24 ก.พ. 58 ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา จ.ชลบุรี นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการฯ เพื่อตรวจสอบกรณีพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า การตรวจสอบของคณะกรรมการฯ ไม่ได้เป็นการสกัดกั้น ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อขึ้นทำหน้าที่เป็นพระสังฆราช แต่เป็นการทำหน้าที่เพื่อศึกษาแนวทางการปฏิรูปพระพุทธศาสนา ทั้งโครงสร้างและกฎหมาย โดยนำกรณีพระธัมมชโยเป็นกรณีศึกษา เนื่องจากเข้าข่ายทั้งกรณีการถือที่ดินและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก และการเผยแพร่คำสอนที่ไม่เป็นตามแนวทางพระพุทธบัญญัติ ซึ่งพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช ได้ระบุชัดว่ากรณีพระธัมมชโย เข้าข่ายปราชิกแล้ว แต่กลับมีการทำผิดซ้อนกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ นำเงินของสหกรณ์จำนวน 380 ล้าน โอนเข้าบัญชีของพระธัมมชโย แล้วสั่งจ่ายต่อไปมูลนิธิอื่นซึ่งไม่ใช่เป็นของวัดพระธรรมกาย เช่นเดียวกับการบริจาคที่ดินของผู้ศรัทธา ที่เป็นชื่อของมูลนิธิอื่นที่ไม่ใช่วัดพระธรรมกาย ถือว่าพระธัมมชโย กระทำผิดซ้ำสอง จึงเป็นกรณีที่น่าทำการศึกษาเรื่องความโปร่งใส

 

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่าเหตุสำคัญที่ต้องมีการปฏิรูปพระพุทธศาสนา โดยมองว่าองค์กรที่เกี่ยวข้องไม่ได้เอื้อต่อความโปร่งใส อีกทั้งตนยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องทางการเมือง เพราะองค์กรอย่างมหาเถรสมาคมไม่ใช่องค์กรที่มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองแต่อย่างใด