พด.เดินหน้าจัดระบบอนุรักษ์ดิน-น้ำ ย้ำช่วยฟื้นฟูสภาพที่ดิน-แก้ปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน

พด.เดินหน้าจัดระบบอนุรักษ์ดิน-น้ำ ย้ำช่วยฟื้นฟูสภาพที่ดิน-แก้ปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน

วันพุธ ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :

นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า จากปัญหาภาวะภัยแล้งในปี 2558 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำต้นทุนที่เก็บกักไว้ใน 33 เขื่อนหลัก และอ่างเก็บน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ สร้างความเดือดร้อนต่อเกษตรกรในวงกว้าง และจากการสำรวจของศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า ความเสียหายที่เกิดจากภาวะภัยแล้งในปี 2558 ครอบคลุมพื้นที่ 2.87 ล้านไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่มีความเสียหายจริง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงมีนโยบายให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ตามโครงการบูรณาการมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบปี 2558/2559 จำนวน 8 มาตรการ 45 โครงการ โดย กรมพัฒนาที่ดิน ได้แนะแนวทางจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นไว้ในดิน แก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยการร่วมมือ ร่วมใจกันทุกฝ่าย และปฏิบัติตามคำแนะนำ ซึ่งการอนุรักษ์ดินและน้ำมี 2 มาตรการ คือ มาตรการทางวิธีกล และมาตรการทางวิธีพืช


มาตรการทางวิธีกล คือ การอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยการควบคุมน้ำไหลบ่าหน้าดิน สร้างสิ่งกีดขวางความลาดเทของพื้นที่และทิศทางการไหลของน้ำ ช่วยลดและชะลอความเร็วของกระแสน้ำ เป็นวิธีการอนุรักษ์ดินและน้ำที่ค่อนข้างถาวร มีประสิทธิภาพ แต่การลงทุนค่อนข้างสูง เช่น การไถพรวนและปลูกพืชตามแนวระดับ การไถพรวนหว่านปลูกและเก็บเกี่ยวพืชไปตามแนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่ เพิ่มการซึมซับน้ำของดินและรักษาความชุ่มชื้นไว้ในดิน ส่วนในพื้นที่ที่มีความแห้งแล้งมีการทำขั้นบันไดดิน ปรับพื้นที่เป็นขั้นๆ ต่อเนื่องกัน เพื่อปลูกพืช ลดความยาวและระดับความลาดเท

มาตรการทางวิธีพืช เป็นวิธีการจัดระบบพืชโดยการผสมผสานกัน ระหว่างมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำ และการจัดระบบพืชปลูกเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของพืช การปรับปรุงบำรุงดินด้วยวิธีนี้ มีการลงทุนที่ต่ำเกษตรกรสามารถปฏิบัติได้เอง โดยใช้พืชตระกูลถั่ว หญ้าเลี้ยงสัตว์ หรือหญ้าแฝก ปลูกเป็นแถบขวาง ความลาดเทของพื้นที่ ทั้งนี้ เกษตรกรจะต้องไม่เผาทำลายเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นาหรือตอซังพืช มีการไถพรวน ให้ถูกวิธี ไม่ไถพรวนขึ้นลงตามความลาดเทของพื้นที่ แต่ไถพรวนขวางความลาดเทของพื้นที่ และไม่ทำการไถพรวนบ่อยครั้ง ควรปลูกพืชให้ถูกวิธี ปลูกพืชตระกูลถั่วบำรุงดิน คลุมดินและปลูกตามแนวระดับ ปรับปรุงบำรุงดิน โดยใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะช่วยให้เกิดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรดินและน้ำ เพื่อการทำเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและยั่งยืน

ทั้งนี้ การจัดการเรื่องน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องให้มีการเก็บกักน้ำ การชะลอการไหลของน้ำและการเพิ่มระยะเวลาการไหลของน้ำให้ยาวนานขึ้น ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิถีการพัฒนาที่ดิน เพื่อช่วยลดความเสียหายของพื้นที่ทำการเกษตรจากการขาดแคลนน้ำ ซึ่งเป็นผลมาจากฝนทิ้งช่วงในช่วงฤดูฝน ตัวเกษตรกรเองต้องลงมือทำอย่างจริงจังในพื้นที่ของตนเองเริ่มต้นจากครัวเรือนสู่ครัวเรือน จากชุมชนสู่ชุมชน ให้ความร่วมมือกัน จัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ พร้อมปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ ร่วมกันลงมือทำในทุกพื้นที่เสมือนเป็นจิกซอว์เชื่อมต่อๆ กัน จนกลายเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินให้แก่พืช ทำให้มีผลผลิตในช่วงฤดูแล้ง สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง และช่วยกันพัฒนาพื้นที่ประสบปัญหาแล้งซ้ำซากให้สามารถใช้ประโยชน์ต่อการทำเกษตรได้มากยิ่งขึ้น

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top