ช่วงนี้เหนือคากระทรวงเกษตรฯคงมีแต่ฝุ่นควันลอยฟุ้งตลบอบอวนกันยกใหญ่ เพราะแว่วๆ มาว่า รัฐมนตรี “ปีติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา” เตรียมนำรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งถ้าไม่เป็นวันอังคารที่ 23 กันยายนนี้ ก็คงเป็นวันที่ 30 กันยายน แต่ตามกระแสข่าวเห็นว่าน่าจะเป็น 23 กันยายนนี้เลยมากกว่า ซึ่งคงต้องจับตาดูกันให้ดี
ความจริงในช่วงระหว่าง 4 เดือนนับตั้งแต่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของหลายหน่วยงานชนิดที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “ล้างบาง” คนของขั้วอำนาจเก่าในรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จนเกือบเหี้ยนเตียน
หลายคนก็พากันจับตามองว่า เมื่อไรจะถึงคิวของกระทรวงเกษตรฯบ้าง เพราะที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่ค่อยได้เห็น “ระบอบทักษิณ” เข้ามายุ่มย่ามในกระทรวงนี้มากนัก แต่ก็ใช่ว่าที่นี่จะเป็นเขตปลอดการเมืองเสียเมื่อไร
ดีไม่ดีอาการอาจจะหนักกว่าหน่วยงานอื่นๆ ด้วยซ้ำ
เนื่องจากถูกกลุ่ม “หลงจู๊” ที่ทำตัวลื่นเป็นปลาไหลเนียนเข้าไปอยู่กับรัฐบาลได้ทุกขั้วทุกพรรค เข้ามายึดกุมอำนาจการบริหารกระทรวงเกษตรฯได้อย่างต่อเนื่อง จนชนิดที่เรียกได้ว่า “ผูกขาด” เก้าอี้เอาไว้เลยทีเดียว
โดยตลอดระยะเวลาเป็นสิบปีที่กระทรวงแห่งนี้อยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่ม “หลงจู๊” ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงการเข้าไปแทรกแซงของกลุ่มฝูงเหลือบไรนักการเมือง นับตั้งแต่เข้าไปแทรกแซงการจัดสรรงบประมาณ การโยกโครงการ และการแต่งตั้งโยกย้ายเอาคนของตัวเองขึ้นมาเป็นใหญ่เป็นโต เพื่อเป็นเครื่องมือสูบเลือดสูบเนื้องบประมาณที่ควรไปถึงเกษตรกรให้มาอยู่ในกระเป๋าของตัวเองแทน
หนักข้อเข้าถึงขนาดล้วงไปถึงการโยกย้ายในระดับซี 7 ซี 8 เพื่อวางคนของตัวเองเอาไว้รอขึ้นมารับช่วงอำนาจต่อเป็นทอดๆ กระทรวงเกษตรฯที่ผ่านมา จึงมักถูกติฉินว่า เต็มไปด้วยพวกประจบสอพลพร้อมรับสนองคำสั่งทุกอย่าง หรือไม่ก็พวกมีสปอนเซอร์ยอมจ่ายเพื่อแลกเก้าอี้ ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการสร้าง “ระบบขี้ข้า” ของระบอบทักษิณ
ขณะที่ข้าราชการดีๆ คนทำงานเก่งๆ ถูกเขี่ย ถูกขับให้พ้นทางไปจนเกือบหมดสิ้น โอกาสที่จะได้เติบโตหรือเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ บอกได้คำเดียวว่า “ไม่มี” หรือถ้ามีก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะหากไม่ยอมทำตัวโอนอ่อนลู่ตามลมก็ไม่แคล้วโดนเด้ง เนื่องจากต้องไป “ขวางทางปืน” บรรดาขาใหญ่เข้าสักวัน
สุดท้ายผลงานจึงออกมาเละเทะอย่างที่เห็นทุกวันนี้ เพราะวางตัวผู้บริหารกันแบบ “ผิดฝาผิดตัว” หาอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ มีแต่ผลงานลูบหน้าปะจมูกสร้างข่าวสร้างภาพไปวันๆ ขณะที่เนื้อในกลวงโบ๋หาอะไรไม่ได้ กระทรวงเกษตรฯเวลานี้จึงไม่ต่างอะไรไปจาก “คนป่วย” อาการหนัก และในสายตาประชาชนอย่างพวกผมคงมองคุณปีติพงษ์ไม่ต่างไปจากหมอที่เข้ามาทำการรักษา
โยกย้ายรอบนี้จึงต้องช่วยกันลุ้นมากเป็นพิเศษว่า คนดี คนมีฝีมือ จะได้รับการอุ้มชูให้กลับมาได้มากสักขนาดไหน อยากจะปฏิรูปทั้งทีก็ต้องเอากันให้สุดๆ ครับ จะล้างบาง จะผ่าตัด จะปรับ จะรื้อ อะไรก็ต้องทำ
เพราะทำแล้วไม่สุด ก็อย่าหวังจะเรียกศรัทธาจากประชาชนได้
โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องระวังให้ดี คือ “คนรอบข้าง” ที่เดินล้อมหน้าล้อมหลังรัฐมนตรีอยู่เวลานี้ ก็อย่าปล่อยให้กลายเป็นพิษเสียเองก็แล้วกัน
มะลิลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี