新正如意 新年发财 ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ....คงยังไม่ช้าไปที่จะขออวยพรอวยชัยในช่วงของเทศกาลตรุษจีนปีนี้ซึ่งตามธรรมเนียมนิยมของคนจีนคำอวยพรส่วนใหญ่ มักจะมุ่งไปที่เรื่องขอให้ร่ำรวย มั่งมีศรีสุข มีความเจริญรุ่งเรือง โชคดี มีโชคลาภ ความอุดมสมบูรณ์ อายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง ฯลฯ ก็ขอส่งต่อพรดีๆเหล่านี้แก่ผู้อ่าน“แนวหน้า”ทุกๆท่านครับ
ในบรรยากาศตรุษจีนแบบนี้ก็ขอเขียนถึงเรื่องเกี่ยวกับ “จีน” สักหน่อยทั้งเรื่อง “คน” และ “ทุน” จากประเทศ“จีน” ที่กำลังมีบทบาทและความสำคัญต่อประเทศไทยอย่างมากทั้งในแง่“บวก”และ“ลบ”
ด้านหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยที่มีปัญหาหนักช่วงหลายปีมานี้ โดยเฉพาะ 2-3 ปีหลังที่เครื่องยนต์เศรษฐกิจสำคัญอย่าง“การส่งออก”เกิดอาการ“เครื่องชำรุด”ตามภาวการณ์ที่ประเทศต่างๆทั่วโลกต่างบาดเจ็บสาหัสกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ...ก็ได้“คน”ที่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนนี่แหละหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยปีละหลายล้านคน ซึ่งล่าสุดว่ากันว่าเกือบ 10 ล้านคนต่อปีแล้ว มาช่วยกันจับจ่าย สร้างรายได้ให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยว กลายเป็นตัวพยุงเศรษฐกิจไทยอย่างสำคัญ
นักท่องเที่ยวจีนนิยมมาเที่ยวเมืองไทยมากเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนเลยทีเดียว ด้วยปัจจัยที่เอื้อในหลายๆ ด้าน ไม่เพียงเพราะไทยมีแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพที่หลากหลายสวยงาม ค่าใช้จ่ายการมาเที่ยวก็ไม่แพง อาหารการกินถูกปากถูกใจโดยเฉพาะผลไม้ไทยรสชาติสดอร่อยขึ้นชื่อ ฯลฯ นอกจากนั้นในเมืองไทยเองก็มีคนจีนอาศัยอยู่จำนวนมาก ทำให้นักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาไม่รู้สึกแปลกแยก ประกอบกับคนไทยที่ทำงานด้านบริการท่องเที่ยวก็มีอัธยาศัยดี เป็นต้น
แต่เพราะการ“บูม”มากของนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเมืองไทยนี่เอง ทำให้“ทุน”จากประเทศจีน ก็แห่ตามเข้ามาหาผลประโยชน์ ด้วยเงินที่“หนากว่า”มาเปิดกิจการทัวร์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากจีนเอง ตลอดจนทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวครบวงจร ทั้งโรงแรม รีสอร์ตอพาตเม้นท์ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯโดยอาศัยคนไทยเป็น “นอมินี”จนมีเสียงโอดครวญจากธุรกิจท่องเที่ยวท้องถิ่นของไทยดังขึ้นเรื่อยๆว่า กำลังถูก“ทุนจีน” เข้ามากินรวบธุรกิจท่องเที่ยวของไทยหมด โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา
ไม่เพียงแต่ธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังถูก“กินรวบ” ตอนนี้มีข่าวว่า การค้าส่งออกผลไม้ไทยไม่ว่าจะเป็นทุเรียน,มังคุด,ลำไย ซึ่งเป็นที่นิยมทานของคนจีนมาก มีความต้องการซื้อสูงในประเทศจีน ก็กำลังถูก“ทุนจีน”บุกเข้ามา“ฮุบ”
โดยในจังหวัดสำคัญที่เป็นแหล่งปลูกผลไม้ เช่น ที่ชุมพร มีข่าวว่า นายทุนจีนรายใหญ่ๆได้เข้ามาเปิดธุรกิจรับซื้อทุเรียน ด้วยการร่วมกับคนไทยในพื้นที่ก่อสร้างโกดังขนาดใหญ่หรือ“ล้ง”ราว 100-200 แห่ง กระจายไปทั่วจังหวัด เพื่อรับซื้อทุเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกโดยตรง สำหรับส่งออกไปจีน โดยไม่ผ่านตลาดกลางผลไม้เหมือนที่ผ่านมา
“ล้ง”ของนายทุนจีนนี้ จะมีการเข้าไปรับซื้อทุเรียนแบบเหมาสวนหลายๆสวนเลยทีเดียว ทำให้พ่อค้าไทยโดยหอการค้าจังหวัดชุมพร ก็เรียกร้องให้รัฐบาลมาดูแลแก้ไข หวั่นจะถูกทุนจีนเข้ามาแย่งอาชีพไปหมด รวมทั้งที่น่าห่วงคือ ถ้าทุนจีนเหล่านี้ยึดตลาดไปหมดต่อไปก็อาจมีการกดราคารับซื้อทุเรียนจากชาวสวนได้ ซึ่งเรื่องนี้ชาวสวนเองก็จี้ให้รัฐบาลช่วยดูแลป้องกันด้วย
เรื่องของ“ทุนจีน”นี้ จึงกำลังกลายเป็นปัญหาที่น่ากลัวไม่น้อย เพราะไม่เพียงแต่เงินที่หนากว่า แต่ที่น่าห่วงคือ เรื่องของการทำธุรกิจที่มี“คุณธรรม”เพียงใดหรือไม่ ถ้าอาศัยความได้เปรียบที่มีอำนาจทุนเหนือกว่า เข้ามา“กลืนกิน” ทำตัวเหมือน“ตั๊กแตน”ทำลายพืชไร่ ก็เลวร้ายยิ่ง
หรือแม้แต่กับผู้นำประเทศของจีนในเวลานี้ แม้จะยังคงนโยบายเป็นมิตรที่ดีกับประเทศไทย แต่เรื่องผลประโยชน์การค้า ก็ดูจะเปลี่ยนแปลงไปมาก ในอดีตรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน เคยใช้นโยบายช่วยเหลือเกื้อกูล เช่น ยอมเสียเปรียบ รับซื้อสินค้าเกษตรจากไทยด้วยดี มายุคนี้ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว
ฉะนั้น เรื่องของ “ทุนจีน”จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องดูแล เฝ้าระวังป้องกันให้ดีเพื่อปกป้องธุรกิจไทยและปกป้องเกษตรกรไทย ด้วย
สาโรช บุญแสง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี