23 มิ.ย.58 นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ทางสำนักพระราชวัง ได้แจ้งมายังกระทรวงเกษตรฯ ว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ในขณะนี้อยู่ในขั้นวิฤกตหนักแล้ว โดยให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร น้อมนำแนวทางการทำฝนหลวงพระราชทาน ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานเทคนิคฝนหลวงพิเศษ ในช่วงเกิดภัยแล้งที่ผ่านมานำมาใช้อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะให้ตกในพื้นที่จำเป็นที่สุดก่อน ที่ต้องอาศัยจังหวะสภาพอากาศเหมาะสม ขึ้นระดมทำฝนหลวงให้ตกในพื้นที่เขื่อนทั้ง 2 แห่ง อย่างเร่งด่วน
"ทางสำนักพระราชวัง ยังได้กำชับถึงสถานการณ์น้ำเขื่อนวิฤกติแล้ว ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วงประชาชนมาโดยตลอด จึงให้ยึดแนวทางที่พระองค์ทรงพระราชทานในการแก้ไขวิฤกตการณ์ทุกครั้ง และสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และเกษตรกร ให้ผ่านพ้นไปได้ทุกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้กรมฝนหลวงฯ ควรปรับแก้การทำฝนหลวง โดยน้อมนำไปใช้อย่างจริงจัง ให้ย้ายฐานที่กระจัดกระจายไปถึง 13 หน่วย มาปฏิบัติการฝนหลวง ระดมทำในพื้นที่จำเป็นเร่งด่วนก่อน เพราะขณะนี้มีร่องมรสุมเข้ามา และมีความกดอากาศต่ำ ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นเพียงพอสามารถทำฝนหลวงได้ผล โดยใช้เทคนิคพระราขทาน เช่น "ซุปเปอร์แซนวิส" ที่จะทำจุดให้ฝนตกได้ในจุดหลักก่อน การนำฐานฝนหลวงไปกระจัดกระจายตามที่ต่างๆ อาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะไม่มีความขื้นเพียงพอก็ไม่สามารถขึ้นปฏิบัติการได้ ต้องนำกลับมาวางเฉพาะพื้นที่จำเป็น เพื่อช่วงชิงสภาพอากาศที่มีร่องมรสุมเข้ามา และทำให้พื้นที่วิฤกตจริงๆ ก่อน" นายชวลิต กล่าว
ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) ตนพร้อมกรมฝนหลวงฯ และทีมนักวิทยาศาสตร์ของกรมที่มีทั้งหมด ไปตรวจสอบสภาพปัญหาน้ำในเขื่อน 2 แห่ง และประชุมทันที เพื่อวางแผนการทำฝนหลวง ตามแนวทางพระราชของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เพื่อระดมทีมทำฝนหลวงทั้งหมดที่มีอยู่ ทำฝนหลวงเติมน้ำในเขื่อนทั้ง 2 ที่วิฤกต เพื่อกู้สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นให้อย่างเร่งด่วน รวมทั้งการทำฝนหลวงในพื้นที่ทั้ง 2 เขื่อน จะสามารถช่วยเกษตรกรได้โดยเร็วด้วย
ทั้งนี้ จากการรายงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ที่ดูแล 2 เขื่อน พบว่าน้ำในเขื่อนภูมิพล อยู่ในระดับวิฤกติหนักในรอบ 57 ปีที่ผ่านมา โดยน้ำที่ใช้ในการเกษตรมีค่าเท่ากับศูนย์ ไม่สามารถจะปล่อยน้ำกับเกษตรกรได้อีกแล้ว ในขณะที่สถานการณ์น้ำในเขื่อนสิริกิติ์ อยู่ในขั้นวิฤกตสุดในรอบ 40 ปี โดยมีน้ำในขณะนี้เพียง 500 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น ซึ่งจะให้น้ำเพื่อการเกษตรเหลืออีก 200 ล้าน ลบ.ม.
นอกจากนี้ นายชวลิต กล่าวอีกว่า ในส่วนแผนการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ชะลอปลูกข้าวนาปี 4 ล้านไร่ ในขณะนี้ ได้ระดมเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไปสำรวจพื้นที่เพื่อวางแผนและประเมินสถานการณ์ สรุปตัวเลขการใช้งบประมาณ เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยให้พื้นที่เร่งสรุปข้อมูลที่ไปสำรวจความต้องการจากชาวนามายังกระทรวง ภายในวันที่ 26 มิ.ย.เป็นวันสุดท้าย พร้อมกับได้ขอกำลังจากมหาดไทย และฝ่ายทหาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ช่วยชี้แจงทำความเจ้าใจไม่ให้เกิดศึกแย่งชิงน้ำ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ร่วมพิจารณากับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขุดเจาะบ่อบาดาล สรุปว่ามีพื้นเหมาะสมขุดเจาะได้ทันที 269 จุด โดยขณะนี้ทางหน่วยงานในพื้นที่พร้อมลงมือปฏิบัติเพื่อให้ชาวนาใช้น้ำได้ในช่วง เพื่อแก้ปัญหาความเดือนร้อนในพื้นที่เกษตร ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเกษตรกรมาก ให้เร่งสรุปความต้องการของเกษตรกรอยากให้ช่วยเหลือ เบื้องต้นพบว่าอยากได้น้ำเป็นสิ่งแรก เพราะต้องการทำนา และถ้าไม่มีน้ำจะมีมาตรการช่วยเหลือเขาอย่าง ไร ก็ยืนยันว่าจะระดมทำฝนหลวงทันที และเร่งสรุปแนวทางช่วยเหลือหลังจากประเมินตัวเลขชัดเจนทั้งหมดภายในสัปดาห์หน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี