ภัยแล้งคุกคามเกษตรกรชาวตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ หนักชาวบ้านต้องลงทุนจ้างรถขุดเบ้าขนมครกหาแหล่งน้ำและซื้อน้ำมารดต้นทุเรียนและผลไม้ในสวน พืชผัก หลังเจอภัยแล้งหนักสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุเรียน เงาะ โกโก้นับร้อยต้นยืนต้นแห้งเหี่ยวตาย วอนฝนหลวงช่วยเหลือแก้ปัญหาภัยแล้ง
พื้นที่ ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นอีกอำเภอหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาไฟป่าและภัยแล้งซ้ำซากทุกปี จากการสำรวจพื้นที่หลายหมู่บ้านได้รับผลกระทบอย่างหนักในรอบหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพปัญหาปีนี้ (2567) ฝนทิ้งช่วง แม้ทางอาสาสมัครฝนหลวงอำเภอปากท่อ ได้ประสานหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ เพื่อขอรับการสนับสนุนทำฝนหลวงช่วย แต่ติดปัญหาอุปสรรคเรื่องสภาพอากาศและภูมิประเทศ บางจุดมีภูเขาสูงชัน เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ เคยมาสำรวจพื้นที่แล้วพบว่าเป็นพื้นที่อับฝน อีกทั้งความชื้นไม่เพียงพอต่อการทำฝนเทียม ทำให้ยากลำบากในการบินขึ้นปฏิบัติการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ได้
ทำให้ขณะนี้พื้นที่ ต.ยางหัก อ.ปากท่อ รวม 8 หมู่บ้าน และพื้นที่ ต.ห้วยยางโทน อ.ปากท่อ ได้รับผลกระทบ พืชผัก ผลไม้ทางการเกษตรเหี่ยวแห้งตายคาต้น โดยเฉพาะต้นทุเรียนนับร้อยต้นมีอายุประมาณ 4 - 7 ปีในสวนของเกษตรกรหมู่ที่ 5 ต.ยางหัก ซึ่งอยู่ระหว่างกำลังออกดอก ติดลูกเริ่มร่วงหล่น ต้นมังคุด เงาะ ลองกอง กระท้อน สภาพใบแห้งเหี่ยวร่วงตายเกือบยกสวน เจ้าของสวนหลายคนได้กัดฟันทนสู้ใช้เงินตัวเองไปว่าจ้างซื้อน้ำมารดต้นผลไม้ หวังให้มีชีวิตรอดเท่าที่จะสามารถทำได้ แต่สุกท้ายเงินหมดไม่มีค่าจ้างรถน้ำก็ต้องปล่อยยืนต้นตายตามสะภาพที่เห็น
นายวีระ บัวทอง อายุ 64 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ กล่าวว่า ปีนี้เกิดปัญหาภัยแล้งที่สุด อย่างทุเรียนออกลูกมาก็ร่วงหล่นจากการเจอความร้อนมาก ๆ ต่อไปต้นก็จะตายลงอีก คาดว่าจะตายมากกว่า 30 ต้น และอยู่ระหว่างรอการตายอีกเป็นร้อยต้น น้ำในบ่อที่กักเก็บไว้ก็แห้งหมดแล้ว สู้ไม่ไหวจริง ๆ อยากให้ภาครัฐช่วยทำฝนหลวงช่วยเหลือ ถ้ามาช่วยขุดเจาะบ่อบาดาลส่วนกลางเอาไว้ก็น่าจะดีมาก ตอนนี้ผลไม้อื่น ๆ ที่ปลูกไว้ประมาณ 20 ไร่ เสียหายไปเกือบทั้งสวน
นายอนุสรณ์ ฤทธิ์ล้ำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ กล่าวว่า ตามปกติจะเกิดปัญหาภัยแล้งประจำปีอยู่ แต่ปีนี้แล้งมากขนาดน้ำที่เคยเก็บกับไว้ เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ปีนี้มีการหวงน้ำ จากพื้นที่รวม 8 หมู่บ้าน รถส่วนกลางจะไปดูดน้ำเพื่อนำออกแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านก็ยังไม่ได้น้ำมาช่วย เพราะมีการหวงน้ำกัน บางจุดมีการดูดน้ำเพื่อมาหล่อเลี้ยงต้นทุเรียน และผลไม้อื่น ๆ ไว้ก็ยังไม่รู้ว่าจะรอดตายหรือไม่ ภาพรวมมีความเสียหายแน่นอน จากการสืบถามผู้ใหญ่ทุกหมู่บ้านเกิดปัญหาเหมือนกันทุกหมู่บ้าน ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้มาช่วย ถ้าความชื้นมากพอก็จะได้มีฝนมาช่วยเหลือ
ส่วนการแก้ไขระยะยาวอยากให้เกษตรกรประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขุดเบ้าขนมครก เพื่อรองรับน้ำไว้ ที่ผ่านมาเห็นตะกอนทรายลงมาทับถมแหล่งน้ำเบ้าขนมครกที่เคยเก็บกักน้ำ ถ้ามีเบ้าเป็นขั้นบันไดลงไปทุกลำห้วยจะเป็นการช่วยเหลือพื้นที่ระยะยาวได้ ซึ่งได้รับประสานงานและตอบรับจากสำนักงานทรัพยากรน้ำ และกรมชลประทานที่จะเร่งดำเนินการขุดลอกอ่างเก็บน้ำบ้านไทยประจัน อีกส่วนเป็นสระเนื้อที่ 10 ไร่ บ้านไทยประจัน ของกรมทรัพยากรน้ำที่มีปัญหาน้ำแห้งขอด ขอให้ดำเนินการขุดลอกให้ลึกและกว้างมากขึ้น ตอนนี้เกษตรกรสิ้นหวังหมดแล้ว หลังจากเคยได้เงินจากการขายทุเรียนเมื่อปีที่แล้ว แต่ปีนี้ฝันได้สลายไม่เหลือแม้แต่ต้นก็แทบจะตายหมดยกสวน
นางประทุม จิตจันทึก อายุ 63 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ กล่าวว่า เคยมีปัญหาภัยแล้ง แต่จะมีฝนตกมาเร็ว มาปีนี้กลับไม่มีฝนตกมีแต่แดดแรงกว่าทุกปี ที่สวนคาดว่าน่าจะตายเกือบร้อยต้น ขณะที่ได้ลงทุนไปซื้อน้ำมารดต้นเงาะ ทุเรียน มังคุด โกโก้ ฝรั่ง กล้วย ยังมีผักกูดที่เก็บขายก็ตายหมด อยากให้หน่วยงานช่วยทำอย่างไรก็ได้ให้มีน้ำใช้
นายนพรัตน์ จั่นสำอางค์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ กล่าวว่า สระแห่งนี้ถือเป็นหัวใจอยู่กลางหมู่บ้าน มีสระโรงเรียน สระวัด สระ กศน.ที่เป็นแก้มลิงเป็นที่เก็บน้ำของอ่างเก็บน้ำบ้านไทยประจันซึ่งจะหมดเป็นอ่างแรก สระนี้จะหมดเป็นจุดสุดท้าย ทางผู้นำชุมชนและชาวบ้านต้องการให้หน่วยงานมาขุดลอกเพื่อเก็บน้ำไว้ให้มากที่สุด เป็นแหล่งสุดท้ายที่ชาวบ้านจะได้มีน้ำใช้
นายสมบัติ ชื่นสกุล ประธานผู้ใช้น้ำประปาหมู่บ้าน ต.ยางหัก อ.ปากท่อ กล่าวว่า ตอนนี้บ่อที่ใช้ทำน้ำประปาเปิดได้เพียงเวลาเดียวคือ เวลา 17.00 น.ส่วนประมาณ 18.00 น. น้ำหมดถังแล้ว อุปโภคได้อย่างเดียว บริโภคไม่ได้ มีชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือน แต่ใช้น้ำได้กว่า 100 ครัวเรือน มีปัญหาเรื่องน้ำบาดาลที่ตื้นเขิน ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบดูแลแก้ไขแต่อย่างใด
นายพงษ์ทวี หนูจั่น ชาวสวนทุเรียน มังคุด อยู่หมู่ 5 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ กล่าวว่า ร่วมกับเพื่อนบ้านรวม 3 ครอบครัว ได้จ้างรถแบ็กโฮ ชั่วโมงละ 1,800 บาท มาขุดเบ้าขนมครก เพื่อให้น้ำใต้ดินซึมออกมาใช้อุปโภคได้ เพราะน้ำในลำห้วยแห้งขอดมา 3 เดือนแล้ว โดยรวมเงินกันจ้างรถมาขุด 3 ครัวเรือนแบ่งน้ำกันใช้ เพื่อประคองต้นไม้ได้เล็กน้อย คาดว่าหลังขุดน้ำก็จะค่อยซึมออกมาทิ้งไว้ประมาณ 24 - 48 ชม.น่าจะดูดขึ้นมาใช้ได้ระยะสั้น ประมาณ 1 - 2 ชม.แล้วก็ต้องรอต่อรอบใหม่ให้น้ำออกมาเพิ่มอีก - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี