งดส่งน้ำทั้งลุ่มเจ้าพระยา22จว. วอนหยุดทำนาปรังลดความเสี่ยง
วันอังคาร ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 15.39 น.
Tag :
21 ต.ค. 57 นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า ล่าสุด ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน แจ้งถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 5,833 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 2,033 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 5,760 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 61 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 2,910 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 749 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 706 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 804 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 84 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 801 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้ง 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 6,450 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ในส่วนที่เคยประกาศงดส่งน้ำ การงดส่งน้ำเพื่อเพาะปลูกข้าวนาปรังในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในช่วงฤดูแล้งปี 2557/2558 นั้น กรมชลประทานที่ผ่านมาย้ำว่า ยังคงประกาศงดส่งน้ำทำนาปรังทั้งลุ่มน้ำเจ้าพระยา เช่นเดิม ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ 22 จังหวัด คือ ตาก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา นครนายก สมุทรปราการ และสมุทรสาคร โดยไม่มีพื้นที่ใดได้รับการยกเว้นที่จะส่งน้ำให้ จึงขอรณรงค์ให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ร่วมมือกันงดทำนาปรัง เพื่อลดความเสี่ยงต่อผลผลิตที่อาจจะได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ พร้อมทั้ง ติดตามสถานการณ์น้ำและปฏิบัติตามคำแนะนำของโครงการชลประทานในพื้นที่ของตนเองอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย