20 มี.ค.59 เมื่อเวลา 02.30 น. ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนภายในวงเวียนอนุสาวรีย์ทหารกล้า กรมรบพิเศษที่ 1 ค่ายวชิราลงกรณ์ หมู่ที่ 2 ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีทหารเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ร.ต.อ.สุนทร ภูตะวัน ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และรถกู้ชีพลพบุรี เดินทางไปเหลือทันที

โดยในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน วศ 7414 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ใกล้กันบริเวณสวนหย่อมพบร่างผู้บาดเจ็บ 2 ราย อาการสาหัส ทราบชื่อ นายพล เนตรบุญ อายุ 40 ปี อาสาร่วมกตัญญู อีกรายเป็นชายไม่ทราบชื่อ เป็นคนขับรถนิสสัน ส่วนด้านในของวงเวียนยังพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้าแคมรี่สีดำ หมายเลขทะเบียน วภ 7229 กรุงเทพมหานคร เสียหลักพุ่งเข้าไปด้านใน ภายในรถพบคนขับเป็นผู้หญิงมีอาการสะลึมสะลือคล้ายคนเมาสุรา ทราบชื่อ นางสาววิราภรณ์ มุกดา อายุ 43 ปี จึงนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ส่งโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช

นอกจากนี้ยังพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย จากการถูกรถเก๋งชนกระเด็นจนขาเกือบขาด ทราบชื่อ จ่าสิบเอก แก่นแก้ว อ่ำจินดา อายุ 55 ปี ทหารสังกัดค่ายวชิลาลงกรณ์ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวทำหน้าที่เป็นนายทหารเวรประจำกองร้อยประตูหน้า กรมรบพิเศษที่ 1 ค่ายวชิราลงกรณ์ และล่าสุดผู้บาดเจ็บคนขับรถนิสสันได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตรวม 2 ศพ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีเหตุรถยนต์ยี่ห้อนิสสันขับมาทางถนนพระปิยะ แล้วเกิดเสียหลักพุ่งชนวงเวียนก่อนคันแรก ผู้ตายพร้อมด้วยพลทหารที่เข้าเวรรวม 3 คน ได้มาให้ความช่วยเหลืออยู่ และกำลังรอรถมาลากไป ผู้ตายจึงยืนคุยเป็นเพื่อนกับคนขับรถอยู่ ระหว่างนั้นได้มีรถเก๋งคันดังกล่าว ขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งตรงเข้ามาที่กลุ่มคนที่ยืนอยู่ พลทหาร 2 นายเห็นโดดหลบได้ทัน ส่วนผู้ตาย กับคนขับรถนิสสัน ถูกรถเก๋งพุ่งชนอย่างแรงร่างกระเด็นทำให้ จ่าสิบเอกแก่นแก้ว เสียชีวิตทันที

เบื้องต้นทางตำรวจได้ควบคุมตัวนางสาววิราภรณ์ สาวใหญ่คนขับรถเก๋ง หลังจากที่แพทย์ตรวจร่างกายแล้วอนุญาตให้กับได้ นำตัวมาที่โรงพัก เพื่อทำการเป่าวัตแอลกอฮอล์ในร่างกาย แต่เนื่องจากยังมีอาการเจ็บหน้าอก ทำให้ไม่มีแรงเป่าพอ แต่ทางตำรวจยังคงควบคุมตัวเอาไว้ก่อน ทั้งนี้เพื่อจะได้บันทึกจับกุมตามข้อกล่าวหาต่อไป