26 พ.ย. 58 นายกัมปนาท เพ็ญสุภา รองคณบดีฝ่ายวิจัยและผู้อํานวยการศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ประยุกต์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร ได้สำรวจความคิดเห็นเกษตรกรต่อ 8 มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลในช่วงภัยแล้ง ปี 2558/59 ซึ่งจากสถานการณ์น้ำและมีแนวโน้มวิกฤติปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งได้สอบถามเกษตรกรในพื้นที่ทั้งสิ้น 5 จังหวัด อย่าง สิงห์บุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี ในเดือนพ.ย. นี้โดยมีจำนวน 179 ครัวเรือน
"พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 53.5ปี มีพื้นที่ทำนาเฉลี่ยครัวเรือนละ 36.6 ไร่ เป็นเจ้าของเฉลี่ยครัวเรือนละ 17.2 ไร่ เป็นพื้นที่เช่าเฉลี่ยครัวเรือนละ 28.4 ไร่ และเมื่อสอบถามถึงการทำนาปรังในปีที่ผ่านมานั้น เกษตรกรยังคงทำนาปรังเฉลี่ย 23.4 ไร่ มีประสบการณ์ทำนามาแล้วเฉลี่ย 28.6 ปี โดยในครัวเรือนของเกษตรกรมีผู้ที่สามารถทำการเกษตรโดยเฉลี่ย 1.9 คน จำแนกเป็นพื้นที่การเกษตรขนาดเล็กต่ำกว่า15ไร่ 64 ครัวเรือน ขนาดกลางทำนา15-35 ไร่ 63 ครัวเรือน และขนาดใหญ่ มากกว่า35 ไร่ 52 ครัวเรือน"นายกัมปาท กล่าว
ในด้านรายได้รวมของครัวเรือนเฉลี่ยมีค่าเท่ากับ 333,320 บาท/ปี มีหนี้สินการเกษตรเฉลี่ยครัวเรือนละ 191,994 บาท และ กลุ่มที่ทำนาปรังจะมีรายได้การเกษตรสูงกว่ากลุ่มที่หยุดทำนาปรังเท่ากับ 76,429 บาท/ปี ทั้งนี้ปีที่ผ่านรัฐบาลประกาศให้เกษตรกรงดทำนาปรัง พบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ร้อยละ 83.5 ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ มีเพียงร้อยละ 16.5 ได้รับความช่วยเหลือ รวมทั้งไม่เห็นด้วยที่ทางภาครัฐให้หยุดการทำนาปรังร้อยละ 50.3
นายกัปนาท กล่าวว่า เกษตรกรมีความพึ่งพอใจมาตรการชะลอและขยายระยะเวลาชำระหนี้ มากที่สุดถึง ร้อยละ42.1 เพราะกังวลเรื่องรายได้เมื่อหยุดทำนาปรัง จะไม่มีเงินชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงิน และมาตรการย่อยที่กลุ่มเกษตรกรที่หยุดทำนาปรัง และไม่หยุดทำนาปรัง ต้องการมากที่สุด คือโครงการสร้างรายได้จากพืชทดแทนนาปรัง ร้อยละ54
อีกทั้งมีความสนใจกับโครงการจ้างงานเร่งด่วนและการพัฒนาทักษะฝีมือ ถึงร้อยละ 42.3 และในส่วนกลุ่มทำนาปรังมีความสนใจโครงการจ้างงานในโครงการของกรมชลประทานมากที่สุด ร้อยละ 43.0
ทั้งนี้มีข้อเสนอแนะในมาตรการการจ้างงาน ควรดูให้เหมาะสมเพราะเกษตรกรส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 53.5 ปี และระยะเวลาของโครงการช่วยเหลือ ต้องมีความชัดเจนและสอดคล้องกับฤดูกาล เช่น การขุดแหล่งน้ำบาดาลควรทำก่อนที่จะถึงช่วงฤดูแล้ง เพื่อได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งอาจต้องทำก่อนเดือนก.พ. และมาตรการที่ภาครัฐควรดําเนินการ เร่งพัฒนาศักยภาพเกษตรกร พัฒนาการปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อรองรับผลกระทบจากภัยธรรมชาติมีมาต่อเนื่องที่เสี่ยงขาดทุนมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี