ต้องมาทบทวนกันอีกครั้ง ในวันที่รัฐมนตรีที่ชื่อ “ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา” ก้าวเข้ามาเป็นรัฐมนตรีวันแรกที่ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง หลังจากรัฐบาลทหารยึดอำนาจจากคนโกง และวางระบบเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยการทำให้ภาคเกษตรกรไทยเข้มแข็ง โดยคำที่หลุดออกจากปากท่าน “ปีติพงศ์” หรือ “นายปี” บอกว่าไม่ต้องพูดอะไรมากก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าใครเป็นใครเหมือนได้กลับบ้านเก่า และอยากให้ทุกคนร่วมกันทำงาน เพราะมีเวลาค่อนข้างจำกัด เพียง 1 ปี พร้อมทั้งเน้นย้ำกับข้าราชการที่ค่อนข้าง งงงง......กับคนที่ท่านเลือกมาช่วยงาน เพราะหลายคน คนในกระทรวงทราบดีว่าพฤติกรรมเป็นอย่างไร
แต่ดูเหมือนว่า ท่าน “รัฐมนตรี” จะเดาใจข้าราชการได้ดี จึงย้ำว่าพร้อมจะรับผิดชอบหากคนที่ท่านตั้งมาเป็นที่ปรึกษา และคนใกล้ตัวก่อปัญหาไม่สามารถเดินหน้าแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรได้ ก็พร้อมจะพิจารณาตนเอง นั่นคือสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับข้าราชการในวันนั้น ว่าท่านคือ คนที่น่าจะเป็นความหวังของข้าราชการกระทรวงเกษตรฯที่จะเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง ได้อย่างมีความหวัง
วันนี้มีข่าวกันหนาหู ทั้งเรื่องการเดินหน้าแก้ปัญหาด้านการเกษตรตามที่หวัง แต่ไม่สามารถเดินหน้าเท่าที่ควรเสียแล้ว เพราะงานที่รัฐมนตรีว่าการสั่งไป ดูเหมือนว่ามีคนเข้าไปสั่งงานซ้ำซ้อน และการเข้าไปล้วงลึกในเรื่องการบริหารราชการ จนข้าราชการมึนงง ก็ไม่ใช่ใครอื่น เท่าที่ฟังก็คนใกล้ชิดของรัฐมนตรีบางคน ที่ท่านตั้งมากับมือนั่นแหละ.....ถึงวันนี้ เริ่มเห็นความชัดเจนถึงปัญหา แม้ว่าวันนี้ ท่านจะบอกว่าไม่มีอะไร แต่ที่แน่ๆ ข้าราชการระอา และใส่เกียร์ว่าง เพราะชักไม่มั่นใจ เจ้านาย“ปีติพงศ์” ว่าจะเอาอย่างไร
มาถึงขณะนี้ ท่านก็น่าจะถึงเวลาทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับกระทรวงเกษตรฯ เพราะงานที่สั่งไป แทบไม่มีอะไรคืบหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปากท้อง สินค้าเกษตรฯ และปัญหาราคาสินค้าเกษตร ล้วนไม่มีอะไรคืบหน้า แถมยังเดินหน้าดันทุรังช่วยผิดๆถูกๆ ซึ่งนั้นหากอยู่ระหว่างภาวะบ้านเมืองปกติ บริหารงานแบบนี้เห็นทีม็อบมาเยือน แทบหัวบันไดไม่แห้ง โดยเฉพาะเรื่องยางวันนี้ แม้ท่านรัฐมนตรีบอกว่ามอบ รมช. ดูแล หากเรื่องไม่แย่ลง และเดินผิดทาง สักวันท่านคงหนีไม่พ้นต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงในภาพรวม
มาถึงเรื่องการบริหารงานภายในกระทรวงถึงวันนี้ ตั้งแต่เปิดศักราชใหม่รับปี 2558 วันนี้ ต้องบอกว่า มีข้าราชการระดับอธิบดีลาออกไปแล้ว 2 คน ที่ทนไม่ไหวกับการบีบคั้น จากคนบางกลุ่มที่ใกล้ชิดรัฐมนตรี คือ คนที่ 1 นายวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อ้างลาออกไป “ทำดี” เพื่อประเทศชาติ ทั้งที่ระหว่างอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการ ส.ป.ก. สามารถทำดีได้หลายทาง แต่เลือกที่จะเดินทางด้วยตนเอง ด้วยการลาออก แม้วันนี้จะบอกไม่มีอะไร แต่ท่านทราบดีว่าเพราะอะไรถึงลาออก หลอกคนทั้งโลกได้ แต่หลอกตนเองไม่ได้แน่นอน ต้องขอแสดงความยินดีด้วยคนที่หลุดพ้นจากบ่วงกรรมได้เสียทีเพราะหากอยู่ไปคงมีอะไรตามมาเยอะ มาถึงคนที่ 2 คือ นางวีณา พงศ์พัฒนานนท์ อธิบดีกรมหม่อนไหม ที่เพิ่งยื่นใบลาออกสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ หลังวันแห่งความรักมาหมาดๆ โดยจะมีผลในวันที่ 16 มีนาคม 2558 แม้วันนี้จะอ้างว่าเป็นเพราะปัญหาเรื่องสุขภาพไม่ดี ตามรอยนายวีระชัย เพราะนางวีณาถือเป็นคนดี คนหนึ่งที่ไม่ค่อยให้ร้ายใคร แต่ที่แน่ๆ ก่อนลาออกท่านได้ปรึกษาใครหลายคนและระบายถึงความทุกข์ในใจ
ถึงวันนี้ต้องถามท่านรัฐมนตรี “ปีติพงศ์” ดังๆ ว่าถึงเวลาหรือยังที่ท่านจะได้เวลาทบทวนขบวนการ การทำงานของท่านรวมทั้งทีมงานที่เข้ามาช่วยท่าน เพราะหากปล่อยไว้นาน แม้ท่านจะบอกว่าท่านไม่มีต้นทุนทางสังคม ไม่ต้องสนอะไร แต่วันนี้ต้องบอกท่านให้ทราบว่ากระทรวงเกษตรฯไม่ใช่สมบัติผลัดกันชม และไม่ใช่ขนม ที่ใครจะแอบมากินแล้วจากไป ความหมายมันคืออะไร ในใจท่านทราบดี อย่ามัวแต่ปิดหูปิดตา แล้วสร้างบาปให้กับเกษตรกรเลยครับ เพราะวันนี้ยังมีหลายคนยังหวังว่าท่านจะแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรได้ แม้วันนี้ความหวังจะริบหรี่ก็ตาม
ดอกปีบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี