ศาลชี้‘ไอ้เกม’โหดเหี้ยม
สั่งประหาร!
คดีข่มขืนฆ่าน้องแก้มบนรถไฟ
‘ไอ้หนุ่ม’ดูต้นทางโดนจำคุก4ปี
ภาค8โอ่ใกล้จับมือสังหาร2ฝรั่ง
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 30 กันยายน ศาลจังหวัดหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1407/2557 ให้ประหารชีวิตนายวันชัย หรือเกม แสงขาว อายุ 22 ปี จำเลยที่1 ในคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 12 ปี บนขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพ แล้วโยนศพทิ้งจากหน้าต่างโบกี้รถไฟในพื้นที่ อ.ปราณบุรี ส่วน นายณัฐกรณ์ หรือหนึ่ง ชำนาญ จำเลยที่2 คู่หูของจำเลยที่1คอยดูต้นทางถูกจำคุก 4 ปี
คดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดหัวหินเป็นโจทก์ นางลักขณา ทองพัฒน์ โจทก์ร่วมฟ้องต่อศาลว่าเมื่อระหว่างวันที่ 5 กรกฎาคม เวลากลางวัน ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงต่อเนื่องกัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด นายวันชัย หรือเกม แสงขาว จำเลยที่ 1 เสพเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 กระทำชำเราเด็กหญิงกชกร หรือน้องแก้ม พิทักษ์จำนง อายุยังไม่เกินสิบห้าปี ต่อจากนั้นจำเลยที่ 1 ฆ่าเด็กหญิงกชกรเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในยวดยานสาธารณะ
ส่วนนายนายณัฐกรณ์ หรือหนึ่ง ชำนาญ จำเลยที่ 2 สนับสนุนให้จำเลยที่ 1 กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ขอให้ลงโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพชั้นพนักงานสอบสวนแต่ปฎิเสธชั้นศาล
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า แม้โจทก์และโจทก์ร่วมไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 แต่มีพยานบุคคล และวัตถุพยานที่ตรวจพบหลังเกิดเหตุประกอบกันเป็นพยานพฤติเหตุแวดล้อมที่หนักแน่น มั่นคง นับตั้งแต่การตรวจยึดแท็ปเลตและโทรศัพท์ที่ถูกลักไปขณะอยู่ในความครอบครองของผู้ตายจากนายภานุพงศ์ ต้นโพธิ์โต และนายนิรุตติ์ พุ่มเจริญ
โดยนายภานุพงศ์ให้การในชั้นสอบสวนยืนยันว่าจำเลยที่ 1 นำแท็ปเลตมาฝากขาย และนายนิรุตติ์เบิกความยืนยันว่า จำเลยที่ 1 นำโทรศัพท์เคลื่อนที่มาขาย ทั้งยังตรวจพบลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยที่ 1 ที่ด้านในกระจกหน้าต่างบริเวณที่นั่งของผู้ตาย ตรวจพบสารพันธุกรรมของจำเลยที่ 1 ที่กางเกงขาสั้นของผู้ตาย และสารพันธุกรรมของผู้ตายที่กางเกงชั้นในและเสื้อคลุมของจำเลยที่ 1 กับตรวจพบร่องรอยการกระทำชำเราที่อวัยวะเพศและทวารหนักของผู้ตาย ข้อเท็จจริงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัย การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดตามฟ้อง
ศาลชี้ว่า จำเลยที่ 1 ถือโอกาสที่ตนเองมีหน้าที่ช่วยเหลือดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร อาศัยโอกาสขณะปฏิบัติงานบนขบวนรถไฟข่มขืนกระทำชำเราและฆ่าผู้ตายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปีที่นอนหลับอยู่ ขณะที่มีผู้โดยสารอื่นๆและญาติผู้ตายนอนหลับอยู่ใกล้ๆ จากนั้นโยนศพผู้ตายออกจากหน้าต่างขบวนรถเพื่อปกปิดการตาย ลักษณะของการกระทำความผิดจึงเป็นไปโดยอุกอาจไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรง สมควรลงโทษในสถานหนัก
ในส่วนนายณัฐกรณ์ หรือหนึ่ง ชำนาญ จำเลยที่ 2 ได้ความตามทางนำสืบของโจทก์และโจทก์ร่วมว่า ระหว่างรถไฟแล่นจากสถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์จนถึงสถานีวังก์พง มีข้อบ่งชี้ว่าจำเลยที่ 2 อยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์มากที่สุด ประกอบกับชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ โดยมีรายละเอียดต่างๆ ยากที่ผู้ใดจะรู้รายละเอียดดังกล่าวนอกจากตัวจำเลยที่ 2 และยากที่พนักงานสอบสวนจะแต่งขึ้นเองได้ พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมจึงมีน้ำหนักให้รับฟังว่า การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดตามฟ้อง
พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199 ,277 ,277วรรคหนึ่ง, , 225(1)(9) วรรคสอง , 289(7 ) พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 57 , 91 จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 86 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ให้ประหารชีวิต ฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี จำคุก 9 ปี ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในยวดยานสาธารณะ จำคุก 5 ปี ฐานซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย จำคุก 1 ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุก 6 เดือน จำเลยที่ 1 รับสารภาพโดยจำนนต่อหลักฐาน ไม่ได้สารภาพเพราะสำนึกผิดจึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ จึงไม่ลดโทษให้แก่จำเลยที่ 1 รวมโทษทุกกระทง คงให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1 สถานเดียว จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 ปี
สำหรับจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยที่ 2 หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 4 ปี
หลังศาลตัดสินประหารชีวิตจำเลยทั้งสองคน มีสีหน้าเรียบเฉย ต่างกับก่อนขึ้นศาลที่มีสีหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวไอ้เกมส่งกลับไปยังเรือนจำ
ด้านนายพัฒนชัย ธานินทร์พงศ์ พี่ชายซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับน้องแก้ม กล่าวว่า พอใจในคำตัดสินของศาล แม้จำเลยที่ 2 จะตัดสินจำคุกแค่ 4 ปี ดูว่าน้อยไปสำหรับพฤติกรรมที่ก่อไว้ หลังจากนี้ และในวันที่19ตุลาคม 57 ทางครอบครัวจะทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพครบ 100วันการเสียชีวิตของน้องแก้มที่วัดทินกร อ.เมือง จ.นนทบุรี อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าดาราาสาวชื่อดัง ‘บุ๋ม’ ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ที่เคลื่อนไหวให้ลงโทษประหารในคดีข่มขืน เดินทางมาร่วมรอฟังการพิพากษาด้วย และให้สัมภาษณ์ว่าคดีข่มขืนอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของบทลงโทษให้สูงสุด คือ ประหารชีวิต คนร้ายจะได้มีความเกรงกลัวต่อกฎหมาย
ด้านความคืบหน้าคดีสังหาร นายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ อายุ และ น.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่บริเวณหาดทรายรี หมู่ 1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจากส่วนกลางได้ถอนกำลังออกจากเกาะเต่า ยังคงมีฝ่ายสืบสวนสอบสวนอยู่ในพื้นที่
พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 กล่าวว่า ในการติดตามจับกุมคนร้ายก็ได้จำกัดวงแคบลงเรื่อยๆ มีการแยกผู้ต้องสงสัยออกเป็นกลุ่มๆ ขณะนี้มีคนจำนวนมากที่เข้ามาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทำให้เจ้าหน้าที่มีเบาะแสของคนร้ายมากขึ้น โดยในส่วนของหลักฐานต่างๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีนั้นไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่ยืนยันได้ว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการที่จะเอาผิดคนร้ายที่ก่อคดีนี้ได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ จากการสอบสวนเชื่อว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน
ช่วงบ่ายของวันดียวกัน นายอรรถภรณ์ อ้นอาจ ทนายความส่วนตัวของนายวรท ตู้วิเชียร ลูกชายของนายวรพันธุ์ ตู้วิเชียร หรือ ผู้ใหญ่วอ เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พร้อมหลักฐานเพื่อมายืนยันความบริสุทธิ์ของนายวรทว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว เนื่องจากช่วงเกิดเหตุคือวันที่ 14-15 กันยายน นายวรทอาศัยอยู่บริเวณหอพักย่านรังสิตและได้เข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยมีเอกสารยืนยันคือ ภาพนิ่งจากกล้องวงจรปิดที่หอพัก และเอกสารยืนยันการเข้าเรียนและเข้าสอบในวันที่ 15 กันยายน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี