ศูนย์วิทยุ สภ.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ริมถนนบ้าน กม.32 ม.2 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อเที่ยง วันที่ 25 เมษายน จึงรายงาน พ.ต.ท.สำราญ มากจันทร์ สวญ.สภ.อัยเยอร์เวง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ร้อย ตชด.445 เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลุมที่เกิดจากแรงระเบิดกว้างประมาณ 2 เมตร ลึกประมาณ 1 เมตร จากการตรวจสอบอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบเศษสะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดขนาด 1 เซนติเมตร ตกอยู่จำนวนมาก รวมทั้งเศษถังแก๊ส เศษวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และถ่านวิทยุสื่อสาร กระจายเกลื่อนใกล้จุดเกิดเหตุ จึงได้รวบรวมนำไปส่งตรวจดีเอ็นเอขณะที่ผู้บาดเจ็บจำนวน 6 รายประกอบด้วย 1.ร.ต.ท.ภัทชนินทร์ นิบูร์ รอง.สวป.2.จ.ส.ต.ทวีศักดิ์ มงคล3.ส.ต.อ.เกีรติศักดิ์ มะลาไสย์ 4.ส.ต.ต กอบศักดิ์ ทันประจำสินธิ์ 5.ส.ต.ต.ศักดิ์ดา ลูดิง ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่สังกัด สภ.อัยเยอร์เวง และ 6.น.ส.อารีนา แวอุเซ็ง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/15 หมู่ที่ 2 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ขณะขับขี่จักรยานยนต์ผ่านจุดเกิดเหตุ ทั้งหมดมีอาการหูอื้อ บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนตัวรถยนต์ มีร่องรอยพรุนไปด้วยสะเก็ดระเบิดเสียหายทั้งคัน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สน้ำหนักประมาณ 5 กก. ส่วนการจุดชนวนอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายจำนวนมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ซึ่งเป็นแนวร่วมกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบได้นำระเบิดมาฝังตรงจุดเกิดเหตุเพื่อหวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวณเส้นทางดังกล่าวทุกวันในช่วงเช้า
ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงได้แจ้งเตือนว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรงเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ จ.ยะลา หลังปรากฏความเคลื่อนไหวของ แกนนำระดับ ผบ.ร้อย ได้ สั่งการสมาชิกทุกพื้นที่ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จัดหาถังแกลลอนเพื่อใช้ในการเก็บอาวุธปืนสงคราม และเตรียมก่อเหตุซุ่มโจมตีด้วยระเบิดแสวงเครื่อง ยิงซ้ำเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเส้นทาง รปภ.ครู ลอบยิงราษฎรที่ไม่ให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรง
วันเดียวกัน12.00 น. สภ.ธารโต รับแจ้งเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ EOD ซึ่งเป็นชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา (ชป.ศรชัย) ขณะที่จะเข้าตรวจสอบเหตุ ลอบวางระเบิดใน พื้นที่.สภ.อัยเยอร์เวง ในเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิด บริเวณหน้าถ้ำฤาษี เส้นทางสายหลักที่ 410 เขตรอยต่อระหว่าง บ.ธารโต ม.1 - บ.หน้าเกษตร ม.2 ต. ธารโต อ.ธารโต
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในพื้นที่ จ.นราธิวาส กองกำลังทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส.ได้ตั้งด่านตรวจเข้มบนถนนทุกเส้นทางสายหลัก สายรองทั้งขา เข้า-ออก โดยเฉพาะบนถนนเพชรเกษมขาเข้า อ.เมือง ทหาร และ อส.ได้ทำการตรวจเข้มรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยเน้นตัวบุคลที่สัญจร ตรวจบัตรประชาชน หนังสือเดินทางกรณีจะเดินทางข้ามพรมแดน รวมทั้งตรวจสอบประวัติบุคลต้องสงสัยที่มีหมาย พ.ร.ก.หรือหลบหนีคดีความมั่นคงต่างๆที่อาจจะแฝงตัวเข้ามาในพื้นที่เพื่อเตรียมก่อเหตุความไม่สงบเชิงสัญลักษณ์ กรณีครบรอบปีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่วิสามัญกลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบตายหมู่ในมัสยิดกรือเซ๊ะ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.ตันหยงลูโล๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2547 ที่ผ่านมา
ส่วน อ.เมือง จ.นราธิวาส มีถนนสายหลักที่เจ้าหน้าที่ตั้งด่านถาวร 4 จุด คือ 1.ด่านตรวจบ้านปลักปลา ถนนสายเพชรเกษมขาเข้า 2.ด่านตรวจริมน้ำ ถนนสายเมือง – ตากใบ 3.ด่านตรวจบ้านยะกัง ถนนสายเมือง – ระแงะ และ 4.ด่านตรวจโรงไฟฟ้าเก่า ถนนสายชายทะเล ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิทักษ์เมือง จะมีการตั้งด่านลอยด้วยรถยนต์เคลื่อนที่เร็ว ออกตระเวรตั้งด่านบนถนนสายรอง ตรวจซอกซอยที่เป็นเส้นทางหลบเลี่ยง เพื่อสกัดการหลบหนี โดยมีกำลังอาสาสมัครภาพประชาชนเข้าร่วม และจะประจำในเขตเทศบาลเมืองเป็นหลัก ส่วนในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ให้ระดับผู้กำกับ สภ.ต่างๆเป็นผู้วางมาตรการณ์ในการ รปภ.เส้นทาง หรือจุดเสี่ยง เพื่อนป้องกันเหตุร้ายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นในห่วงนี้ โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ดูแลความปลอดภัยของประชาชน ย่านเศรษฐกิจ แหล่งชุมชนหนาแน่นเป็นหลัก เพื่อจำกัดเสรีภาพความเคลื่อนไหนของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ต้องการใช้พื้นที่ จ.นราธิวาส เป็นพื้นที่ก่อกวนเชิงสัญลักษณ์.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี