ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์วอนสื่อ
ขออยู่อย่างสงบ
มุ่งปฏิบัติธรรมอยู่ในบ้าน
ฝากขัง‘พงศ์พัฒน์’ผลัด3
จ่อย้ายอีกลอตตร.พันส่วย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากบริเวณหน้าบ้าน พล.ต.หญิง ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์
สุวะดี หมู่ 6 ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ว่า นายสมศักดิ์ แซ่โล้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวัดเพลง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มาคอยดูแลอำนวยความสะดวกและการจราจรบริเวณริมถนนสายวัดเพลง เนื่องจากมีการเตรียมก่อสร้างป้อมตำรวจแห่งใหม่ทดแทนที่เดิม ซึ่งเคยอยู่หน้าบ้านดังกล่าว ประมาณ 30 เมตร เนื่องจากท่านผู้หญิงมีความประสงค์ให้นำออก เนื่องจากกลับสู่สามัญชนเป็นประชาชนทั่วไปแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ จากนี้นจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่นายตำรวจ 1 นาย และชั้นประทวน 2 นาย มาอยู่เวรรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่
ตรวจเช็ครายชื่อสื่อละเอียดยิบ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ได้เฝ้าติดตามและดูแลพื้นที่บริเวณโดยรอบของบ้านท่านผู้หญิง อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจเช็คชื่อผู้สื่อข่าวทุกสำนักพร้อมถ่ายภาพลงบันทึกทำประวัติเพื่อรายงานส่งผู้บังคับบัญชา
‘ศรีรัศมิ์’วอนสื่อขออยู่อย่างสงบ
ต่อมา เวลา 17.00 น. พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ แก้วผลน้อย รักษาราชการแทน ผกก.สภ.วัดเพลง ได้นำหนังสือที่เขียนด้วยลายมือของ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ มามอบให้สื่อมวลชนที่เฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ที่หน้าบ้าน โดยมีใจความว่า “เราขอขอบพระคุณผู้สื่อข่าวทุกท่าน ที่ให้ความเป็นห่วงเป็นใย คอยติดตามมาเสมอ เราขอความกรุณาผู้สื่อข่าวทุกท่านด้วย ช่วงนี้เราขออยู่ปฏิบัติธรรมเงียบๆ ในบ้านหลังนี้ พร้อมครอบครัวด้วยความสงบค่ะ” ลงชื่อ ศรีรัศมิ์ 17 ธ.ค.57
ฝากครั้งผลัด3พงศ์พัฒน์กับพวก
ก่อนหน้านั้น เวลา 11.30น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.สมเกียรติ ตันติกนกพร พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่3 พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อายุ 58 ปี อดีต ผบช.ก. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อายุ 59 ปี อดีต รอง ผบช.ก. ผู้ต้องหาคดีร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ เป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา อายุ 50 ปี อดีตผู้บังคับหมู่ กก.ปพ.บก.ป.ด.ต.ฉัตรินทร์ หรือจักรินทร์ เหล่าทอง อายุ 48 ปี อดีตผู้บังคับหมู่ กก.ปพ.บก.ป. ผู้ต้องหาคดีเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ฯ เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ฯ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ นางปิยพรรณ ชินนะประภา อายุ 56 ปี และนาย ชอบ ชินนะประภา อายุ 60 ปี น้องสาวและน้องเขยของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ผู้ต้องหาคดีเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์
ระบุยังสอบไม่เสร็จ-ค้านประกัน
โดยคำร้องระบุว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องทำการสอบปากคำพยานสำคัญอีก 35 ปาก รอผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารที่เกี่ยวข้อง รอตรวจสอบและประเมินราคาทรัพย์ที่ตรวจยึดจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และรอผลการตรวจพิสูจน์หรือเปรียบเทียบของกลางกับผู้ต้องหาจากกองพิสูจน์หลักฐาน จึงขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 6 คน เป็นครั้งที่ 3 มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-29 ธันวาคมนี้ และขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน รวมถึงเป็นอุปสรรค หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของพนักงานสอบสวนได้
พ.ต.ท.สมเกียรติ ยังได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่3 พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อายุ 55 ปี อดีตผบก.รน. และ พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ อายุ 46 ปี อดีต ผกก.4 บก.ปคบ. ผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ เป็นเจ้า พนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฯลฯ โดยคำร้องฝากขังระบุว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนปากคำพยานอีก 14 ปาก รอผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารที่เกี่ยวข้อง รอผลตรวจสอบและประเมินราคาทรัพย์สินที่ตรวจยึดจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และรอผลการสอบสวนขยายผลถึงสถานที่เก็บซ่อนทรัพย์สินเพิ่มเติม และคัดค้านคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว
นอกจากนี้ พ.ต.ท.วีระวุฒิ บำรุงสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน ได้ยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 3 นายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช อายุ 57 ปี และ นางสวงค์ มุ่งเที่ยง อายุ 54 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 และ 47 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนปากคำพยานอีก 3 ปาก รอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และรอผลการตรวจพิสูจน์ซากสัตว์ป่าคุ้มครองของกลาง จากผู้เชี่ยวชาญของกรมประมง และกรมกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชมาประกอบสำนวนการสอบสวน
ศาลอนุมัติฝากขังทั้งหมด
ทั้งนี้ ศาลได้ดำเนินการฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ผ่านระบบสื่อสารทางไกลผ่านจอภาพ (วีดิโอ คอนเฟอร์เรนซ์)ไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง โดยผู้ต้องหาทั้งหมดไม่คัดค้าน ศาลจึงอนุญาตฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมด ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ
จ่อย้ายเครือข่ายเดอะกิ๊กอีกระลอก
ทางด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวถึงการโยกย้ายข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีผู้สมัครใจจะขอย้ายเองประมาณ 10-20 ราย ซึ่งมีทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเครือข่ายของอดีต ผบช.ก.บางส่วน และบางส่วนสมัครใจ ซึ่งไม่ใช่เป็นการย้ายเพื่อการฟอกตัว หรือไปตำแหน่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นการสับเปลี่ยนทดแทนในตำแหน่ง โดยผู้บังคับบัญชาสามารถตรวจสอบประวัติได้
ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการรับสินบนน้ำมันเถื่อน 150 ล้านบาทนั้น พล.ต.ท.ประวุฒิ ยอมรับว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นเรื่องจริง และจากการถอดรหัสจากบัญชีรายชื่อรับส่วยตรงกับคำให้การรับสารภาพของผู้ต้องหา รวมทั้งจำนวนเงิน และรายชื่อค่อนข้างตรงกัน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการออกคำสั่งให้ตำรวจอีกจำนวนหนึ่งมาช่วยราชการเพิ่ม แต่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงไม่สามารถบอกได้ว่ามีกี่ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี