นางณิทฐา แสวงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า จ.ราชบุรี กำหนดจัดประกวดคลิปวีดีโอสร้างสรรค์คุณธรรม หัวข้อ “เด็กไทยรู้เท่าทันสื่อ” เพื่อเพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์ส่งเสริมให้เกิดการสร้างสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ขจัดสื่อร้ายขยายสื่อดี เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาสื่อที่ดีต่อไป
โดยผู้ส่งผลงานนักเรียน นักศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษา ถึงระดับอุดมศึกษา อายุ 12-19 ปี สามารถส่งผลในนามบุคคล หรือเป็นทีม (ทีมละไม่เกิน 3 คน) เกณฑ์การประกวดเนื้อหาคลิป คลิปวีดีโอ มีความยาว 60 วินาที รวมไตเติ้ล (ถ้ามี) ขอบเขตของเนื้อหาในคลิปที่ส่งเข้าประกวดภายใต้หัวข้อ “เด็กไทยรู้เท่าทันสื่อ”จะต้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับการปลุกจิตสำนึกด้านการผลิตสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์การรู้เท่าทันสื่อและเลือกบริโภคสื่ออย่างถูกต้องให้กับเด็กและเยาวชน รวมถึงประชาชน นำไปสู่การร่วมกันป้องกัน แก้ไขปัญหา และสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่สังคมต่อไป
โดยไม่จำกัดเทคนิคในการนำเสนอผลงานชื่อคลิปผลงานขึ้นอยู่กับผู้สมัครเอง โดยต้องมีชื่อและโลโก้ของกระทรวงวัฒนธรรม ในท้ายเครดิต ความละเอียดของไฟล์ผลงานไม่ต่ำกว่า 720 p (1280x720) ประเภทไฟล์ mwmv,mpg,mp4,mov,ftv เงินรางวัลการประกวด รางวัลชนะเลิศ จำนวน 3 รางวัล ทุนการศึกษา รางวัลละ 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และได้รับสิทธิ์ในการส่งเข้าประกวดระดับประเทศ ซึ่งจัดโดยสำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 1 รางวัล ทุนการศึกษา 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 1 รางวัล ทุนการศึกษา 2,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร รางวัลชมเชย จำนวน2 รางวัล ทุนการศึกษารางวัลละ 1,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
ผู้สนใจส่งผลงานด้วยตนเองพร้อมกรอกใบสมัครได้ที่สำนักงานวัฒนธรรม จ.ราชบุรี อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 6 ถนนไกรเพชร อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000 ตั้งแต่วันที่ 5-29 ก.พ. 2559 (หากส่งทางไปรษณีย์พิจารณาจากตราประทับไปรษณีย์เป็นสำคัญภายในวันที่ 23 ก.พ. 2559) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-3232-2786
ต้องยอมรับว่าเวลานี้ประเทศไทยยังมีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ทั้งแง่คุณภาพ โอกาสการเข้าถึงการศึกษาอยู่เป็นจำนวนมาก รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงได้ยกระดับปัญหานี้ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ และมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ วางมาตรการและเร่งดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาด้านต่างๆเพื่อจัดการศึกษาให้ทั่วถึง เท่าเทียม และมีคุณภาพ
โดยหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการเพิ่งสิ้นสุดการดำเนินงานในระยะที่ 2 หรือระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม 2558-23 มกราคม 2559 ซึ่ง พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้นำหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีผลเป็นรูปธรรมในหลายๆด้าน ภายใต้มาตรการประกันโอกาส มาตรการประกันคุณภาพ และมาตรการประกันประสิทธิภาพ ผ่านการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.)
ขณะเดียวกัน สช.ยังได้ดำเนินโครงการติวเตอร์ แนะแนวการศึกษาต่อนักเรียนเอกชน สอนศาสนาอิสลาม ติวเข้มระยะสั้นให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้าน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ก็ได้มีการส่งเสริมการศึกษานอกระบบผ่านทีวีสาธารณะ ขณะที่คุรุสภา ดำเนินการรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ทางด้าน สำนักงานการอุดมศึกษา (สกอ.) ก็ดำเนินโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี เป็นต้น อีกทั้งยังมีการดำเนินโครงการต่างๆควบคู่กันไป อาทิ โครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ การยกระดับคุณภาพศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน “หนึ่งคน หนึ่งอาชีพ” โครงการ “อาชีวะเอกชน สร้างคนสร้างชาติ” ตลอดจนการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะของพล.อ.สุรเชษฐ์ได้ไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 57 จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประเภทอยู่ประจำกินนอน แบบสหศึกษา จัดการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ได้จัดทำและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน โดยความร่วมมือของครู ผู้เรียน ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่น นอกจากนี้ยังได้จัดการเรียนการสอนที่เน้นการฝึกวิชาชีพ การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยลงมือปฏิบัติจริง มีการฝึกทักษะ สามารถพึ่งพาตนเองและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ เป็นไปตามนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ของกระทรวงศึกษาธิการด้วย
“ทุกส่วนราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินโครงการต่างๆเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้เรียนทุกกลุ่มทุกพื้นที่ได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพในรูปแบบที่เหมาะสม เท่าเทียม ส่งผลให้นักเรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ หรือผู้ด้อยโอกาส เข้าถึงการศึกษาและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข” พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี