รวบสองหนุ่มวิ่งราวทรัพย์หนีลอยนวล1 อ้างรายได้ไม่พอใช้
วันพฤหัสบดี ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558, 14.44 น.
Tag :
28 พ.ค. 58 เวลา 12.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผกก.สน.จักรวรรดิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.จักรวรรดิ แถลงผลการจับกุมนายศรราม หรือโจ ภูพลผัน อายุ 22 ปี และนายกิตตินันท์ หรืออาร์ม เรืองทรัพย์คณา อายุ 19 ปี พร้อมของกลาง รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 กก 6030 กทม. รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กก 3296 กทม. หมวกกันน๊อคแบบครึ่งใบสีดำ สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท และเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันเกิดเหตุ จับกุมได้ที่หน้าศูนย์การค้าพาราเดียม ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 27 พ.ค. โดยแจ้งข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป
พ.ต.อ.ภพธร กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 15.27 น. วันที่ 21 พ.ค. ขณะที่นายเอกพล เรือนราน อายุ 36 ปี ผู้เสียหาย ได้นั่งอยู่บนรถสามล้อรับจ้างจากบริเวณโบ๊เบ๊ จนกระทั่งถึงบริเวณถนนราชวงศ์ เมื่อได้จังหวะรถติดไฟแดง คนร้ายซึ่งขับขี่รถจยย.ตามมากัน 2 คัน มีนายศรราม เป็นผู้ขับขี่คันแรกมีนายนรากร หรือมาร์ค หรัญรัตน์ ซ้อนท้าย ได้เข้าประกบด้านหลัง แล้วทำการกระชากสร้อยคอของนายเอกพล โดยมีนายกิตตินันท์ ซึ่งขับขี่รถคันที่ 2 ทำหน้าที่คอยคุ้มกัน ก่อนจะพากันหลบหนีไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุชื่อนายศรราม ภูพลผัน จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ ต่อมาวันที่ 27 พ.ค. เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบนายศรราม อยู่ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าพาราเดียม ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. จึงแสดงตัวเพื่อจับกุมก่อนนำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักก็พบของกลางดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลจับกุมนายกิตตินันท์ ส่วนนายนรากร อยู่ระหว่างหลบหนี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การรับสารภาพ โดยนายศรรามกล่าวว่า ตนทำงานงานเป็น รปภ.อยู่ที่ศูนย์การค้าดังกล่าว ส่วนรถที่ใช้ก่อเหตุเป็นของตนเอง โดยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง ในท้องที่ สน.พญาไท 1 ครั้ง ท้องที่ สน.จักรวรรดิ 2 ครั้ง ส่วนสาเหตุที่ทำไปเพราะต้องการเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเนื่องจากรายได้ไม่พอใช้จ่าย