วิทยาลัยชุมชนทั่วประเทศ จัดอบรมอาชีพระยะสั้นฟรี
คืนความสุขให้กับคนไทย
เพื่อเป็นการสร้างขวัญ กำลังใจและของขวัญให้กับคนไทยด้วยกัน ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาหลายหน่วยงานของภาครัฐ จึงได้จัดโครงการคืนความสุข โดยวิทยาลัยชุมชนทั่วประเทศ 20 แห่ง ก็ได้ร่วมโครงการนี้เช่นกัน โดยจัดโครงการที่มีชื่อว่า “อุดมศึกษาสร้างความรู้ สร้างอาชีพ สร้างความสุข สู่ชุมชน” มอบของขวัญให้แก่ประชาชน จัดการฝึกอบรมอาชีพระยะสั้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตลอดเดือนมกราคม
สำหรับโครงการนี้ วิทยาลัยชุมชนทั่วประเทศ จะจัดการฝึกอบรมอาชีพระยะสั้น ที่เหมาะสมกับความต้องการของคนในท้องถิ่นหรือชุมชน เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เป็นอยู่และสามารถนำไปประกอบอาชีพเพื่อเป็นรายได้เสริมหรือนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ดังเช่น ที่วิทยาลัยชุมชนตราดนางกรรณิกา สุภาภา ผู้อำนวยการเล่าให้ฟังว่า เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำโครงการอุดมศึกษาสร้างความรู้ สร้างอาชีพ สร้างความสุขสู่ชุมชน จึงคิดที่จะทำโครงการ โภชนาการที่ดีสานรักผู้สูงอายุ เพราะที่ผ่านมา วชช.ตราดมีการทำกิจกรรมกับผู้สูงอายุบ่อย และคิดว่าโครงการโภชนาการที่ดีสานรักผู้สูงอายุนี้จะมีประโยชน์กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรม ประกอบด้วยผู้สูงอายุผู้ดูแลผู้สูงอายุ และคนพิการ จากพื้นที่อบต.ด่านชุมพล และพื้นที่ตำบลพนมพริก จำนวน 100 คน โดยการฝึกอบรมจะแบ่งเป็น 2 วัน วันแรกจะเป็นการสอนในเรื่องการดูแลตนเอง เพื่อให้เข้าใจในหลักการและกระบวนการเสริมสร้างสุขภาพ การดูแล รักษาสุขภาพ ส่วนวันที่สอง จะมีการเชิญนักโภชนาการจากโรงพยาบาลตราด เป็นวิทยากรสอน
เนื้อหาวิชาที่เรียนนั้น จะเน้นในเรื่องความรู้เกี่ยวกับโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ ความต้องการสารอาหารสำหรับผู้สูงอายุ การจัดอาหารสำหรับผู้สูงอายุ การประกอบอาหาร การจัดเตรียม การปรุงอาหาร การให้อาหารแก่ผู้สูงอายุที่ถูกวิธี การให้อาหารแก่ผู้สูงอายุปกติ และการให้อาหารแก่ผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ รวมถึงยังเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการเสริมสร้างสุขภาพ การดูแล รักษาสุขภาพที่ดีอีกด้วย
“การที่วชช.ตราดจัดการฝึกอบรมโครงการโภชนาการที่ดีสานรักผู้สูงอายุนั้น เพราะต้องการให้ความรู้ที่ถูกต้องกับผู้สูงอายุในชุมชน ให้เข้าใจถึงการดูแลรักษาสุขภาพด้วยตัวเองที่ถูกวิธี โดยเฉพาะเรื่องของการรับประทานอาหาร เพราะผู้สูงอายุบางคนไม่เข้าใจเกี่ยวกับการรับประทานอาหารให้เหมาะกับวัย เหมาะกับโรคประจำตัว และมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่เข้าใจความห่วงใยของลูกหลานที่เข้ามาดูแลเรื่องอาหาร ดังนั้นการจัดวิทยากรให้ความรู้ถึงพื้นที่เกี่ยวกับหลักโภชนาการ จะทำให้ผู้สูงอายุได้รับความรู้ และนำกลับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้” ผอ.วชช.ตราด กล่าวในที่สุด
นอกจาก วชช.ตราดแล้ว วชช.สระแก้วก็เป็นอีกวิทยาลัยหนึ่งที่จัดโครงการที่น่าสนใจ ได้แก่ โครง “การพัฒนาศักยภาพมัคคุเทศก์ท้องถิ่นอาเซียน” นายศิระพจต์ จริยาวุฒิกุล ผู้อำนวยการกล่าวว่า การจัดโครงการนี้ วชช.สระแก้วต้องการสร้างจิตสำนึกให้คนท้องถิ่น รักแหล่งท่องเที่ยว ปกป้องท้องถิ่นของตัวเอง รู้จักการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีศักยภาพ และพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดสระแก้ว รวมถึงยังมีการเรียนเกี่ยวกับการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับกัมพูชา รู้เขารู้เราไทยกัมพูชาอีกด้วย
สำหรับโครงการนี้ ทางวชช.สระแก้ว ได้เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมินวรัตน์ มาเป็นผู้อำนวยการหลักสูตร และเปิดรับสมัครตัวแทนจาก 9 อำเภอ อำเภอละ 10 คน และบุคคลทั่วไปอีก 10 คน รวมเป็น 100 คน จัดการอบรม 5 วัน แบ่งการเรียนเป็น 2 วันแรก เน้นภาคทฤษฎีเกี่ยวกับความรู้ด้านการท่องเที่ยว การจัดการแหล่งท่องเที่ยว การดูแลนักท่องเที่ยว หลังจากนั้นอีก 2 วัน นำผู้เข้ารับการอบรมเดินทางไปในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดอย่างทั่วถึงอาทิ ปราสาทสด๊กก๊อกธม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ ชมละลุ อ.ตาพระยา อุทยานแห่งชาติปางสีดา ถ้ำน้ำเขาพระศิวะ-ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง ฝูงค้างคาวออกหากินยามเย็น อ.เขาฉกรรจ์ เป็นต้น ส่วนวันสุดท้ายจะเป็นการให้แต่ละกลุ่มระดมความคิด นำเสนอโปรแกรมการท่องเที่ยวสระแก้วของตนเอง ซึ่งมีทั้งหมด 10 กลุ่มทำให้ได้แหล่งท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ
“ทั้งนี้ ผลสัมฤทธิ์ที่ได้รับนั้น ทำให้เกิดการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดการรวมตัวของชุมชน รู้จักการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ และมีใจรักในงานบริการ ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมต่างรู้สึกประทับใจในโครงการ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โครงการนี้สอนให้พวกเขาได้รู้จักคิดอย่างสร้างสรรค์ และไม่คิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งตนรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก” ผอ.วชช.สระแก้ว กล่าวในที่สุด
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงตัวอย่างของ 2 วิทยาลัยที่ร่วมคืนความสุขให้คนไทย จัดการอบรมอาชีพระยะสั้น ให้ได้นำกลับไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือต่อยอดนำไปประกอบเป็นอาชีพได้ ซึ่งทุกๆ โครงการที่วิทยาลัยชุมชนเปิดการอบรมนั้น จะตรงกับความต้องการของคนในชุมชน และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของวิทยาลัยชุมชน คือการเป็นวิทยาลัยชุมชนของชุมชนอย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี