สัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวที่ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นพิเศษ ต้องยอมรับว่าหนีไม่พ้นเรื่องที่รองนายกรัฐมนตรี “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ให้มีการเลื่อนการลงนามสัญญากับทางการจีนทั้งชุด และเลื่อนออกไปโดยสาเหตุดังกล่าวสืบเนื่องมาจากทางไทยเห็นว่า ทางการจีนไม่รับซื้อยางพาราเก่าในสต๊อกตามสัญญา โดยมีการซื้อเฉพาะยางใหม่ เพียง 2 แสนตัน พร้อมกับเปลี่ยนบริษัท ที่จะมาเป็นคู่สัญญาด้วย
มองเผินๆ มันคงไม่มีอะไร แต่ในฐานะที่ติดตามตรวจสอบเรื่องของการค้าขายยางระหว่างไทยกับทางการจีน ตลอด
หลายปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าคู่สัญญาที่ทางรัฐบาลไทยลงนามขายยางนั้น คือบริษัท HAINAN เป็นเพียงบริษัทเอกชนรายหนึ่งของประเทศจีน ซึ่งไม่ใช่ตัวแทนของรัฐบาลกลาง และที่สำคัญไปกว่านั้น การลงนามขายยางให้กับเอกชน ที่องค์การสวนยางลงนามเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2557 โดยมียางพาราทั้งหมด 2 สัญญา ซึ่งในสัญญาแรก เป็นยางพาราในสต๊อก 2.1 แสนตัน ที่ค้างมานานเป็นชาติ และในส่วนที่ 2 ยางพาราใหม่ที่เพิ่งซื้อ อีก 2 แสนตัน ซึ่งอดีตรัฐมนตรี “อำนวย ปะติเส” ที่อ้างหนักหนาว่าเก่งในการแก้ปัญหายางพารา โดยเสนอของบไปซื้อในโครงการมูลภัณฑ์กันชน ซึ่งสุดท้ายชัดเจนว่าไม่ถึงมือเกษตรกรจริง
มาดูกันว่า ยางพาราในสต๊อก 2.1 แสนตัน สัญญาเป็นอย่างไร เอากันให้ชัดเจนว่า เรื่องนี้มีเงื่อนงำในสัญญาชัดเจน แต่ไม่ขอเล่าลงลึก แต่ที่สำคัญ ในสัญญาต้องรับมอบยางพาราในสต๊อก เดือนละไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นตัน แต่ถึงวันนี้ที่สิ้นสุดสัญญามาหลายเดือน ยังขายยางไม่ได้ถึง 3 หมื่นตัน ซึ่งล่าสุด กระทรวงเกษตรฯ ให้ทาง HAINAN เร่งรับยางที่เหลือพร้อมเสียค่าปรับตามสัญญา แต่เมื่อเปรียบเทียบความเสียหายที่เกิดขึ้น วันนี้ต้องยอมรับว่า ไม่คุ้มค่ากับความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นไม่รวมถึง ยางอีก 2 แสนตัน ในโครงการมูลภัณฑ์กันชนที่ยังเป็นเรื่องมืดมนว่าจัดจะการกันอย่างไร
แปลกใจว่า อยู่ๆ ทางรองนายกรัฐมนตรี “สมคิด” ออกมาเอาเรื่องยางพารามาเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดชะลอการลงนามสัญญาออกไประหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน น่าจะมีอะไรที่เป็นเงื่อนงำ เพราะบริษัทของทางการจีน ที่เป็นรายใหม่ เท่าที่ตรวจสอบพบว่า เป็นบริษัทที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลจีนจริง ไม่ใช่บริษัทกำมะลอ ที่ทางไทยเคยลงนามค้าขายยางกันมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 และรับยางไม่ได้ตามสัญญา ส่งผลเสียหายต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
และที่สำคัญต้องยอมรับว่า มนต์ดำ ขบวนการยางพาราที่ครอบงำกระทรวงเกษตรฯ มานานนั้น ณ เวลานี้ในฐานะที่ตรวจสอบขบวนการงาบยางพารามานานต้องขอคารวะว่า เยี่ยมจริงๆ และที่สำคัญครอบงำมาเนิ่นนานหลายรัฐบาล ทำให้ขบวนการแก้ปัญหายางพาราของไทยยังคงหลงทิศหลงทางไปไกล ซึ่งปัญหาทั้งหมดน่าจะเกิดจากข้อมูลที่ผิดเพี้ยนจากมนต์ดำที่ร่ายกันมานานที่สุด หากผู้มีอำนาจรู้จักมองย้อนกันไปคงได้เห็นว่า ในกระทรวงเกษตรฯ น่าจะมีเงาอะไรรางๆ ที่ครอบงำเรื่องยางมานาน จนฉิบหาย และน่าจะสมควรถึงเวลานำพระมาสวดขับไล่เสียที เรื่องของปัญหาราคายางเท่าที่พูดคุยกับคนที่เกี่ยวกับยางพาราจริงๆ ตั้งแต่เกษตรกรจริงๆ จนถึงผู้ประกอบการ ทุกคนพูดตรงกันว่าคงแก้ยาก และสงสารเกษตรกรชาวสวนยางจริงๆที่ต้องเผชิญปัญหาราคายางพาราตกต่ำไปอีกยาวนาน
มาถึงวันนี้ ไม่แปลกใจว่า ปัญหายางพารา ทำไมแก้ปัญหาไม่ได้เสียที เพราะล่าสุด มีข้อมูลว่า เรื่องของขบวนการงาบใน
กลุ่มยางพารา วันนี้ลงลึกไปถึงขั้นมีตังค์ทอนในเรื่องของการประกันภัยยางพาราที่เก็บในสต๊อกที่เช่าเก็บในโกดัง ว่ากันว่าจ่ายกันค่อนข้างเยอะเสียด้วย ยังไงจริงเท็จขนาดไหน จากนี้ไปคงเป็นเรื่องของท่านรัฐมนตรีเกษตรฯ “ฉัตรชัย สาริกัลยะ” และผู้มีอำนาจที่สูงกว่านั้นจะลองตรวจสอบดูบ้างนะขอรับ เผื่อจะได้เดินแก้ปัญหาได้ถูกทาง เกษตรกรชาวสวนยางจะได้ลืมตาอ้าปากได้เสียที สาธุ
ราชดำเนิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี