เรื่องราวแสนรันทด คู่รักพิการใช้ชีวิตด้วยรายได้เพียงวันละ 50 บาทรายนี้ ผู้สื่อข่าวรับการประสานจากนายอนุชิต แสมใหม่ อายุ 31 ปี ผู้จัดการวงดนตรีลีออน ว่าบริเวณปากทางเข้าวัดถ้ำเสือวิปัสสนา หมู่ 11 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองกระบี่ มีคู่รักชายหญิง ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ใช้ชีวิตกันอย่างลำบากยากเข็ญ ไร้ผู้เหลียวแล ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบใกล้กับปากทางเข้าวัดถ้ำเสือ มีซอยถนนลูกรังเข้าไปจากปากทางประมาณ 50 เมตร มีกระท่อมไม้ไผ่ หลังคามุงจาก สภาพทรุดโทรมใกล้พัง มีคู่รักชายหญิง อาศัยอยู่ 2 คน สอบถามทราบชื่อคือนายทนุ เกบุตร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/2 หมู่ 9 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และ น.ส.สุนิสา น้ำเพชร อายุ 26 ปี ชาว อ.บ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้สภาพกระท่อมหลังดังกล่าว พบว่าหลังคามีสภาพชำรุดเสียหาย พื้นภายในกระท่อมมีสภาพไม้ผุใกล้พัง ไม่มีห้องน้ำใช้ มีเพียงคอห่านแต่ไม่มีพื้นจึงไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนสภาพภายในห้องพัก มีเพียงผ้าปูที่นอนแบบผ้านวมปูไว้นอน ไม่มีไฟฟ้า และน้ำใช้ ในแต่ละวันต้องใช้วิธีจุดตะเกียง โดยทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพอดมื้อกินมื้อ เนื่องจากมีงานเพียงรับจ้างล้างจานให้กับร้านขายอาหาร โดยได้ค่าจ้างไว้ประทังชีวิตเพียงวันละ 50 บาท รวมทั้งอาหารสำหรับกินวันละมื้อ
นายทนุ เผยว่า ตนและแฟนสาว มีอาการป่วยเป็นอัมพฤกษ์ มานานแล้ว โดยตนป่วยมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เป็นอัมพฤกษ์ฝั่งซ้าย สาเหตุเพราะเมื่อตอนเด็กๆ เคยถูกทำร้ายจากพ่อเลี้ยงจนบาดเจ็บรุนแรง และเป็นอัมพฤกษ์มาตั้งแต่ตอนนั้น ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ภายในกระท่อมหลังดังกล่าวมานาน 10 ปี เพราะเป็นกระท่อมที่ญาติๆ ทิ้งไว้ให้อยู่อาศัย ที่ผ่านมาพยายามออกหางานทำมาตลอด แต่ถูกปฏิเสธทุกครั้ง เพราะสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวย กระทั่งเมื่อ 9 เดือนที่ผ่านมา รู้จักกับแฟนสาวซึ่งอยู่ จ.สุราษฎร์ธานี ผ่านทางโซเชียลในโทรศัพท์มือถือ จึงได้พูดคุยจนทราบว่าแฟนสาวก็มีอาการป่วยเป็นอัมพฤกษ์เช่นกัน เนื่องจากเคยคลอดลูกแล้วเกิดเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา แต่ได้พูดคุยกันจนถูกอกถูกใจ แฟนสาวจึงตัดสินใจมาอยู่ด้วยกัน และช่วยกันหางานทำเพื่อเลี้ยงชีพ
นายทนุ เล่าต่อว่า ตนและแฟนตระเวนหางานทำกันหลายที่ แต่ถูกปฏิเสธหมด จนมาพบกับเจ้าของร้านขายข้าวแกงซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 1 กม.เศษ เห็นตนทั้งคู่แล้วสงสาร จึงจ้างให้ไปช่วยล้างจาน โดยให้เงินวันละ 50 บาท และให้กับข้างกลับมากินที่บ้านทุกวัน โดยตนและแฟนจะเดินเท้าไปทำงานทุกวัน วันละชั่วโมง จึงพอประทังชีวิตอยู่ได้ไปวันๆ บางวันก็ไม่พอกิน ก็ใช้วิธีกินน้ำแทนเพื่อให้อยู่ท้อง ส่วนเวลาจะเข้าห้องน้ำ หรืออาบน้ำ ต้องเดินเท้าไปมัสยิด ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 1 กม. ที่ผ่านมาไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใครเพราะเกรงใจ กระทั่งมีผู้หวังดีนำเรื่องราวของตนไปโพสต์ในเฟสบุ๊กดังกล่าว
ด้านนายอนุชิต แสมใหม่ อายุ 31 ปี ผจก.วงดนตรีลีออน กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ทาง จ.กระบี่ ได้จัดงานวันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บริเวณลานข้าง สนง.เทศบาลเมืองกระบี่ มีการจัดแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินทางภาคใต้ โดยคืนดังกล่าวมีวงดนตรีทั้งของตน และ “วงพาโล” มาเล่น ตนก็พบกับน้องทั้ง 2 คน มาขอถ่ายภาพกับศิลปิน เนื่องจากน้องทั้ง 2 คนเป็นแฟนคลับวงพาโล พอพุดคุยสอบถามจึงได้ทราบว่า น้องทั้ง 2 คนเดินเท้ามาจากที่พัก ระยะทางประมาณ 6 กม. เพื่อมาชมดนตรี
ตนจึงสอบถามว่าพักที่ไหนอย่างไร รุ่งเช้าจึงเดินทางจะมาเยี่ยมน้องที่บ้าน แต่ก็มาพบสภาพความเป็นอยู่ดังกล่าว จึงรู้สึกสงสารนำเรื่องราวไปโพสต์ในกลุ่มเพื่อนฝูง เพื่อหาทางช่วยเหลือน้องทั้ง 2 คน เบื้องต้นก็ระดมสิ่งของมาได้บางส่วนไว้ให้น้องได้ใช้ประทังชีวิตชั่วคราวไปก่อน รวมทั้งให้เพื่อนที่เป็นช่างไฟ มาต่อไฟฟ้าจากบ้านใกล้เคียงให้ใช้ และซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานมอบให้ใช้ไว้ก่อน หลังจากนี้กำลังหาทางสร้างห้องน้ำให้ใช้ นอกจากนี้ทางวงพาโล ก็เตรียมหาทางช่วยเหลือน้องทั้ง 2 คนด้วย เพราะทราบว่าเป็นแฟนคลับของวง จึงอยากให้ผู้ใจบุญ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเรื่องการใช้ชีวิตในเบื้องต้นก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี