24 เม.ย.58 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล หัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดตรวจสอบเส้นทางการเงินคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เปิดภายหลังผลการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดี นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตฯ ว่าตนได้รับคำชี้แจง นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย เพื่อขอให้นำตัวพระธัมมชโย เข้าให้ปากคำในฐานะพยานที่มีชื่อรับเช็คจากนายศุภชัย ว่า ในวันพรุ่งนี้ (25 เม.ย) ทางทนายจะประชุมหารือที่วัดพระธรรมกาย เพื่อกำหนดวันเวลาเข้าพบพนักงานสอบสวน และจะแจ้งวันเวลาให้พนักงานสอบทราบ
สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนคดียักยอกทรัพย์มูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท ที่พนักงานสอบสวนชุดเดิม เคยมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย นายศุภชัย ศรีศุภอักษร น.ส.สรันยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการฝ่ายการเงิน นายลภัส โสมคำ อดีตกรรมการสหกรณ์ฯ และนายกฤษฎา มีบุญมาก อดีตหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อของสหกรณ์คลองจั่นฯ ไปแล้วนั้น แต่จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนชุดใหม่พบว่า พนักงานสอบสวนชุดเดิมยังแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาไม่ครบขาดไป 2 ราย จึงมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาเพิ่ม คือ นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ และนายจิรเดช วรเพียรกุล อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ดังนั้น ดีเอสไอจะเรียกผู้ต้องหาทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหา และนำตัวส่งให้อัยการสั่งฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลต้นเดือน พ.ค.นี้ โดยการฟ้องครั้งนี้จะฟ้องเรียงกระทงตามจำนวนเช็คที่มีการรับจ่ายออกไปจากสหกรณ์ เพื่อให้เห็นถึงพฤติการณ์การกระทำความผิดที่มีความเชื่อมโยงกัน
ด้าน พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 หัวหน้าชุดสอบสวนคดียักยอกทรัพย์และฟอกเงิน กล่าวว่า จากการตรวจสอบสัญญากู้เงิน 13,000 บาทให้กับนิติบุคคล 27 แห่ง รวม 33 สัญญา พบว่ามีสัญญากู้แบ่งเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย สัญญาเงินกู้ปลอม แต่เบิกเงินจริง , สัญญาปลอมที่ไม่มีการเบิกเงิน , สัญญาปลอมที่ทำขึ้นเพื่อกลบหนี้ทางบัญชี และสัญญาที่มีการกู้ยืมจริงและมีการเบิกเงินจริง อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ ได้อนุมัติให้คดีฟอกเงินจากการยักยอกทรัพย์สหกรณ์ฯเป็นคดีพิเศษ ทำให้ดีเอสไอมีอำนาจสอบสวนคดีฟอกเงินในส่วนของนายศุภชัย และนายสถาพร วัฒนาศิรินุกูล ซึ่งจะทยอยเรียกพยานเข้าให้ปากคำต้นเดือน พ.ค.เช่นกัน
ส่วนการเข้าแจ้งข้อกล่าวหานายศุภชัย ในคดีลักทรัพย์ 27 ล้านบาท ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นั้น พ.ต.ท.สมบรูณ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะฟ้องให้เรียงกระทงลงโทษเป็น 8 กรรม สืบเนื่องจากการนำเงินสดออกจากสหกรณ์ฯ 8 ครั้ง เบื้องต้นนายศุภชัย ได้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมในคดีดังกล่าว โดยอ้างว่ามีการตกลงขอหักหนี้ 27 ล้านบาท ออกจากวงเงินจำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนจะแนบคำร้องทุกข์ของนายศุภชัย ให้พนักงานอัยการพิจารณาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี