6วันเซ่นสงกรานต์ดุ
ตาย306ศพ
“สุรินทร์”ครองแชมป์
ปิกอัพเทกระจาดดับ4 เจ็บ13
ฝรั่งเมิองพัทยาแก้ผ้าเต้นโชว์
นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย แถลงข่าวเมื่อวันที่ 15 เมษายนว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2558 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายรายงานสถิติอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 14 เมษายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่หกของการรณรงค์ “สติ วินัย น้ำใจ ปลอดภัยสงกรานต์ สืบสานประเพณี” รายงานว่าเกิดอุบัติเหตุ 509 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 55 ราย ผู้บาดเจ็บ 538 คน
สรุปอุบัติเหตุทางถนนช่วง 7 วันอันตราย รวม 6 วัน ตั้งแต่ 9 - 14 เม.ย.2558 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,915 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 306 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,070 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลกและสุรินทร์ (จังหวัด 109 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ สุรินทร์ 15 ราย
จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สุรินทร์ 124 คน ขณะที่จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มี 7 จังหวัด ได้แก่ ตรัง บึงกาฬ ภูเก็ต แม่ฮ่องสอน ยะลา สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บในช่วง 6 วัน มี 1 จังหวัดได้แก่ สมุทรปราการ
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 47.15 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 22.40 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.01 โดยมีพฤติกรรมเสี่ยงจากการไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 30.02 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 65.62 ถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 42.44 ทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 33.60 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 32.81 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 51.09
สุรินทร์เทกระจาดดับ4เจ็บ13
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุหมู่รถยนต์ปิกอัพ 4 ประตู ชนหลักกิโลเมตร บริเวณร่องข้างถนน บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 5 ถนนสายหินโคน-บ้านโคกลาว ม.9 ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เมื่อบ่ายวันที่ 14 เมษารยน ตำรวจจึงไปตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิต 4 ราย คือ 1.นายวีรพล ดวงใจ อายุ 21 ปี 2.นายมนตรี โพธิ์เงิน อายุ 24 ปี 3.ด.ช.อนิรุต เกสรพูด อายุ 14 ปี และ4. ด.ช.จักรกฤษณ์ สุภาษา อายุ 14 ปี
นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 13 ราย คือ 1.นายอนุชา วิเศษวงศา อายุ 17 ปี 2.นายพลพล บุญเชิด อายุ 16 ปี 3.นายพงศ์กร พูลวงศ์ อายุ 17 ปี 4.น.ส.สุนิตา นะลาด อายุ 16 ปี 5. ด.ช.ขจรศักดิ์ นะบะวานศรี อายุ 14 ปี 6.ด.ช.พงศกร ยอดอ่อน อายุ 14 ปี 7.นายเอกพันธ์ ขันทอง อายุ 24 ปี 8.นายณัฐพล รุ่งเรือง อายุ 21 ปี 9.ด.ช.สุทธิพงศ์ สังสมานันท์ อายุ 14 ปี 10.น.ส.กรองกาญจ์ เพ็งแจ่ม อายุ 14 ปี 11.น.ส.เกษรีย์ ขันทอง อายุ 17 ปี 12.นายธนเดช ศรีทอง อายุ 16 ปี และ 13.นายวีรยุทธ ชินละวงศ์ อายุ 24 ปี ทั้งหมดถูกส่งตัวรักษาที่ รพ.ปราสาทและ รพ.สุรินทร์
จากการสืบสวนของตำรวจ ทราบว่า ทั้งหมดเป็นชาว จ.สุรินทร์ อยู่ระหว่างพากันเดินทางเพื่อขับรถยนต์บรรทุกคน เพื่อเดินสายตระเวนเล่นสาดน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนาน แต่ก่อนเกิดเหตุได้ขับมาด้วยความเร็วสูงเพื่อจะแซงรถคันอื่น ก่อนจะหักรถเข้าเลนเดิมคืน แต่รถกระบะได้บรรทุกคนจำนวนมาก จึงทำให้รถรับน้ำหนักไม่ไหว และเกิดแรงเหวี่ยงไถลลงข้างทางก่อนชนหลักกิโลเมตร จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
เตรียมพร้อมรับประชาชนกลับเข้ากรุง
ในวันเดียวกัน พล.ต.ต.อภิสิทธิ์ เมืองเกษม ผู้บังคับการตำรวจจราจร(ผบก.จร.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีประชาชนอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก และจะทยอยเดินทางกลับมายังกรุงเทพฯ ในช่วงวันที่ 15เม.ย. ซึ่งเป็นวันหยุดวันสุดท้ายของเทศกาล แต่จะมีบางส่วนที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรและจะกลับในวันถัดไปแทนคือวันที่ 16 และ 17 เม.ย. อันเป็นช่วงที่ปริมาณรถในกรุงเทพฯ นั้นจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาการจราจรติดขัดติดซ้ำซ้อน จึงสั่งการตำรวจในแต่ละพื้นที่เร่งเคลียร์เส้นทางรับรถตกค้างที่จะกลับมาหลังเทศกาล โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เร่งระบายรถขาเข้ากรุงเทพฯ โดยเฉพาะถนนวิภาวดีรังสิต ถนนเพชรเกษม ถนนบรมราชชนนี และถนนสุขุมวิท กำชับไม่ให้มีรถจอดริมทางเท้าเพื่อให้การจราจรคล่องตัวที่สุด
ขณะที่บริเวณสถานีรถไฟ จ.ลพบุรี ประชาชนที่กลับมาฉลองสงกรานต์กับครอบครัว ต่างหอบกระเป๋าและสิ่งของต่างๆเดินทางมาซื้อตั๋วขึ้นรถไฟเพื่อเตรียมตัวกลับไปทำงาน หลังจากที่วันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์หมดลง โดยมีครอบครัวเดินทางมาส่งขึ้นรถ บางรายลูกที่ยังเล็กก็ยังกอดพ่อและแม่ไม่ยอมห่างเพื่อไม่ต้องการให้ทิ้งพวกเขาไปไหนอีก แต่ทุกคนก็ต้องตัดใจเพราะมีภาระหน้าที่การงานรออยู่
เช่นเดียวกับที่ สถานีขนส่งกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบว่ามีประชาชนทยอยเดินทางกลับเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถประจำทางสายนครราชสีมา-ระยอง สายอุบลราชธานี-พัทยา มีผู้โดยสารเดินทางกลับจนเต็มทุกเที่ยว ส่วนเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดปราจีนบุรี มีการตั้งจุดตรวจที่สถานขนส่ง เพื่อวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของคนขับรถ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
“รถไถ” โผล่แจมร่วมสงกรานต์
บรรยากาศการเล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ 2558 วันที่ 15 เม.ย. อันเป็นวันสุดท้ายยังคงคึกคัก เช่นที่บริเวณถนนสีลม กทม. มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นสาดน้ำเป็นจำนวนมากตั้งแต่เวลา 12.00 น. ส่วนใหญ่มีการนำปืนฉีดน้ำติดตัวมาด้วย ซึ่ง กทม. จะปิดพื้นที่ตั้งแต่แยกศาลาแดงไปจนถึงแยกนราธิวาสราชนครินทร์ ในเวลา 12.00-21.00 น. จากนั้นจะมีการทำความสะอาดถนนสีลมในเวลา 24.00 น. โดยระดมเจ้าหน้าที่ของ กทม. ใน 10 เขต ใกล้เคียงมาร่วมกัน เพื่อให้พร้อมใช้งานถนนสีลม ในวันทำงานปกติ 16 เม.ย.นี้
เช่นเดียวกับบรรยากาศในจังหวัดต่างๆ เช่นที่ จ.ขอนแก่น บริเวณถนนข้าวเหนียว จะยังคงปิดถนนตั้งแต่เวลา 12.00-24.00 น. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งข้อมูลรวมของเทศบาลนครขอนแก่นพบว่า มีนักท่องเที่ยวมากถึงวันละ กว่าแสนคน โดยเฉพาะในช่วงของการทำคลื่นมนุษย์ใต้อุโมงค์น้ำระยะทางกว่า 1 กม. มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากถึงกว่า 60,000 คน
ด้าน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี มีประชาชนออกมาเล่นสาดน้ำกันอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเฉพาะที่เป็นสีสันของที่นี่คือการขับรถไถนาต่อกระบะพ่วงท้ายมาร่วมเล่นด้วย เพราะประชาชนในพื้นที่ อ.บ้านหมี่ส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ทำให้เกือบทุกบ้านมีรถไถนา จึงได้นำรถไถบรรทุกคนออกมาเล่นสงกรานต์ ถือเป็นสีสันเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร
สงกรานต์พัทยาฝรั่งเปลือยกายเต้น
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนว่า ขณะที่ขับขี่รถผ่านไป ซอย 6 ถนนเลียบชายหาดพัทยา หรือ ซอยยศศักดิ์ พบนักท่องท่องเที่ยวพากันจับกลุ่มมุงดูหญิงสาวชาวต่างชาติ สวมชุดนุ่งน้อยห่มน้อยยืนเต้นท่าทางยั่วยวน พร้อมทั้งถอดชุดชั้นในโชว์หน้าอก ลักษณะคล้ายคนเมาสุรา จึงบันทึกเป็นคลิปวีดีโอก่อนนำมาเป็นข้อมูลให้ผู้สื่อข่าว
ตรวจสอบเป็นคลิปวีดีโอความยาวประมาณ 30 วินาที ที่บันทึกภาพนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติ คล้ายชาวยุโรป สวมใส่ชุดชั้นในแบบวาบหวิวสีชมพู ยืนเต้นยั่วยวนตามจังหวะดนตรีก่อนจะปลดเสื้อชั้นในโชว์หน้าอกท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่สนุกกับการเล่นน้ำสงกรานต์กันอยู่ โดยหญิงสาวดังกล่าวไม่มีการอับอาย ทั้งนี้พื้นที่เมืองพัทยาได้วางมาตรการคุมเข้มปัญหาการแสดงอนาจารมาโดยตลอด แต่ก็ไม่วายมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ดุสิตโพลเผยสงกรานต์ปีนี้ดีขึ้น
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เปรียบเทียบ “สงกรานต์” ปี 2557 กับ ปี 2558 มีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,058 คน ระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน 2558 สรุปผลได้ ดังนี้ 1.เมื่อเปรียบเทียบระหว่างสงกรานต์ปีนี้ (2558) กับสงกรานต์ปีที่ผ่านมา (2557) ประชาชนคิดว่าเป็นอย่างไร?
อันดับ 1 ร้อยละ 61.54 ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว เพราะบ้านเมืองสงบ ภาครัฐมีมาตรการป้องกันควบคุมที่ดี เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น คนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ ฯลฯ อันดับ 2 ร้อยละ 20.19 แย่ลงกว่าปีที่แล้ว เพราะ เศรษฐกิจยังไม่ดี ของแพง ไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย มีข้อจำกัดข้อห้ามเยอะ นักท่องเที่ยวลดลง ฯลฯ อันดับ 3 ร้อยละ 18.27 เหมือนเดิม เพราะยังมีการทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุจากสุรา ขับรถประมาท รถติด การแต่งกาย การเล่นน้ำไม่สุภาพ ฯลฯ
2. “ข้อดี” ของสงกรานต์ ปี 2558 อันดับ 1 ร้อยละ 86.18 ตอบว่าได้หยุดพักผ่อน ได้กลับบ้านอยู่กับครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกัน อันดับ 2 ร้อยละ 79.03 ตอบว่าบรรยากาศในบ้านเมืองเป็นไปด้วยดี คึกคัก คนไทยได้สนุกสนาน รื่นเริง อันดับ 3 ร้อยละ 78.29 ตอบว่าเป็นการอนุรักษ์ สืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยให้อยู่ต่อไป
3. “ข้อเสีย” ของสงกรานต์ ปี 2558 ตามความคิดเห็นของประชาชน คือ อันดับ 1 ร้อยละ 82.47 เศรษฐกิจไม่ดี ของแพง พ่อค้าแม่ค้าฉกฉวยโอกาสขึ้นราคา ไม่มีเงินใช้จ่าย อันดับ 2 ร้อยละ 80.63 การดื่มของมึนเมาจนขาดสติ ทำให้ทะเลาะวิวาท เกิดอุบัติเหตุตามท้องถนน อันดับ 3 ร้อยละ 63.20 สภาพอากาศแปรปรวน อากาศร้อนจัดและฝนตกหนักในบางพื้นที่ทำให้เล่นน้ำไม่สนุก
และ 4.ประชาชนคาดหวังหรืออยากเห็นสงกรานต์ในปีต่อไป (ปี 2559) เป็นอย่างไร? อันดับ 1 ร้อยละ 85.09 เป็นสงกรานต์ที่สนุกและปลอดภัย อุบัติเหตุลดน้อยลง อันดับ 2 ร้อยละ 84.75 เศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนมีเงินใช้จ่าย สถานะทางการเงินดีขึ้น อันดับ 3 ร้อยละ 80.33 บ้านเมืองสงบสุข คนไทยรักและสามัคคีกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี