ศาลสั่งจำคุก14เดือน
คดีหนุ่มยิงหมาตาย
สารภาพรอลงอาญา
ชี้เป็นบทเรียนสังคม
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ห้องพิจารณา 802 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.806/2558 ที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ฟ้องนายวิชา บุญลือลักษณ์ อายุ 33 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์ ฆ่าสัตว์โดยให้ได้รับทุกข์เวทนา ตามพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์พ.ศ.2557 , ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490
โดยอัยการโจทก์ บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2558 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้อาวุธปืน ไม่ทราบชนิด ขนาด ไม่มีหมายเลขทะเบียน และกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกอาวุธดังกล่าวติดตัวไปตามถนนสาธารณะบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าว ก่อนใช้ยิงสุนัขเพศเมีย นังขาวดำ หรือนังซื่อบื้อหลายนัด ขณะจะวิ่งเข้ามากัด จนถึงแก่ความตาย เหตุเกิดบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าวแขวง – เขตวังทองหลาง กทม.
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้แม้จำเลยจะอ้างว่าได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่ก็ไม่ได้นำสืบให้ศาลเห็นว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นกระบอกเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่ จึงเป็นการเบิกความลอยๆ ส่วนที่จำเลยยังอ้างเหตุที่ไม่ได้นำอาวุธปืนส่งพนักงานสอบสวน เพราะเกรงจะถูกขอขมาต่อกลุ่มพิทักษ์สัตว์และทำให้เป็นข่าวดังนั้น ทั้งในชั้นสอบสวน จำเลยก็มีบุคคลใกล้ชิดร่วมเข้าฟังการสอบสวนด้วย ซึ่งจำเลยสามารถที่จะนำอาวุธปืนของกลาง และหลักฐานต่างๆมามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้
แต่จำเลยกลับไม่ได้ดำเนินการใดๆ ข้อต่อสู้ของจำเลยจึงไม่มีน้ำหนัก กรณีจึงฟังได้ว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย การที่จำเลยใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงสุนัขให้ได้รับความทรมาน จึงเป็นความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวกับความผิดฐานยิงอาวุธปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือในที่ชุมชุน
จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯพ.ศ.2490 ,พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ พ.ศ.2557 มาตรา 20 และ 31 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 8 เดือน ปรับ 4,000 บาท ฐานพาอาวุธปืนฯ จำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท ฐานกระทำทารุณกรรมสัตว์ฯ จำคุก 6 เดือน ปรับ 5,000 บาท รวมจำคุก 20 เดือน ปรับ 11 ,000 บาท
แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐานพาอาวุธปืนฯจำคุก 3 เดือน ปรับ 1,000 บาท ฐานกระทำทารุณกรรมสัตว์ฯ จำคุก 3 เดือน ปรับ 2,500 บาท รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 14 เดือน ปรับ 7,500 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี คุมประพฤติเป็นเวลา 1 ปี โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติจำนวน 4 ครั้ง และให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์ 12 ชั่งโมง
ภายหลังนายวิชา กล่าวว่า ยอมรับคำพิพากษาของศาลทุกอย่างและคงไม่อุทธรณ์คดีแล้ว ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เคยถูกสุนัขตัวดังกล่าวไล่กัดขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านหลายครั้ง รวมทั้งคนอื่นๆด้วย และในวันเกิดเหตุก็ถูกสุนัขวิ่งไล่กัดอีกตนจึงทำไปเพราะเกิดความโมโห ตนขอโทษต่อสังคมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพร้อมจะปรับปรุงตัวเองและบำเพ็ญประโยชน์ตามที่ศาลพิพากษา
ด้าน น.ส.ภณิตา สุนทรัตต์ อายุ 47 ปี ผู้เข้าแจ้งความและดูแลสุนัขที่ถูกยิงตาย ซึ่งเดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยเช่นกัน กล่าวว่า พอใจคำพิพากษา ซึ่งก็จะเป็นบทเรียนให้กับสังคม และตลอดเวลา 1 ปีเศษของคดีดังกล่าวตนคิดว่านายวิชาคงได้รับบทเรียน อยากฝากถึงสังคมและคนที่คิดจะทารุณกรรมสัตว์ให้คิดว่าผิดกฎหมาย และการสั่งสอนสัตว์เล็กๆน้อยๆตามสมควรก็คงไม่มีปัญหาแต่หากลงโทษให้สัตว์ถึงแก่ความก็เกินกว่าเหตุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี