กรณีเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายที่เอาที่ดินของวัดมาใส่ชื่อตนเองในโฉนดที่ดินเป็นผลให้ที่ดินก็ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองอันเป็นความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 252 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ และได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลในข้อหายักยอก แม้ต่อมาได้โอนคืนที่ดินให้แก่วัดและพนักงานอัยการโจทก์ขอถอนฟ้องคดีไปจากศาล แต่ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ที่ครบองค์ประกอบความผิดโดยสมบูรณ์แล้ว ก็ยังคงเป็นความผิดอยู่
ขอถามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า การที่พระภิกษุได้ร่วมประเวณีกับผู้หญิงแม้ไม่ถูกศาลลงโทษในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา พระภิกษุรูปนั้นต้องอาบัติปราชิกและต้องขาดจากความเป็นพระภิกษุหรือไม่ ถ้าพระภิกษุรูปดังกล่าวต้องอาบัติปราชิกและต้องขาดจากความเป็นพระภิกษุ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายก็ต้องอาบัติปราชิกและต้องขาดความเป็นพระภิกษุเช่นเดียวกัน ครับ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : มติมส.'ธัมมชโย'ไม่อาบัติปาราชิก เหตุคดีจบในศาลชั้นต้นแล้ว
.....พระภิกษุรูปหนึ่งข่มขืนกระทำชำเราผู้หญิงคนหนึ่งอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรก ซึ่งมีโทษจำคุกตั้...
Posted by Chuchart Srisaeng on 10 กุมภาพันธ์ 2016
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี