ผลกระทบจากน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ ผลกระทบของสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ต่อภาคส่งออก และผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจตุรกีต่อตลาดการเงินโลกอาจส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสสามของไทยต่ำกว่า 4%
แม้น้ำท่วมในปีนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นบริเวณศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศและเขตนิคมอุตสาหกรรมเช่นปี 2554 แต่ผลกระทบของน้ำท่วมกระจายตัวในวงกว้างทั้งจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือและบางส่วนของภาคใต้ กระทบต่อพื้นที่ภาคเกษตรกรรม ผลผลิตการเกษตรและการท่องเที่ยวทำให้กำลังซื้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ประสบภัยชะลอตัวลงอย่างชัดเจน
“ความเสียหายทางเศรษฐกิจในภาพรวมไม่น่าจะเกิน 0.3% ของจีดีพี (GDP-ผลิตภัณฑ์มวลรวม) แต่ได้สร้างความยากลำบากทางเศรษฐกิจให้กับกลุ่มเกษตรกรและประชาชนในต่างจังหวัดอย่างมาก การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในช่วงที่ผ่านมายังมีลักษณะเติบโตแบบกระจุกตัวโดยพึ่งพาผู้มีรายได้สูงเป็นหลัก การคาดการณ์ว่าช่วงที่เหลือของปีการกระจุกตัวจะค่อยๆ คลี่คลายลงอาจไม่เกิดขึ้น หากไม่มีการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ชนบทอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อาจเพิ่มขึ้นจากการขาดรายได้”
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับคู่ค้าสำคัญโดยเฉพาะจีนจะกระทบต่อมูลค่าการค้าโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก จะส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกไทยมากขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะสินค้าขั้นกลาง ประเทศต่างๆอาจหันมาผลิตสินค้าขั้นกลางเองภายในประเทศมากขึ้น “การลงทุนโดยตรงจากสหรัฐฯ มาไทยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงกว่า 27%” และมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงอีกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ส่วนปัญหาวิกฤตการณ์เศรษฐกิจตุรกีนั้นไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาอันสั้นและน่าจะยืดเยื้อ จะส่งผลต่อความผันผวนปั่นป่วนในตลาดการเงินโลกและตลาดหุ้นไทยไปอีกระยะหนึ่ง และนำไปสู่การเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากเศรษฐกิจ Emerging Markets มากขึ้นได้ และมีความเป็นไปได้สูงที่ตุรกีต้องเข้ารับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
เนื่องจากประเทศต้องเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงมาก หนี้สินต่างประเทศในระดับสูง การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวนมหาศาลและทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับต่ำ ธนาคารสเปนเป็นเจ้าหนี้ต่างชาติของตุรกีที่ใหญ่ที่สุดในสัดส่วน 35% ของหนี้ต่างประเทศทั้งหมด ณ ไตรมาส 1 ปี 2561 หรือราวๆ 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีค่าเท่ากับ 6% ของ GDP ปี 2560 ของสเปน ส่งผลให้หุ้นธนาคารสเปนปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา เพิ่มความเสี่ยงของปัญหาวิกฤติหนี้สินของสเปนรอบใหม่ที่อาจปะทุขึ้นมา
มีหลายประเทศในตลาดเกิดใหม่ Emerging Markets มีความเปราะบางและความเสี่ยงเช่นเดียวกับตุรกี ซึ่งนักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เช่น อาร์เจนตินา เวเนซูเอลา บราซิล อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศเหล่านี้อาจเป็นเป้าหมายของการเก็งกำไรค่าเงินและการเทขายสินทรัพย์ทางการเงินของนักลงทุนต่างชาติ และอาจทำให้ธนาคารกลางประเทศเหล่านั้นปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดการไหลออกของเงินทุนระยะสั้น
“ผลกระทบวิกฤตการณ์เศรษฐกิจตุรกี มีผลกระทบต่อไทยค่อนข้างจำกัด” เนื่องจากไทยมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจโดยตรงกับประเทศตุรกีไม่มากนัก ประเทศอาเซียนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงมากกว่าประเทศอื่น คือ เวียดนาม เนื่องจากเวียดนามมีสัดส่วนส่งออกไปตุรกีคิดเป็น 1.2% ของจีดีพี ส่วนผลกระทบนโยบายกีดกันทางการค้าสหรัฐฯ ต่อไทยจากมาตรการ Safeguard Tariff นั้นส่งผลต่อสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ
แต่การส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่นๆ ยังขยายตัวดีและสามารถชดเชยตลาดนำเข้าในสหรัฐฯได้ นอกจากนี้ไทยยังได้รับการต่ออายุสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือ GSP ในปี 2561-2563 มูลค่าการส่งออกของไทย ณ ขณะนี้จึงยังเป็นไปตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม “ผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ จะส่งผลต่อภาคส่งออกอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้” ในระยะต่อไป
ส่วนเรื่องผลกระทบน้ำท่วมนั้น “แม้ประเทศไทยจะมีการจัดตั้งหน่วยงานอย่างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ” ซึ่งสามารถสั่งการนโยบายและการบริหารจัดการน้ำอย่างเบ็ดเสร็จครบวงจร ด้วยกลไกดังกล่าวน่าจะทำให้การบริหารจัดการน้ำดีขึ้น อย่างไรก็ตาม “หน่วยงานของไทยยังคงไม่มีแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบในเชิงรุก” ยังคงทำงานแบบตั้งรับและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสียหายที่น่าจะป้องกันได้
นอกจากนี้ “ยังไม่มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในการบริหารจัดการน้ำ” หลังจากแผนการลงทุนการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านของรัฐบาลก่อนหน้านี้ถูกยกเลิกไป!!!
ผศ. ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ
คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี