นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ขยายเวลาเรื่องการขึ้นทะเบียนเรือใบอนุญาตใช้เรือ ใบอนุญาตการทำประมง หรืออาชญาบัตร และสมุดบันทึกการทำประมง จากเดิมที่สิ้นสุดภายในวันที่ 15 กรกฎาคมจะขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้เท่านั้น นอกจากนี้ยังจะลดขั้นตอนการออกอาชญาบัตร เรือประมงพื้นบ้านขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอสที่ใช้เครื่องมือประมงหลายประเภท ให้ทำการออกอาชญาบัตรเหลือเพียง 1 ใบเท่านั้น ส่วนเครื่องมือที่ติดตั้งตามกฎของ IUU และ เรือที่มีปัญหากว่า 3,000 ลำ ที่จะขอใช้เครื่องมือควบคุม 4 ประเภทก็ไม่สามารถผ่อนผันได้ รัฐบาลจะเร่งหาแนวทางช่วยเหลือด้านอื่นที่เหมาะสมแทน
ด้าน นายจุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า การขึ้นทะเบียนเรือตามการรายงานของกรมเจ้าท่าขณะนี้มี 42,051 ลำ ในจำนวนนี้มีการขอใบอนุญาตการใช้เครื่องมือประมงเพียง 6,615 ลำ เท่านั้น ซึ่งจากการนำร่องการปฏิบัติงานศูนย์ Port in Port out ใน 4 จังหวัด ช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีการรายงานของเรือประมาณ 3,500 ลำ ขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอสขึ้นไป ที่คาดว่าจะเป็นจำนวนเรือที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างชัดเจน
สำหรับ ข้อสงสัยที่คาดว่า จำนวนยังไม่ครบถ้วน เพราะผลสำรวจเบื้องต้นเรือประมงไทยมีมากถึง 5 หมื่นลำ ดังนั้นจึงมีเรืออีกประมาณ 1 หมื่นลำที่ยังไม่เข้ามาจดทะเบียน ซึ่งเป็นผลมาจาก 1.เรือประมงเหล่านั้นไม่ได้ออกหาปลาแล้ว จึงไม่สนใจต่อทะเบียนที่กำหนดให้ดำเนินการปีต่อปี 2.เรือประมงเหล่านั้นใช้เครื่องมือการจับปลาที่ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาต 3.เป็นเรือประมงประเภทขนถ่ายสินค้า และ 4.เป็นเรือประมงที่มีเครื่องมือผิดกฎหมาย เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ผ่อนผันอย่างเต็มที่แล้ว อยากเรียกร้องให้ผู้ประกอบการมาขึ้นทะเบียนให้แล้วเสร็จภายใน 31 กรกฎาคม 2558 นี้ตามที่รัฐบาลกำหนด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี