พบทุจริตอื้อ

งานอุดกลบบ่อบาดาล

ผลาญงบปี’57เกือบ100ล.

แฉปลอมใบเสร็จเบิกเงิน

เรียกอธิบดีน้ำฯขันนอต

เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยถึงการตรวจสอบโครงการอุดกลบบ่อน้ำบาลดาลหลังตรวจสอบพบมีการทุจริตว่า วันนี้คณะทำงานที่เกี่ยวข้องได้มาพูดคุยประเด็นดังกล่าว โดยเรื่องนี้ได้เรียนพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปแล้วว่าขณะนี้มีปัญหาเรื่องน้ำอย่างมาก ซึ่งการตรวจสอบเมื่อปี 2557 พบข้อบกพร่อง จึงเรียกอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมาหารือเนื่องจากมีเรื่องไม่ชอบมาพากล รวมทั้งไม่อยากให้งบประมาณปี 2558 เบิกออกมาใช้และตรวจพบเจอปัญหาเกิดขึ้นอีก

ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขา ศอตช.แถลงผลการตรวจสอบโครงการอุดกลบบ่อน้ำบาดาล ปีงบประมาณ 2552-2558 ซึ่งพบข้อพิรุธและมีเหตุอันควรสงสัยว่า อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการทุจริตในการดำเนินโครงการดังกล่าวของสำนักพัฒนาน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเป็นงบจากกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล

จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ในพื้นที่สำนัก ป.ป.ท.เขต 4 มีจำนวนบ่อที่ต้องอุดกลบ 1,320 บ่อ สุ่มตรวจจากเอกสารเบิกจ่าย 100 บ่อ สุ่มตรวจบ่อ 10 บ่อ สำนักงานป.ป.ท.เขต 5 จำนวนบ่ออุดกลบ 200 บ่อ สุ่มตรวจจากเอกสารเบิกจ่าย 200 บ่อ สุ่มตรวจบ่อ 4 บ่อ สำนักงานป.ป.ท.เขต 7 จำนวนบ่ออุดกลบ 300 บ่อ สุ่มตรวจจากเอกสารเบิกจ่ายจำนวน 40 บ่อ สุ่มตรวจบ่อ 5 บ่อ รวมจำนวนบ่ออุดกลบทั้งหมด 1,820 บ่อ สุ่มตรวจจากเอกสารเบิกจ่าย 340 บ่อ สุ่มตรวจบ่อ 19 บ่อ

สำหรับข้อมูลการอุดกลบบ่อน้ำบาดาลตั้งแต่ปี 2547-2557 มีจำนวนบ่อที่ต้องอุดกลบทั้งสิ้น 44,271 บ่อ งบประมาณ 859,300,100 บาท เฉพาะการเบิกจ่ายงบปี 2557 มีการตรวจสอบพบว่า มีบ่อบาดาลที่ต้องอุดกลบทั้งหมด 4,886 บ่อ และได้รับอนุมัติงบมา 103 ล้านบาท และพบมีการเบิกจ่ายไปแล้ว 99 ล้านบาท ซึ่งการอุดกลบแต่ละบ่อจะมีค่าใช้จ่าย 16,000-18,000 บาท โดยกรณีนี้ข้าราชการกรมน้ำบาดาลเป็นผู้ร้องให้ป.ป.ท.เข้าตรวจสอบหลังพบเบาะแสทุจริต

“ทั้งนี้ นายกฯมอบนโยบายให้รมว.ยุติธรรมว่าให้ ศอตช.ตรวจสอบโครงการฯดังกล่าว เป็นการตรวจป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นสำหรับโครงการปี 2558 ที่กำลังจะเริ่มขึ้น และในส่วนของเก่าก็ตรวจสอบไป โดยวันนี้ได้การประชุม สตง. ปปช. ป.ป.ท.ในนามของศอตช. พร้อมทั้งเชิญอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มาร่วมด้วย เพื่อขอเอกสาร หลักฐานในส่วนของเก่า พร้อมทั้งส่งคนไปร่วมกับศอตช.ในการลงพื้นที่ตรวจสอบ”นายประยงค์กล่าว

ด้านพล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการ ป.ป.ท.กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบโครงการดังกล่าวน่าจะมีความเสียหาย 90% เนื่องจากในฎีกาเบิกจ่ายพบมีใบเสร็จค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเป่าล้างบ่อ ค่าใบเสร็จน้ำปูนซีเมนต์ในการอุดกลบบ่อบาดาล และใบเสร็จค่าจ้างตัดท่อบ่อน้ำบาดาลถูกทำปลอมขึ้น โดยบริษัทที่มีชื่ออยู่หัวใบเสร็จยืนยันว่าปลอม บางรายให้ข้อมูลว่ามีโรงพิมพ์ติดต่อให้ไปรับใบเสร็จทั้งที่ไม่เคยจ้างผลิต นอกจากนี้ พบพยานบุคคลให้การยืนยันว่า ไม่ได้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปเป่าล้างบ่อตามที่ระบุในใบเสร็จ แต่กลับตั้งเบิกเต็มวงเงิน

“จากการลงพื้นที่สุ่มตรวจ เช่น ขอนแก่น มหาสารคาม ชลบุรี และนครปฐม มีปัญหาทุจริตไม่แตกต่างกัน โดยการอุดกลบบ่อบาดาลตามมาตรฐานจะใช้เวลาทำงาน 2 วัน.แต่ผู้รับเหมาเข้าไปทำงานไม่ถึงครึ่งวัน เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจพิสูจน์ด้วยการขุดบ่อพบความลึกจากขอบบ่อ 70 เมตร แต่ผู้รับเหมาใช้วิธีฝังกลบตบตามีความลึกเพียง 50 เซนติเมตร หลังจากนี้จะเข้าตรวจสอบว่า น้ำปูนซิเมนต์ที่ใช้อุดกลบมีทรายและหินผสมหรือไม่ เพราะตามมาตรฐานต้องเป็นน้ำปูนมอร์ตาร์เท่านั้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่เซ็นต์ตรวจรับงานเป็นระดับซี 2 และซี 4 จึงตั้งข้อสังเกตว่าใช้ข้าราชการชั้นผู้น้อยเข้ามารับผิดชอบโครงการที่มีมูลค่า 700,000-800,000 บาท”พล.ต.อ.จรัมพรกล่าว และว่า นอกจากนี้ ยังมีการเบิกเบี้ยเลี้ยงทำงานผิดปกติ ซึ่งการทำงานข้างนอกจะได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงวันละ 240 บาท แต่มีการเบิกเบี้ยเลี้ยงทำงานถึง 70 - 80 วัน ปลอมใบเสร็จเบิกจ่ายค่าน้ำมัน

กรรมการ ป.ป.ท.กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ในแต่ละพื้นที่มีบ่อบาดาลที่ต้องขุดเพิ่มจำนวนมาก เขตพื้นที่ 6 จำนวน 600 บ่อ และเขตพื้นที่ 4 จำนวน 500 บ่อ การตรวจครั้งนี้จึงถือเป็นป้องปรามความเสียหายไม่ให้เกิดซ้ำในปีนี้ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องในการทุจริตครั้งนี้ มีตั้งแต่ระดับนายช่างผู้ทำการอุดกลบ (วิศวกร) เจ้าหน้าที่ผู้รับรองการกลบ กรรมการตรวจรับ และผู้ยืมเงินทดรองราชการ ส่วนจะรวมถึงหัวหน้าโครงการหรือผู้อำนวยการโครงการและผู้อำนวยการเขตหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ตรวจการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) กล่าวว่า ศอตช.แจ้งเตือนให้อธิบดีกรมน้ำบาดาลฯ เก็บเอกสารหลักฐานและส่งมอบเอกสารให้ศอตช.ตรวจสอบ ถ้าพบทุจริตขอให้เรียกเงินคืนจากผู้รับผิดชอบทั้งหมด นอกจากนี้ ยังทำความเข้าใจถึงแนวทางการตรวจสอบโครงการอุดกลบน้ำบาดาล ให้นำกลับไปแก้ไขไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนในการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558

“ในปีนี้ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ จึงต้องใช้การบริหารจัดการงบประมาณที่ดี นายกฯเป็นห่วงมาก ความเสียหายครั้งนี้ตรวจพบในกรมน้ำบาดาลฯ ซึ่งศอตช.พบว่ากรมทรัพยากรน้ำก็ใช้วิธีการรูปแบบเดียวกัน ดังนั้น จึงต้องขยายการตรวจสอบไปยังโครงการของกรมน้ำฯด้วย โดยวันที่ 28 เมษายน ผมจะลงพื้นที่พร้อมพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ตรวจสอบโครงการอุดกลบบ่อบาดาลใน จ.สกลนคร”นายพิศิษฐ์กล่าว