รวบ2ผู้ต้องหาขายสินค้าปลอม ยึดของกลางอื้อมูลค่ากว่าครึ่งล้าน
วันอังคาร ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 13.31 น.
Tag :
28 ต.ค. 57 เมื่อเวลา 11.00น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รรท.รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รรท.รอง ผบช.น. พร้อมด้วยนางกุลณี อัศดิศัย รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมแถลงจับกุม นายอับดุล ราทีฟ (ABDUL LATHEEF) อายุ 55 ปี สัญชาติ อินเดีย หนังสือเดินทางประเทศอินเดีย เลขที่ F 1674948 พร้อมของกลางคือ นาฬิกาปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อต่างๆ จำนวน 207 เรือน, กระเป๋าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อต่างๆ จำนวน 50 ใบ, กระดุมปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อต่างๆ จำนวน 34 เม็ด โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ อาคารพาณิชย์เลขที่ 8/12 ซ.สุขุมวิท 3/1 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ และได้ตั้งข้อหาว่า จำหน่าย เสนอจำหน่าย มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร และ เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต
อีกรายคือ น.ส.พัชณิกานต์ วิชม อายุ 24 ปี เป็นชาว จ.อุดรธานี พร้อมของกลางคือนาฬิกาปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อต่างๆ จำนวน 258 เรือน, กระเป๋าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อต่างๆ จำนวน 135 ใบ, ผ้าพันคอปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อต่างๆ จำนวน 59 ผืนสามารถจับกุมตัวได้ที่ อาคารพาณิชย์เลขที่ 6/21 ซ.สุขุมวิท 3/1 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯโดยตั้งข้อกล่าวหาว่า จำหน่าย เสนอจำหน่าย มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า สน.ลุมพินี ซึ่งดูแลพื้นที่ย่านนานา ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ จึงได้ประสานกับตำรวจชุดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา บช.น.
โดยได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า มีผู้ค้าได้นำสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้ามาซุกซ่อนไว้เพื่อลักลอบจำหน่ายให้กับลูกค้าวึ่งป็นชาวต่างชาติ จึงได้วางแผนจับกุม โดยเมื่อ27ต.ค.57ตำรวจจึงขอให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ออกหมายค้น เพื่อเข้าตรวจค้นอาคารร้านค้าย่านนานาโดยเวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นตามหมายค้นดังกล่าวข้างต้น จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนดังกล่าวได้พร้อมด้วยของกลาง
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่ผู้ค้าได้นำมาซุกซ่อนไว้ตามห้องเก็บของและร้านค้าบริเวณดังกล่าวได้อีก คือนาฬิกาและกระเป่าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ รวมของกลางที่ได้ทั้งหมด จำนวน 1,098 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 648,700 บาท จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่สามารถจับกุมได้จะได้รับโทษ จำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534