สหกรณ์ คือ องค์การของบรรดาบุคคล ซึ่งรวมกลุ่มกันโดยสมัครใจในการดำเนินวิสาหกิจที่พวกเขาเป็นเจ้าของร่วมกัน และควบคุมตามหลักประชาธิปไตย เพื่อสนองความต้องการและความหวังร่วมกันทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ทั้งนี้ ความหมายของ “สหกรณ์” ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 หมายความว่า คณะบุคคลซึ่งร่วมกันดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม โดยช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และได้จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 ดังนั้น สหกรณ์จึงตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่แก้ปัญหาในด้านการทำมาหากินที่เหมือน หรือคล้ายๆ กัน หรือความต้องการบริการที่เหมือนกันและเป็นปัญหาที่สมาชิกแต่ละคนไม่สามารถแก้เองได้ตามลำพัง หรือตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินการ ให้สมาชิกได้รับประโยชน์ในการประกอบอาชีพของตนมากกว่าที่แต่ละคนเคยได้จากการดำเนินกิจการเองตามลำพัง
ดังนั้น เพื่อเป็นการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงได้จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็น และทบทวนแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 โดยมีสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ ผู้แทนสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ชุมนุมสหกรณ์ระดับประเทศ และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมได้จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับพระราชบัญญัติสหกรณ์ฉบับใหม่ ที่กำลังดำเนินการปรับปรุงเพิ่มเติมจากพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 เนื่องจากมีการใช้งานมาตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 17 ปี และสถานการณ์ปัจจุบันทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม ธุรกิจ และเทคโนโลยีต่างๆ มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นมาก สหกรณ์จึงจำเป็นที่จะต้องมีการปรับตัวในหลายเรื่อง เช่น การทำธุรกิจของสหกรณ์ จำเป็นต้องมีการพัฒนาให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นและการกำกับดูแลต้องมีความชัดเจน เพื่อให้ทันสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่จะขอความร่วมมือจากขบวนการสหกรณ์ อาทิ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ชุมนุมสหกรณ์ระดับประเทศ ประเภทต่างๆ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ ได้มีการหลอมรวมให้ความคิด ความเห็นเกี่ยวกับพระราชบัญญัติฉบับนี้ เพิ่มเติมแต่งให้พระราชบัญญัติสหกรณ์ฉบับใหม่มีความชัดเจน สามารถนำประโยชน์ไปพัฒนาขบวนการสหกรณ์ และกำกับดูแลให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งจุดหมายปลายทางคือ ประโยชน์ของสมาชิก ความเข้มแข็งสมาชิก การพัฒนาขบวนการสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง และเป็นขบวนการที่มีความสามารถที่จะช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มีความมั่นคง สามารถตอบโจทก์การพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาลได้
“ปัจจุบันทิศทางการพัฒนาของสหกรณ์ทั่วประเทศนั้น เน้นสร้างความเข้มแข็งและให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างสหกรณ์ อีกทั้งการพัฒนาสหกรณ์ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อชุมชนโดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงวิธีการของสหกรณ์ได้มากขึ้น นอกจากนี้จากการสำรวจจำนวนสหกรณ์ของประเทศไทยในปี 2558 พบว่ามีจำนวนสหกรณ์ทั้งหมด 8,173 แห่ง โดยแบ่งเป็น สหกรณ์ที่มีสถานะดำเนินการ จำนวน 6,998 แห่ง และยังไม่เริ่มดำเนินการ จำนวน 167 แห่ง อีกทั้งยังมีสหกรณ์ที่มีสถานะเลิกสหกรณ์ จำนวน 1,008 แห่ง โดยสหกรณ์ที่มีมากที่สุด คือ สหกรณ์การเกษตร มีทั้งหมด 4,428 แห่ง คิดเป็นค่าเฉลี่ย 54.18% และสหกรณ์ที่มีน้อยที่สุด คือ สหกรณ์นิคม มีทั้งสิ้น 96 แห่ง คิดเป็นค่าเฉลี่ย 1.17% สหกรณ์ทั้ง 8,173 แห่งนี้ แบ่งออกเป็นสหกรณ์ 7 ประเภท คือ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ประมง สหกรณ์นิคม สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์ร้านค้า สหกรณ์บริการ และสหกรณ์เครดิตยูเนียน” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
ดร.วิณะโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางการแก้ไขพระราชบัญญัติสหกรณ์ในครั้งนี้ เนื้อหารายละเอียดที่ต้องมีการปรับปรุง อาจจะเป็นเรื่องกระบวนการร่างกฎระเบียบ ข้อบังคับ ตามแนวทางกฎหมาย เช่น วาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ การวางระบบบัญชี การกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสมในกรณีที่สหกรณ์ที่การกระทำทุจริต หรือปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากพระราชบัญญัติฉบับเดิมเน้นเรื่องการส่งเสริมเป็นหลัก เพื่อต้องการส่งเสริมสหกรณ์ให้มีการเจริญเติบโตอย่างกว้างขวาง ฉะนั้น พระราชบัญญัติฉบับใหม่ ขบวนการสหกรณ์ในปัจจุบันที่เห็นภาพมีความชัดเจนพอสมควร จำนวน และรูปแบบค่อนข้างมีความเหมาะสม อาจจะมีการเจริญเติบโตบ้างตามสภาวะเศรษฐกิจ ในส่วนเรื่องของการส่งเสริม และเข้าไปกำกับดูแล จึงต้องมีการทบทวนอีกครั้ง เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กฎหมาย ต้องเกิดจากการยอมรับของทุกฝ่ายจึงจะทำให้การบังคับใช้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งการดำเนินงานจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันตามหลักธรรมาภิบาล และไม่ทำให้สมาชิกเดือดร้อน
สำหรับโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ จะนำเอาผลการประชุมที่ได้มาทั้งหมดรวบรวมและร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ โดยจะนำเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. พิจารณาต่อไป โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ จะเร่งดำเนินการจัดทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เนื่องจากขบวนการสหกรณ์มีความก้าวหน้า มีการพัฒนาที่กว้างขวาง และการกำกับดูแลสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง เรื่องธรรมาภิบาล กระบวนการออกกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และบทลงโทษสหกรณ์ที่มีความจงใจปฏิบัติมิชอบ ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็ง และปฏิบัติดี ก็จะมีกระบวนการที่จะส่งเสริมที่ชัดเจนมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี