไป


 

 

นายโอภาส เปิดเผยว่า ช้างพลายดังกล่าวพลาย "พลายงาทอง" อายุ 38 ปีในระหว่างเดินจากป่าออกถนนนั้นได้ใช้เท้าหน้าขวาเขี่ยท่อน ปลายงา ออกมาจากป่าเป็นท่อนงายาว น้ำหนัก 5 กิโลกรัมโดยประมาณเป็นช่วงปลายงา ความยาวประมาณ 60 ซม.และปลายร่องรอยหักขึ้นเขียวเป็นลักษณะหักมานานแล้ว สีเหลืองสุกเจ้าหน้าที่เห็นพอดีจึงรีบเก็บไว้และนำมามอบให้

เตรียมจัดเก็บ "งากระเด็น" เป็นสมบัติของชาติ

ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวถึงงาดังกล่าวซึ่งผู้ชำนาญเรื่องช้างเรียกว่า “งากระเด็น” เชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ เรื่องเล่าของงากระเด็นมีมานานแล้ว สาเหตุคือ ช้างพลายชนกันแย่งพื้นที่และแย่งช้างพังใช้งาแทงกันข้ามวันข้ามคืนจนงาหัก บางเชือกถึงตาย และงากระเด็นอีกประเภทคือ พลายหนุ่มมีความคะนองใช้งาทิ่มแทงตนไม้และทิ่มทางโป่งดินจนหัก เมื่อคนไปพบเจอจะต้องทำพิธีเซ่นไหว้เจ้าป่าเขา และงาบางชิ้นที่ทิ่มแทงกับต้นไม้ คนไปพบก็ยังไม่สามารถดึงออกจากต้นได้ ต้องให้ผู้มีบุญวาสนา หรือ เด็กอายุ 4-6 ขวบใช้มือจับ ก็นำงากระเด็นออกมาได้ หากใครจะครอบครอง “งากระเด็น” จะถือว่าโชคดีจัดว่า “เทวดา เจ้าป่า เจ้าเขา” เลือกเพื่อให้ทำหน้าที่ดูแลผืนป่าและสัตว์ โดยไม่อันตรายใดๆกับผู้ครอบครอง หลังจากนี้ตนจะนำ “งากระเด็น” ไปเก็บรักษาไว้เพื่อเตรียมทำหนังสือนำส่ง ท่อนปลายงาดังกล่าวซึ่งเป็นสมบัติของชาติเก็บรักษาไว้ที่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืชต่อไป

ภาพจากเพจ บิ๊กเกรียน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top