ปัญหาอาชญากรรม อบายมุข ยาเสพติด ที่เกิดขึ้นใน ครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล อันเป็นสังคมปฐมภูมิเล็กๆ สะท้อนให้เห็นการขาดภูมิคุ้มกันที่ดี ในอดีตสังคมเล็กๆเหล่านี้ บอกเล่าถึงความเป็นไปของชาวบ้านที่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ร่วมกันด้วยความเกื้อกูล เอื้ออาทร ผูกพันใกล้ชิด เสมือนพี่น้องครอบครัวเดียวกัน
จวบกระทั้ง ถูกมหันตภัยร้ายหลากหลายรูปแบบเบาะแซะ ด้วยการเอารัดเอาเปรียบ เห็นแก่ได้ แย่งชิงผลประโยชน์ ทำลาย เข่นฆ่า สร้างรอยด่างให้เกิดขึ้น สังคมที่เคยดำรงอยู่อย่างมีความสุข กลับกลายเป็นทุกข์ ทุกข์ที่เกิดจากภัยที่คนในสังคม ร่วมกันก่อขึ้นมาเอง การแก้ปัญหาในเบื้องต้น จึงต้องาศัยสมาชิกในสังคม หมู่บ้าน ตำบล เป็นผู้ดูแลช่วยกันแก้ปัญหา ด้วยเหตุผลง่ายคือสมาชิกในสังคม หมู่บ้าน ตำล ย่อมรับรู้ถึงความเป็นไปภายในพื้นที่กันเป็นอย่างดี
ดังนั้นการที่จะทำให้สังคม หมู่บ้านตำบล เกิดความสงบสุข อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข สมาชิกในหมู่บ้าน ตำบล ซึ่งเปรียบเสมือนกำแพง สามารถเป็นเกราะป้องกันมหันตภัยดังกล่าวได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ
และนี่จึงเป็นที่มาของการคลอด “ตำรวจบ้าน” บนความร่วมมือระหว่าง “ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง” กับ “องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง” ด้วยการจัดตั้ง “ตำรวจบ้าน” ให้กับประชาชนทั้งชายและหญิง ตามโครงการฝึกอบรม(ทบทวน)อาสาสมัครตำรวจบ้าน จ.ตรัง ประจำปี 2557 จำนวน 12 รุ่น จาก 10 อำเภอ 739 หมู่บ้าน รวมจำนวน 2,217 คน โดยทางตำรวจภูธรจังหวัดตรังจุดประกายไอเดียร ประสานงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ทำให้โครงการดังกล่าวเดินหน้าและประสบผลสำเร็จอย่างน่าพอใจ
การจัดทำโครงการฝึกอบรม(ทบทวน)อาสาสมัครตำรวจบ้าน จ.ตรัง หรือที่รู้จักกันในนาม“ตำรวจบ้าน” เนื่องจากทางตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เล็งเห็นและให้ความสำคัญประชาชนจะเป็นหูเป็นตา ช่วยกันรักษาดูแลความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้านได้ ลำพังเจ้าหน้าที่ตำรวจมีกำลังไม่เพียงพอที่จะปฎิบัติหน้าที่ให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองดูแลอย่างทั่วถึง หรือแม้กระทั้งการป้องกันเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านได้ทุกเวลา ต้องอาศัยประชาชน เป็นหูเป็นตา ช่วยส่อดส่องเป็นตาสับปะรดแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายกิจ หลีกภัย นายกองค์การริหารสวนจังหวัดตรัง บอกเล่าให้ฟังถึงการจัดทำโครงการตำรวจบ้านให้ฟัง อย่างน่าสนใจว่า องค์การบริหารส่วนจ.ตรัง เล็งเห็นว่าฝึกอบรม(ทบทวน)อาสาสมัครตำรวจบ้านที่ประชาชน สังคมได้รับประโยชน์โดยตรง จึงสนับสนุนงบประมาณให้ตำรวจภูธรจังหวัดตรังดำเนินโครงการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น กลุ่มเป้าหมายอาสาสมัครตำรวจบ้านทั้ง 10 อำเภอ จะได้เข้ารับการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ และได้รับการรักษาความสงบเรียบร้อย และป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด และแนวทางในการป้องกัน รวมถึงกฎหมายสำหรับประชาชนในฐานะผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน
“ภาคปฏิบัติเป็นการฝึกยุทธวิธีแบบตำรวจ ได้แก่ ท่าบุคคลมือเปล่า การควบคุมฝูงชน การต่อสู้ป้องกันตัว การตั้งจุดตรวจและสกัด เป็นต้น เนื่องจากอาสาสมัครตำรวจบ้านถือเป็นแนวร่วมและกำลังสนับสนุนของเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ทุกคนมีจิตอาสา ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของตำรวจอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความมีวินัย มีระเบียบแก่ชุมชน อาสาสมัครตำรวจบ้านจึงถือเป็นแนวร่วมและกำลังสนับสนุนของเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อยของ สำหรับโครงการฝึกอบรม(ทบทวน)อาสาสมัครตำรวจบ้าน จ.ตรัง ประจำปี 2557 มีทั้งหมด 12 รุ่น จาก 739 หมู่บ้าน รวมจำนวน 2,217 คน” นายกิจ กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรังกล่าวว่า ปัญหาอาชญากรรมทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการมากก็คือ ความร่วมมือของประชาชนในการช่วยกันแจ้งเบาะแสข่าวสาร คนที่รู้ดีที่สุดก็คือประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านตำบล ทางตำรวจภูธรจังหวัดตรัง จึงจัดให้มีโครงการตำรวจชุมชน หรือตำรวจบ้านขึ้น ด้วยการฝึกสอนให้ตำรวจบ้านมีความรู้ในการป้องกันตนเอง ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน ร่างกาย ชีวิตและทรัพย์สิน หากป้องกันตนเองไม่ได้ก็สามารถประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆตำรวจบ้าน ที่เข้ามารับใช้สังคมถือว่าเป็นผู้เสียสละ ไม่มีเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง หรือค่าตอบอื่นใด
“ตามหลักสากลถือว่า ตำรวจคนแรกก็คือประชาชน หรือประชาชนคือตำรวจคนแรก เนื่องจากประชาชนอยู่ในหมู่บ้านตำบลอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงรู้เหตุการณ์มากกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีกาสที่จะไปยืนในหมู่บ้านตำบลได้ครบทุกครัวเรือน แต่ประชาชนอยู่ดังนั้นหากประชาชนได้มีโอกาสร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะตำรวจชุมชนแล้ว ในการดูแลความปลอดภัยในร่างกายชีวิตและทรัพย์สิน ในหมู่บ้านตำบล ก็จะทำให้หมู่บ้านตำบลอยู่ร่วกันด้วยความสุขปราศจากอาชญกรรม ยาเสพติด สิ่งเหล่านี้จะทำให้สังคมมีความผาสุขเจริญก้าวหน้า
พล.ต.ต.จีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า เหตุอะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้น ตำรวจบ้านจะเป็นบุคคลในการที่จะช่วยสะท้อนภาพ สะท้อนปัญหา และร่วมช่วยแก้ปัญหาให้กับภาครัฐ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่ปกครองบ้านเมือง เมื่อตำรวจบ้านสามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ก็ให้ช่วยเหลือสังคม เช่นร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจจุดสะกัด ตรวจตราบุคคลแปลกหน้าที่จะเข้ามาในหมู่บ้านตำบลเพื่อกระทำความผิด ตำรวจบ้านก็จะได้เป็นผู้ช่วยตำรวจหลักซึ่งมีจำนวนน้อยอยู่แล้ว จากนั้นให้ช่วยเหลือทางราชการในรูปแบบการการให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลข่าวสาร แจ้งเบาะแสต่างๆของการกระทำความผิดที่จะเกิดขึ้นในหมู่บ้านตำบล
ความคาดหวังว่า หากประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ ปล่อยประละเลยอ้างว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ทราบเหตุแล้วแต่ไม่บอก จะทำให้ทางตำรวจไม่สามาถจับกุมคนร้ายมาลงโทษได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นประชาชนจะต้องช่วยกันดูแล ผลที่ได้ไม่ใช่ได้กับทางตำรวจ แต่ได้กับประชาชน หมู่บ้าน ตำบล ในพื้นที่ที่มีตำรวจชุมชนนั้นๆ ได้ทั้งความปลอดภัย ความสุข และสังคมมีความสงบสุข
จิรศักดิ์ จาตุพรพิพัฒน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี