21 ม.ค. 58 แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคายางที่มีแนวโน้มตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รับปากว่าจะวางมาตรการขยับราคายางให้สูงขึ้น ไม่ต่ำกว่า 60 บาท แต่จนถึงวันนี้ยังไม่สามารถทำได้ตามเป้าที่รับปากเอาไว้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า เหตุผลหนึ่งที่ส่งผลให้ราคายางตกต่ำ น่าจะเกิดจากการลงนามสัญญาซื้อขายยางกับเอกชนจีน โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้ลงนามสัญญากับบริษัท ไห่นาน ลับเบอร์ สัญญาเลขที่ กษ. 002/2557 โดยมีสาระสำคัญในการตกลงซื้อยางพาราจำนวน 2.1 แสนตัน จำแนกเป็น ยางแผ่นรมควัน คุณภาพ 100% ในราคา FOB ที่ 63.56 บาท ราคาหน้าโกดังอยู่ที่ 60.26 บาท ส่วนราคา STR อยู่ที่ 55.50 บาท ราคาหน้าโกดังอยู่ที่ 52.20 บาท ต่อกิโลกรัม นอกจากนนี้ยังต้องส่งยางให้เดือนละ 20,000 ตัน หลังลงนามสัญญาแล้ว 7 วัน และส่งมอบยางทั้งหมดภายใน 10 เดือน
แหล่งข่าวระบุว่าอีกว่า แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า สัญญาข้างต้นกลับมีสัญญาแนบท้ายสอดไส้มาอีก 1 ฉบับ โดยได้กำหนดเกณฑ์คุณภาพและการปรับลดราคายาง รวมไปถึงฐานราคายางที่จะนำมาใช้กำหนดราคาซื้อขาย ลงวันที่ 13 ต.ค. 57 ไว้ที่ 50.95 บาท ส่งผลให้รัฐบาลไทยเสียเปรียบเป็นอย่างมาก เพราะราคาที่มีการลงนามจริง กลับต้องยึดราคาที่ 50.95 บาท
ขณะเดียวกันยังตรวจสอบพบว่า จนถึงขณะนี้เพิ่งมีการส่งมอบยางให้บริษัทไห่นาน จริงเพียง 377 ตัน เท่านั้น โดยเป็นการส่งมอบจากโกดังที่สถานีบางขุนทะเล จ.สุราษฎร์ธานี ที่เป็นของกรมวิชาการ และยางที่ส่งมอบกลับเป็นยางที่ไม่ได้คุณภาพ และจะต้องปรับลดราคาตามเงื่อนไขลงอีก 4.84 บาท ทำให้ราคาขายจริงลดลงไปอยู่ที่ 46.47 บาท เท่านั้น ส่งผลให้ราคารับซื้อยางจากเกษตรกรต่ำลงไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การลงนามซื้อขายดังกล่าว ได้มีการรายงานต่อรัฐมนตรีก่อนที่จะมีการเสนอต่อที่ประชุมครม.เพื่อทราบ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ากลับไม่มีการทักท้วงแต่อย่างใด และที่ผ่านมารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ยืนยันมาตลอดว่าสามารถขายยางได้จริงตามสัญญา แต่ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นอย่างที่กล่าวอ้าง และถ้าหากมีการส่งมอบยางทั้ง 2.1 แสนตัน ตามสัญญาแนบท้าย จะส่งผลให้รัฐบาลเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า ก่อนที่จะมีการลงนามสัญญา ตัวแทนบริษัทไห่นาน ได้เดินทางเข้าพบ นายอำนวน หลายครั้ง และบริษัทดังกล่าว ยังเคยทำสัญญาซื้อข้าวกับกระทรวงพาณิชย์ แต่กลับทิ้งสัญญาไม่ยอมรับมอบข้าวในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และยังมีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตในโครงการขายข้าวระหว่างรัฐต่อรัฐที่ ปปช. เพิ่งชี้่มูลความผิดไปเมื่อวานนี้อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี