จังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ เทศบาลเมืองอำนาจเจริญและกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์รวมถึงกลุ่มข้าวสัจธรรม ได้จัดงานตลาดนัดสีเขียวขึ้น ทุกวันพุธ ที่หอนาฬิกาใจกลางเมืองอำนาจเจริญ เวลา 15.00-18.00 น. ซึ่งมีเกษตรกรที่ได้รับรองพื้นที่อินทรีย์จาก สำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (ม.ก.ท.) และมาตรฐานอื่นๆ เข้าร่วมจำหน่ายสินค้ากว่า 20 ร้าน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ สามารถสร้างรายได้และมูลค่าให้ท้องถิ่น และให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยจากสารตกค้างในสินค้าการเกษตรและหันมาบริโภคพืชผักปลอดสารเคมี เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี
นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จ.อำนาจเจริญ เป็นแหล่งผลิตข้าวอินทรีย์อันดับต้นๆ ของภาคอีสานและส่งไปจำหน่ายยังจังหวัดอื่นๆ ปีละจำนวนมาก จึงได้มีการจัดตั้งเครือข่ายข้าวสัจธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ ขึ้น มีสมาชิก 100 ราย พื้นที่ปลูกข้าว จำนวน 2,470 ไร่ ผลผลิต 503 ตัน และแบ่งเป็น 15 กลุ่ม ซึ่งทั้ง 15 กลุ่มได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์(ม.ก.ท.) จึงสามารถนำสินค้ามาวางจำหน่ายในตลาดนักสีเขียวได้ เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคผลผลิตทางการเกษตรปลอดสารเคมีอย่างแท้จริงและเป็นการส่งเสริมสุขภาพด้วย
นางจำปา สุวะไกร หัวหน้ากลุ่มข้าวสัจธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ได้จัดตั้งเครือข่ายข้าวสัจธรรมอำนาจเจริญ เมื่อปี’53 เป็นเวลา 6 ปี เพื่อส่งเสริมเกษตรกรปลูกข้าวอินทรีย์และรณรงค์ให้ประชาชนหันมาบริโภคข้าวอินทรีย์มากขึ้น ด้วยความร่วมมือจากเครือข่าย 15 กลุ่ม ทำให้พื้นที่ปลูกข้าวอินทรีย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายต้องการให้จังหวัดอำนาจเจริญเป็นจังหวัดเกษตรอินทรีย์ให้ได้
สำหรับการจัดตลาดนัดสีเขียว โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ ต้องการให้เครือข่ายข้าวสัจธรรมอำนาจเจริญมีช่องทางจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรและต้องการให้ประชาชนมีสุขภาพร่างกายที่ดี ซึ่งมีการจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรทุกวันพุธ เวลา 15.00-18.00 น. ที่หอนาฬิกา ใจกลางเมืองอำนาจเจริญ โดยมีกลุ่มสมาชิกผู้ผลิตข้าวอินทรีย์เข้าร่วม ทั้งหมด 24 ราย ดังนี้ กลุ่มเครือข่ายข้าวสัจธรรม จำนวน 16 ราย กลุ่มเครือข่ายข้าวคุณธรรม จำนวน 2 ราย กลุ่มร่วมด้วยช่วยกัน จำนวน 1 รายกลุ่ม OTOP จำนวน 2 รายและอื่นๆ จำนวน 3 ราย สินค้าในตลาดนัดสีเขียว แบ่งเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 1.ผักสด เช่น ผักบุ้ง มะเขือ แตงกวา หน่อไม้ เห็ด ชะอมผักกาด ผักพื้นบ้าน และผักตามฤดูกาล 2.ผลไม้ เช่น เสาวรส กล้วย มะละกอ มะพร้าว แตงโม ฟักข้าว แก้วมังกรและอื่นๆ3.ขนมไทย ขนมพื้นบ้าน เช่น ถั่วแปบ ขนมถ้วย ขนมช่อม่วง ขนมน้ำดอกไม้ข้าวต้มมัดและอื่นๆ 4.สินค้าหัตถกรรม สินค้า OTOP 5.อื่นๆ เช่น น้ำผัก น้ำผลไม้น้ำสมุนไพร ไข่ไก่ ไข่เป็ด ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จรูป ที่ผ่านมานับว่าสร้างรายได้แก่เกษตรกรเป็นอย่างดี
สำหรับเกษตรกรรายอื่นที่ต้องการนำสินค้ามาวางจำหน่ายจะต้องผ่านกฎระเบียบของคณะกรรมการตลาดนัดสีเขียวก่อน โดยแบ่งเป็นสัดส่วน คือ มาตรฐานการผลิตทางการเกษตร 1.ผลผลิตทางการเกษตรที่นำมาจำหน่ายต้องเป็นกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยตั้งแต่ ระดับไม่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เช่น ยาฆ่าแมลงและไม่ใช้สารเคมีในการผลิต 2.ผู้ผลิตจะต้องมีการจัดการระบบการ ผลผลิตในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ทั้งระบบ และผลผลิตที่นำมาจำหน่ายต้องมาจากพื้นที่การผลิตที่ไม่ใช้สารเคมี 3.ผู้ผลิตต้องได้รับการตรวจเยี่ยมแปลงการผลิต หรือได้รับการรับรองจากคณะกรรมการตรวจสอบตลาดนัดสีเขียว ว่าเป็นผู้ผลิตตามมาตรฐานที่กำหนดขึ้น 4.กรณีผลผลิตที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของชุมชน จำเป็นต้องแจ้งแหล่งที่เก็บ/สภาพพื้นที่ที่เก็บมาแจ้งให้คณะกรรมการตรวจทราบและตรวจก่อนทุกครั้ง
นอกจากนี้ ภายในงานทุกวันพุธ ก็จะมีเวทีเล่านิทานและดนตรีพื้นเมืองขับกล่อมบรรเลงเพลงให้ผู้ที่มาเดินเลือกซื้อสินค้าได้เพลิดเพลินตลอดเวลาอีกด้วย
นายโสภณ กิตติวรรณวงศ์ อายุ 64 ปี ชาวเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ ระหว่างเดินซื้อสินค้าทางเกษตรปลอดสารเคมี กล่าวว่า ทุกวันนี้จะบริโภคอาหารก็ต้องระมัดระวังให้มาก ซึ่งพ่อค้า แม่ค้า บางคนมักจะใส่สี ผสมสารเคมี ในอาหาร เพื่อให้อาหารใหม่สดอยู่เสมอ จึงเป็นเรื่องที่ดี ในการจัดโครงการตลาดนัดสีเขียวทุกวันพุธ จะทำให้ประชาชนมีทางเลือกบริโภคอาหารได้อย่างปลอดภัย ส่งผลให้ร่างกายปราศจากโรคภัยเจ็บป่วยด้วย ก็ขอชมเชย เป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์แก่ประชาชนมาก ก็ขอสนับสนุนให้จัดโครงการดีๆ นี้ต่อไป...
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี