6 พ.ค.58 พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียมจากศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศเนปาล เพื่อติดตามสถานการณ์และปฏิบัติการของชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เนื่องจากนายกฯ ติดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ได้รายงานว่า รัฐบาลเนปาลประกาศยุติการปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยผู้รอดชีวิตแล้ว เพราะคาดว่าโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตคงมีน้อยมาก แล้วเริ่มปฏิบัติการบรรเทาภัยพิบัติแทน
รัฐบาลเนปาล ได้แจ้งแนวทางการถอนกำลังทหารต่างชาติออกจากเนปาล ดังนี้ ให้หน่วยแพทย์ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 10 พ.ค. , ให้หน่วยกำลังทหารต่างชาติยุติการปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 15 พ.ค.ยกเว้นหน่วยบินจะยังคงปฏิบัติภารกิจต่อไป และเมื่อภารกิจในเนปาลเปลี่ยนแปลงจากค้นหาและกู้ภัยเป็นการบรรเทาภับพิบัติ ความช่วยเหลือจากประเทศจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม และเจตนารมณ์ของรัฐบาลเนปาลด้วย โดยกระทรวงการต่างประเทศจะจัดประชุมทุกส่วนราชการอีกครั้งในวันที่ 8 พ.ค.นี้ เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการของทีมไทยแลนด์ รวมทั้งพิจารณาเรื่องการจัดส่งความช่วยเหลือเพื่อการบรรเทาภัยพิบัติ ให้แก่เนปาลอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าประเทศไทยจะยืนหยัดให้การช่วยเหลือตามหลักการแห่งมนุษยธรรมในเนปาลจนถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวเลขความสูญเสียอย่างเป็นทางการ ที่ประกาศโดยทางการเนปาล ประกอบด้วย ผู้เสียชีวิต 7,276 ราย ผู้บาดเจ็บ 14,362 ราย บ้านเรือนถูกทำลายทั้งหลัง 200,552 หลัง ได้รับความเสียหายบางส่วน 186,285 หลัง ซึ่งขณะนี้การใช้จ่ายงบประมาณเพื่อช่วยเหลือชาวเนปาล เป็นการใช้เงินงบประมาณที่ ครม.อนุมัติจำนวน 100 ล้านบาทก่อน ซึ่งถูกเบิกจ่าย และสำรองจ่ายไปจำนวนมากพอสมควรแล้ว ในส่วนการใช้จ่ายเงินจากบัญชีบริจาค "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล" ที่สำนักปลักสำนักนายกรัฐมนตรีได้เปิดรับจากประชาชนคนไทยและบริษัทห้างร้าน ซึ่งมียอดจนถึงขณะนี้ 100 ล้านเศษ ที่ประชุมมีการวางแนวทางว่า จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และส่งถึงพี่น้องชาวเนปาลอย่างตรงความต้องการมากที่สุด
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ จำนวนเงินนี้นอกจากจะใช้เพื่อการช่วยเหลือด้านการดำรงชีวิตและบรรเทาทุกข์แล้ว มีความเป็นได้ที่จะใช้เงินส่วนนี้ ร่วมสมทบในกองทุนบูรณะและฟื้นฟูโบราณสถาน Reconstruction and Rehabilitation Fund (RRF) ซึ่งรัฐบาลเนปาลกำลังดำเนินการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ โดยเบื้องต้นทราบว่า ต้องการเงินประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และรัฐเนปาลได้อนุมัติงบประมาณเป็นทุนจัดตั้งจำนวน 200 ล้านเหรียญ เนื่องจากโบราณสถานในประเทศ รวมทั้งมรดกโลกถูกทำลายเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้จำนวนไม่น้อย
"เชื่อเหลือเกินว่าคนไทยซึ่งเป็นชนชาติที่ร่ำรวยวัฒนธรรม และให้ความสำคัญกับการรักษาศิลปะและอารยธรรม รวมทั้งโบราณสถานและโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า จะยินดีร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูมรดกโลกในเนปาลครั้งนี้" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี