เมื่อวันที่ 26 เมษายน นายชำนาญ กลิ่นจันทร์ ปฏิรูปที่ดินจ.นครราชสีมา (ส.ป.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดินบ้านพักพิธีกรดังโครงการมูนแดนซ์และคีรีมายาว่า ฝ่ายความมั่นคงได้ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดแล้ว ที่มีสค.1 และนส.3 ก.ว่ามีที่มาอย่างไร เพราะเป็นการออก นส.3 ก.โดยการเดินสำรวจ ก็เป็นหน้าที่ของกรมที่ดินและสำนักงานที่ดินจังหวัด หน่วยงานที่ออกเอกสาร สค.1 และนส.3 ก.ต้องตรวจเอกสารสิทธิ์ ในส่วนสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) รอการตรวจสอบที่มาของโฉนดออกโดยชอบหรือไม่ เพราะทั้งโครงการมูนแดนซ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ประกาศเขต ส.ป.ก. ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตรวจสอบสอบที่มาของที่ดินทั้งหมด
ส่วนกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าของสนามแข่งรถโบนันซ่า สปีดเวย์นั้น นายชำนาญกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกเจ้าของและผู้บริหาร มาสอบสวนเพื่อรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องศาลขับไล่รื้อถอน ยืนยันว่าไม่มีการล่าช้าแต่อย่างใด เพราะเมื่อเป็นคดีที่ต้องเข้าสู่กระบวนการศาล หลังตรวจพบการบุกรุกพื้นที่และเรียกผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง ข้อกล่าวหาที่ผู้ถือครองผิดกฏหมายหลายส่วนมีทั้งเอกสาร นส.3 ก.มีทั้งครอบครองมือเปล่าในที่ป่า และบุกรุกพื้นที่ส.ป.ก. กรณีโบนันซ่าจะเป็นโมเดลให้พื้นที่อื่นที่มีการบุกรุกพื้นที่รัฐลักษณะเดียวกันจำนวนมาก
“กรณีสนามแข่งรถโบนันซ่า จะเป็นโมเดลแก้ปัญหาที่ดินรัฐถูกครอบครองโดยผิดกฏหมายมานาน ต้องทำสำนวนส่งอัยการฟ้องศาล อาจใช้ระยะเวลา เพราะกฏหมาย ส.ป.ก.ไม่รุนแรงเหมือนป่าไม้ที่ปักป้ายเป็นพื้นที่ป่าไม้และสามารถรื้อถอนได้ทันที ส่วนจะให้ดำเนินการเร่งรัดอย่างไรต้องขึ้นกับฝ่ายนโยบาย จะแก้ปัญหาชัดเจนให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศอย่างไร ในส่วนการตรวจสอบพื้นที่ของส.ป.ก. มีระบบรายงานผลต่อส.ป.ก.ส่วนกลางทุก15 วัน เพราะจริงๆส.ป.ก.ตรวจพื้นที่ส.ป.ก.ที่มีปัญหาการบุกรุกทั้งหมดทั่วประเทศอยู่แล้ว และในส่วนที่มีการร้องเรียนจากประชาชน ส.ป.ก.ไปร่วมทีมกับฝ่ายมั่นคงในขณะนี้ ส.ป.ก.ได้ฟ้องร้องเพิกถอนพื้นที่รีสอร์ท โรงแรมวังน้ำเขียว อยู่ 30-40 แห่ง มาต่อเนื่องจากปี 2554-2555 ตอนนี้อยู่ขั้นตอนบังคับคดี ส.ป.ก.เราทำหน้าที่ของเรามาตลอด”นายชำนาญ กล่าว
วันเดียวกัน นายวิโรจน์ โรจนจินดา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน และนายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน 20 นาย เข้าตรวจยึดบ้านพักตากอากาศที่กำลังก่อสร้างใหม่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน บ้านคลองไทร หมู่ 9 ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
ตรวจสอบเบื้องต้น พบเป็นบ้านพักตากอากาศขนาดใหญ่ 2 หลัง สร้างบนเนื้อที่ 9 ไร่ 3งาน 48 ตารางวา มูลค่าการก่อสร้างกว่า 3 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างมาประมาณ 5 เดือนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไม่พบเจ้าของและคนงานก่อสร้าง คาดว่าคนงานน่าจะไหวตัวหลบหนีออกไปก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึง หลังเข้าตรวจยึดเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.วังน้ำเขียว ให้ดำเนินคดีเจ้าของบ้านข้อหาแผ้วถางป่า มาตรา 54 และ55 ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2584 ข้อหาก่นสร้าง แผ้วถางป่า มาตรา 16 ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และฐานกระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 14 ตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าบ้านหลังนี้เป็นของวิศวกรหน่วยงานแห่งหนึ่งในกทม. โดยซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้านที่ใช้พื้นที่อยู่เดิม ถือเป็นการครอบครองพื้นที่ผิดเงื่อนไข เนื่องจากพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน พนักงานสอบสวนจะได้ติดตามตัวเจ้าของบ้านมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินคดีกลุ่มผู้บุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน นั้น จนถึงวันนี้มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 445 คดี และ คดีใหม่วันนี้อีก 1 คดี รวมเป็น 446 คดี มีการรื้อถอนกรณีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังและยางพาราไปแล้ว 63 คดี ส่วนรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ รื้อถอนไปแล้วเกือบ 50 คดี ซึ่งล้วนเป็นคดีที่สิ้นสุดแล้ว และส่วนคดีที่เหลือบางส่วนอยู่ขั้นตอนของพนักงานสอบสวนและส่วนหนึ่งอยู่ขั้นตอนของศาลปกครอง ทางอุทยานฯต้องไปติดป้ายประกาศตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ เพื่อดำเนินการรื้อถอน ต่อไป
สำหรับคดีรีสอร์ท ทะเลหมอก บุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นรายใหญ่นั้น ทราบว่าล่าสุดได้ยื่นศาลเพื่อขอรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ ซึ่งวันที่ 27 เมษายน ศาลจะพิจารณาชี้ขาดว่าจะได้รับเรื่องดังกล่าวหรือไม่อย่างไร วันเดียวกันนี้ ตนนำทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ไม่พบการก่อสร้างเพิ่มเติม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี