ศธ.เล็งใช้งบสามหมื่นล้านสร้างคน
ให้ทุนนักเรียนไทยเพื่อมาพัฒนาประเทศ
ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับโครงการทุนช่างเทคนิคและบัณฑิตนักปฏิบัติ (Technician & Technologist Scholarship : TTS) ซึ่งจะมาแทนโครงการ 1 ทุน 1 อำเภอ (One District One Scholarship) ว่า เป็นการหารือในรายละเอียดอีกครั้งก่อนสรุปโครงการเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา ในภาพรวม โดยโครงการนี้จะดำเนินการระยะยาว 14 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2558-2572 ใช้งบประมาณรวมค่าบริหารจัดการประมาณ 30,000 ล้านบาท ด้วยการให้ทุนเด็กทั้งหมด 5 รุ่น รุ่นละ 2,300 ทุน รวมทั้งหมด 11,500 ทุน แบ่งเป็นทุนในประเทศ 700ทุน ทุนต่างประเทศ 1,600 ทุน ใน 3 ระยะ คือ ทุนระยะสั้น เรียนไม่เกิน 6 เดือน ถึง 2 ปี จำนวน 1,250 ทุน ทุนในประเทศ 100 ทุน ทุนต่างประเทศ จำนวน 1,150 ทุน ระยะกลาง เรียน 4 ปี จำนวน 700 ทุน ทุนในประเทศ 400 ทุน ทุนต่างประเทศ จำนวน 300 ทุน และทุนระยะยาว เรียน 7 ปี จำนวน 350 ทุน ทุนในประเทศ 200 ทุน ทุนต่างประเทศ จำนวน 150 ทุน
ดร.กฤษณพงศ์ กล่าวต่อว่า ทุนดังกล่าวจะเป็นการให้ทุนนักเรียนที่จบ ม.3 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และปริญญาตรี ศึกษาต่อจนจบปริญญาโท เพื่อมาเป็นครูช่างในสถาบันอาชีวศึกษา อีกส่วนจะเป็นการให้ทุนเพื่อผลิตช่างเทคนิคและบัณฑิตนักปฏิบัติ ป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ขาดแคลน โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกท์ของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง การบริหารจัดการน้ำ หรือ Digital Economy
“เพราะฉะนั้น โครงการจะไม่ปล่อยปลายเปิดเหมือนโครงการโอดอส แต่อาจจะมีการกำหนดเงื่อนไขว่า ผู้รับทุนจะต้องกลับมาทำงานในไทย มาเป็นอาจารย์ในสถาบันอาชีวศึกษาและในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล รวมถึงสถานศึกษาของเอกชนด้วย อีกส่วนก็เข้าทำงานในภาคอุตสาหกรรมไทย ในสถานประกอบการที่จดทะเบียนไทยและเป็นสมาชิกของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ(กรอ.) รวมถึงเข้าทำงานในโครงการเมกะโปรเจกท์ ทั้งนี้ เพราะเป้าหมายส่วนหนึ่งของโครงการ ต้องการผลิตกำลังคนป้อนภาคอุตสาหกรรมและโครงการเมกะโปรเจกท์ นอกจากนั้น จะต้องหารือร่วมกับ กรอ. กำลังสาขาเรียน ไปจนถึงกำหนดรายชื่อประเทศและมหาวิทยาลัยที่จะเข้าเรียนได้ด้วย ซึ่งอาจจะหันมาเน้นมหาวิทยาลัยในเอเชียตะวันออก ซึ่งก็คือ จีน ญี่ปุ่น มากขึ้น เพราะเศรษฐกิจปัจจุบันเป็นยุคของเอเชีย จำเป็นต้องเตรียมกำลังคนไว้ คาดว่า น่าจะคัดเลือกเด็กรุ่นแรกได้ในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมนี้ เพื่อนำเด็กมาเตรียมความพร้อมก่อนส่งตัวไปเรียนให้ทันปีงบประมาณ 2559” ดร.กฤษณพงศ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี