“…หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้...” พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2529
ด้วยตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำตามพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการพัฒนาการเกษตรยั่งยืนและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ในเขตโครงการจัดรูปที่ดิน ดำเนินการโดย สำนักงานจัดรูปที่ดินกลาง กรมชลประทาน
“กรมชลประทานได้น้อมนำแนวพระราชดำริมาเป็นแนวทาง เพื่อการพัฒนาการกระจายน้ำใช้ในการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับ งานพัฒนาระบบชลประทานในไร่นา (On-Farm Irrigation System Development) ประเภทงานจัดรูปที่ดิน (Land Consolidation)มีวัตถุประสงค์เพื่อการกระจายน้ำให้ถึงแปลงนาของเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกระตุ้นให้กลุ่มเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เขตจัดรูปที่ดิน ได้เข้ามามีส่วนร่วมดูแลบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาควบคู่กับการเห็นถึงคุณค่าของน้ำ เกิดการสร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกลุ่มเกษตรกรด้วยกันเองและระหว่างกลุ่มเกษตรกรกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ โดยประโยชน์ที่ได้รับคือ สามารถส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนเกิดกระบวนการพัฒนาการเกษตร ที่สามารถตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” นายสิริวิชญ กลิ่นภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานจัดรูปที่ดินกลางกล่าว
สำนักงานจัดรูปที่ดินกลาง ได้จัดโครงการพัฒนาการเกษตรยั่งยืนฯโดยมีระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 3 ปี (พ.ศ.2557 -2559) ในเขตโครงการจัดรูปที่ดินเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ตำบลท่างาม อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก โครงการจัดรูปที่ดินสถานีสูบน้ำตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ โครงการฝายหนองหวาย ตำบลยางน้อย อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคามและโครงการจัดรูปที่ดินสถานีสูบน้ำตำบลรางสาลี่ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
ปี พ.ศ.2557 ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการฯ ในปีแรก สามารถสร้างความตื่นตัวให้กับเกษตรกรในการจัดการ-ดูแลระบบชลประทาน เกิดคณะทำงานและสร้างเครือข่ายการทำงานระดับชุมชน เกิดวิทยากรกระบวนการของชุมชนอีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนทัศนคติของเกษตรกรในพื้นที่ ให้มีบทบาทในการแสดงความคิดเห็น มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาระบบชลประทานและลงมือปฏิบัติตามแผนงานที่ร่วมกันสร้างขึ้นตามแนวทางและกระบวนการพัฒนา จากแผนงานของโครงการ ไม่รอให้ภาครัฐเข้ามาดำเนินการให้แต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งบรรลุตามเป้าหมายในปีแรกที่วางไว้
จากการดำเนินโครงการฯเกษตรกรในพื้นที่ ได้สะท้อนให้เห็นถึงหลักการทรงงานตามแนวพระราชดำรัส ดังนี้
นายอาทิตย์ สุขแจ่ม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.ท่างาม อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เล่าว่า การที่อยู่ในพื้นที่ของโครงการ ทำให้เห็นความสำคัญ ถึงคุณค่าของการจัดสรรน้ำตามแนวพระราชดำรัส เพื่อนำมาประโยชน์ทั้งเพื่อการอุปโภค-บริโภค และที่สำคัญคือหากไม่มีการอนุรักษ์น้ำ ก็จะเป็นการละเลยทรัพยากรที่มีคุณค่าให้ทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์
นายณัฐกิตติ์ กองรักษา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เกษตรกรในพื้นที่เห็นความสำคัญของการจัดการน้ำ มีการจัดทำเป็นประชาคม เพื่อให้ขั้นตอนจัดสรรน้ำ เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดทั้งเพื่อการเกษตรและการใช้น้ำในชีวิตประจำวัน
นายวัฒนา สิริ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ความแตกต่างที่เห็นได้ต่อการตระหนักถึงทรัพยากรน้ำ คือ ขณะที่ชุมชนเห็นความสำคัญของการจัดสรรน้ำที่ส่งมาจากระบบชลประทาน แต่บางพื้นที่กลับมองข้าม ทำให้กลายเป็นปัญหาที่นำมาซึ่งความเดือดร้อน ต่างไปจากชุมชนที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้อย่างจริงจัง คนในชุมชนเกิดความร่วมมือ
นายสุนทร ภูคำสอน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ยางน้อย อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวถึงการเห็นคุณค่าของการใช้น้ำจากการเข้าร่วมโครงการนี้ว่า “เมื่อก่อนผมยังไม่รู้ว่าน้ำมีประโยชน์มากมายมหาศาลขนาดนี้ เมื่อไปร่วมอบรมไปรับรู้เรื่องน้ำก็รู้สึกว่ามนุษย์เราไม่สามารถขาดน้ำได้แม้แต่วันเดียว ไม่ว่าจะเป็นนำดื่ม น้ำอาบ น้ำสำหรับทำการเกษตร แล้วก็น้ำเหมือนกับชีวิต ประชาชนทุกคนไม่สามารถที่จะขาดน้ำได้ ถ้าจะถามถึงโครงการอันมาจากพระราชดำริของในหลวงของเรา จะเห็นได้ว่าน้ำมีคุณค่ามหาศาล ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตรกรรม อุปโภคบริโภค มนุษย์เราทุกคนขาดน้ำไม่ได้” ความรู้สึกต่อพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงที่ทรงห่วงใยเรื่องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรนายสุนทรได้สะท้อนว่า “รู้สึกว่าในหลวงของเราเป็นเกษตรตัวอย่าง เป็นบุคคลตัวอย่าง ทรงเสด็จไปทุกที่ทั่วประเทศ แล้วทรงงานหนักเพื่อพัฒนาด้านแหล่งน้ำเพื่อพี่น้องประชาชนเสมอ โดยทรงคำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนมากที่สุด โครงการในพระราชดำริของพระองค์ท่าน เน้นเรื่องการใช้น้ำอย่างบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นเขื่อน ห้วย หนอง คลอง บึง ทรงเห็นคุณค่าของน้ำ และรับสั่งเสมอว่า “น้ำคือชีวิต”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี