รางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ เป็นรางวัลที่สำนักงานการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้จัดขึ้นตั้งแต่ปี 2546 เพื่อส่งเสริมแลสนับสนุนให้หน่วยงานของภาครัฐพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชน ซึ่งในปี 2557 นี้ รางวัลบริการภาครัฐแห่งชาติ ระดับดีเด่น ประเภทรางวัลนวัตกรรมการบริการที่เป็นเลิศ ซึ่งพิจารณาจากผลการดำเนินการที่แสดงถึงการสร้างสรรค์งานบริการ หรือคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ในการให้บริการประชาชน มีการนำผลงานไปใช้แล้วจริง และได้รับการยอมรับจากสาธารณะ ได้แก่ ผลงานวิจัยเรื่อง “เครื่องจักรกลในไร่อ้อย แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุพรรณบุรี กรมวิชาการเกษตร
นายอรรถสิทธิ์ บุญธรรม นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุพรรณบุรี ผู้สร้างสรรค์ผลงานวิจัยเรื่องดังกล่าว เปิดเผยว่า แม้ประเทศไทยจะเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลอันดับที่ 2 ของโลก รองจากประเทศบราซิล ทำรายได้เข้าประเทศปีละมากกว่า 100,000 ล้านบาท แต่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยก็ยังประสบปัญหาในเรื่องต้นทุนการผลิตสูง โดยเฉพาะการขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวอ้อยและค่าจ้างแรงงานสูง ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่หันมาใช้วิธีการเผาใบอ้อยก่อนการเก็บเกี่ยวอ้อย เพื่อลดปัญหาด้านแรงงานและสามารถตัดอ้อยได้เร็วทันฤดูเปิดหีบของโรงงานน้ำตาล ซึ่งการเผาใบอ้อยเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลผลิตและคุณภาพของอ้อยต่ำลง อ้อยไม่ทนแล้ง การไว้ตอของอ้อยไม่ดี ทำลายแมลงที่มีประโยชน์ที่ช่วยควบคุมและกำจัดแมลงศัตรูอ้อย ทำให้เกิดปัญหาการระบาดของแมลงศัตรูอ้อยมากขึ้นเกิดวัชพืชขึ้นง่ายและโตเร็ว ความอุดมสมบูรณ์ของดินลดลง รวมทั้งยังเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมเนื่องจากการเผาใบอ้อยทำให้เกิดเขม่าควันและขี้เถ้าลอยไปไกล เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม และทำให้ภาวะโลกร้อนยิ่งรุนแรงขึ้น
แม้เกษตรกรจะรู้ว่าการเผาใบอ้อยมีผลเสียดังกล่าว แต่การเผาใบเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับการกำจัดใบและเศษซากอ้อย ซึ่งเครื่องจักรกลการเกษตรที่เกษตรกรมีใช้กันทั่วไปไม่สามารถไถสับกลบใบและเศษซากอ้อยลงดินได้ รวมทั้งภาคเอกชนที่ผลิตจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตรไม่ได้ให้ความสำคัญในการประดิษฐ์และผลิตเครื่องจักรกลลการเกษตรที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะมีตลาดที่แคบและไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน
นายอรรถสิทธิ์กล่าวต่อว่า งานวิจัยเดิมส่วนใหญ่เป็นการศึกษาวิจัยผลเสียและผลกระทบของการเผาใบอ้อย แต่ยังไม่มีการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว และไม่มีการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องจักรกลการเกษตรที่ใช้ในการจัดการใบอ้อยทดแทนการเผาใบ รวมทั้งที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศทำการวิจัยและประดิษฐ์คิดค้นเครื่องจักรกลที่ใช้แก้ปัญหามาก่อน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุพรรณบุรี ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงได้ประดิษฐ์คิดค้นสร้างเครื่องจักรกลสับใบและกลบเศษซากอ้อย แก้ไขปัญหาการเผาใบอ้อยก่อนการเตรียมดิน สร้างเครื่องสับใบระหว่างแถวอ้อยตอ เพื่อแก้ปัญหาการเผาใบอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวอ้อยสด และสร้างเครื่องสางใบอ้อยและรถตัดอ้อยสดเพื่อแก้ปัญหาการเผาใบอ้อยก่อนการเก็บเกี่ยว โดยยึดหลักต้นทุนไม่สูง กลไกไม่ซับซ้อน เกษตรกรสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ช่วยให้ชาวไร่อ้อยมีเครื่องจักรกลที่ใช้แก้ปัญหาการเผาใบอ้อย ลดต้นทุนการผลิตอ้อย ช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินและสิ่งแวดล้อม โรงงานน้ำตาลได้อ้อยสดมีคุณภาพเข้าโรงงาน
เมื่อได้เทคโนโลยีที่ใช้แก้ปัญหาได้แล้ว ได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เอกชนผลิตเครื่องมือที่ใช้แก้ปัญหาการเผาใบอ้อยเพื่อผลิตจำหน่ายให้แก่เกษตรกรและโรงงานน้ำตาลต่างๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากเกษตรกรและโรงงานน้ำตาลเป็นอย่างมาก สามารถผลิตและจำหน่ายได้มากกว่า 1,000 ชุด รวมทั้งมีการส่งจำหน่ายออกไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย เนื่องจากเครื่องจักรกลในไร่อ้อย เป็นเครื่องจักรกลที่เหมาะสำหรับใช้กับรถแทรกเตอร์ที่ใช้กันโดยทั่วไปในประเทศไทยและอาเซียน ประกอบกับกลไกที่ไม่ซับซ้อน เกษตรกรสามารถซ่อมบำรุงด้วยได้เอง และราคาไม่แพง
นอกจากรางวัลนวัตกรรมการบริการที่เป็นเลิศแล้ว เครื่องจักรกลในไร่อ้อยยังได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้นจากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และ รางวัลผลงานสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเร็วๆ นี้ คณะนักวิจัยเตรียมที่จะส่งผลงานเสนอขอรับรางวัล United Nations Public Service Awards ซึ่งเป็นรางวัลที่องค์การสหประชาชาติมอบให้แก่หน่วยงานรัฐของประเทศสมาชิกที่มีการให้บริการสาธารณะได้อย่างยอดเยี่ยม เพื่อให้ผลงานได้ปรากฏเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี